Castello Di Bellagio เป็นร้านอาหารอิตาลี ที่โรเเมนติกและเหมาะเเก่การมาเดทมากครับ โดยเฉพาะโซน Outdoor ที่เราสามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า และสีสันต์ยามค่ำคืนของเมืองพัทยา ไปพร้อมกับอาหารได้อย่างดีเยี่ยม
หากดูเพินๆ การตบแต่งที่นี้คงดูเหมือนร้านอาหารตามเมืองท่องเที่ยวทั่วไป แต่หลังจากได้พูดคุยกับคุณไอซ์ สุรนาถ CEO ของร้านที่เล่าถึงความชื่นชอบเมือง Bellagio จากอิตาลีจึงพยายามยกกลับมาไว้ที่พัทยา โดยทางร้านนั้นใช้เฟอร์นิเจอร์ ประตู หน้าต่าง ของเก่าที่นำเข้ามาจากยุโรป หรือจะเป็นรูปปั้นงานศิลปะต่างๆที่เป็นของเก่าจริงๆ
โซนที่ประทับใจผมคงไม่พ้น Cellar ของร้าน ที่รวบรวมไวน์ปีดีๆจากทั่วทั้งมุมโลกไว้ภายในห้องรักษาอุณหภูมิและความชื้น หรือจะเป็นห้องPrivateข้างๆที่ทางคุณไอซ์เล่าว่าใช้หินที่เก็บได้บริเวณที่ก่อสร้างนำมาตบแต่งตามขนบของปราสาทในยุโรป
ว่ากันในเรื่องของอาหาร อาหารของที่นี้มีส่วนผสมของอาหารอิตาลีจานคลาสสิกและสไตล์โมเดิร์นเอาไว้เข้าด้วยกัน รสอาหารของที่นี้นั้นมีทั้งความ authentic ที่ถูกปรับให้มีความครบรสเข้ากับลิ้นคนไทย
เมนูแนะนำคงจะหนีไม่พ้นพาสต้าเส้นสดทำเองของทางร้านและสเต็กเนื้อต่างๆที่ทำได้ดีมากๆ ผมยังคงนึกถึงจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะเนื้อ Striploin Butter aged ที่ยังคงตราตรึงใจผมจนถึงวันนี้ ความดีงามของจานนี้ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อจากฟาร์มดัง Ranger Valley แต่ทางร้านยังทำการ Butter aged ได้อย่างลงตัวและย่างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผิวเนื้อที่กรอบนิด เนื้อข้างในที่นุ่มละลายมีความมันแต่ไม่รู้สึกเลี่ยนหนัก มีความหอมที่ลงตัวของเนยเเละกลิ่นเนย เครื่องเคียงที่ผมแนะนำคือ Brocolini ย่าง บล็อคโคลี่จิ๋วที่หาทานได้ยากครับ
หรือจะเป็น Loligitas Italian Sausageพาสต้าจานเด็ดที่คุณไอซ์เจ้าของร้านเรียกว่า เส้นลูกน้องร้องไห้เพราะวิธีการทำของมันคือเอาเส้นcapelliniสามเส้นมาม้วนรวมกัน พาสต้าจานนี้มีรสเข้มข้นหวานอมเปรี้ยวจากมะเขือเทศและครีมนมนิดๆจากมาสคาโปนครีม รสเข้มข้นกลมกล่อม แบบฉบับทัสคานี่ เป็นอีกจานที่ถูกปากทุกคนในวันนั้นครับ

อีกหนึ่งไฮไลท์ของวันนี้ที่พูดอย่างไม่อวยว่างานเนี้ยบมากๆ คือบรรดาขนมหวานต่างๆของทางร้านที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามปราณีตครับ ไม่ว่าจะเป็น Matcha Terrine ที่ใช้มัทฉะจากฟุคุโอกะเสริฟ์มาพร้อมกับไวท์ช็อคโกแลต ยุซุเจลและเอสพูม่าน้ำผึ้ง หรือTiramitsuที่สวยงาม มีรสครีมมี่ไม่เข้มข้นจนเกินไปสามารถรับประทานได้เรื่อยครับ
เมนูอื่นๆที่ผมชอบนั้นได้แก่

(Smoked Salad)
Smoked Kale / Roasted Butternut / Coppa Ham
Pumpkin Seed / Crispy Pumpkin / Parmigiano Reggiano
สลัดจานนี้เรียกว่าเปิดโลกเลยทีเดียวครับโดยปกติผมมักจะไม่ค่อยชอบKale เพราะรสที่ขม จนบางทีกินแล้วเป็นไมเกรนเลยทีเดียวแต่Kale ที่นี้ที่ถูกนำไปย่างไฟนิดมีกลิ่นหอมไหม้รสไม่ขมเลย เข้าับความหวานครีมมี่ของบัทเตอร์นัทอบ และความกรุบกรอบจากฟักทองกรอบและเล็ดฟักทองได้อย่างลงตัว เป็นจานที่อยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองครับ
(Ravioli Beef Consommé)
Beef Cheek / Beef Clarified Soup
Portobello / Sichuan Oil
โดยเชฟเลือกเสริฟเกี๊ยวอิตาลีมากับ คอนซอมเม่จากวัว ที่รมควันโรสแมรี่ ตัวไส้Tortellini นั้นเป็นเเก้มวัวตุ๋นไวน์แดง จานนี้เป็นซุปที่รสเบาๆคล่องคอไม่ได้กลิ่นMeattyจัดมีกลิ่นกลิ่นหวานของโรสแมรี่แทรกเบาๆ Totellini แป้งลื่นคอดีครับ ไส้นั้นรสเบาๆเนื้อนุ่มไม่มันหอมกลิ่นไวน์อ่อนๆ
(Capellini Chilli Crab)
Crab Meat / Crab Roes / Dried Chilli
Corainder / Crab Bisque / Rosé Sauce
จานนี้เชฟเลือกใช้ปูม้าจากอ่าวไทยมาผัดกับเส้นCapelliniและซอสBisqueของปูม้า และไข่ปู เป็นจานที่ได้ความหวานของปูม้าของดีของไทยอย่างเต็มเปี่ยม เนื้อปูก้อนโต เส้นพาสต้าที่ดูดซับความหวานจากท้องทะเลในวอสครีมรสหวานละมุน ตัดความหนักด้วยรสเผ็ดจากพริกแห้งเบาๆ เป็นอีกจานที่อยากแนะนำให้ลองครับ

(Lorighittas Italian Sausage)
Italian Sausage / Marinated Tomato / Mascarpone Sauce
พาสต้าจานเด็ดที่คุณไอซ์เจ้าของร้านเรียกว่า เส้นลูกน้องร้องไห้เพราะวิธีการทำของมันคือเอาเส้นcapelliniสามเส้นมาม้วนรวมกัน พาสต้าจานนี้มีรสเข้มข้นหวานอมเปรี้ยวจากมะเขือเทศและครีมนมนิดๆจากมาสคาโปนครีม รสเข้มข้นกลมกล่อม แบบฉบับทัสคานี่ เป็นอีกจานที่ถูกปากทุกคนในวันนั้นครับ
(Ribeye Butter Aged 500 g.)
45 Days Butter Aged
AUS. Ribeye (Ranger Valley)
เป็นจานที่อยากแนะนำให้สั่งทุกคนแม้ราคาจะดูสูงแต่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ ร้านที่มีสเต็กระดับนี้ได้ในกรุงเทพยังมีนับร้านได้เลย ความดีงามของจานนี้ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อจากฟาร์มดัง Ranger Valley แต่ทางร้านยังทำการ Butter aged ได้อย่างลงตัวและย่างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผิวเนื้อที่กรอบนิด เนื้อข้างในที่นุ่มละลายมีความมันแต่ไม่รู้สึกเลี่ยนหนัก มีความหอมที่ลงตัวของเนยเเละกลิ่นเนย เนื้อคุณภาพเยี่ยมถูกปรุงรสด้วยเกลือที่ผมเดาไม่ผิดน่าจะเป็นMaldonและพริกไท kampot จะกลิ่นเปล่ากับเกลือและพริกไทก็ได้ หรือจะกินกับซอสBeef jus ก็ไม่ผิดอะไร เครื่องเคียงที่ผมแนะนำคือ Brocolini ย่าง บล็อคโคลี่จิ๋วที่หาทานได้ยากครับ
(Tiramisu)
Tiramisu Mousse / Lady Finger / Vanilla Sauce
Coffee Crumble / Feuilletine
(Matcha Terrine)
Premium Fukuoka Matcha
White Chocolate / Milk Foam
Honey Espuma / Yuze gel
[SR] บอสพาชิม : Castello Di Bellagio ร้านอาหารอิตาลีแสนRomantic (Pattaya,Thailand)
Castello Di Bellagio เป็นร้านอาหารอิตาลี ที่โรเเมนติกและเหมาะเเก่การมาเดทมากครับ โดยเฉพาะโซน Outdoor ที่เราสามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า และสีสันต์ยามค่ำคืนของเมืองพัทยา ไปพร้อมกับอาหารได้อย่างดีเยี่ยม
หากดูเพินๆ การตบแต่งที่นี้คงดูเหมือนร้านอาหารตามเมืองท่องเที่ยวทั่วไป แต่หลังจากได้พูดคุยกับคุณไอซ์ สุรนาถ CEO ของร้านที่เล่าถึงความชื่นชอบเมือง Bellagio จากอิตาลีจึงพยายามยกกลับมาไว้ที่พัทยา โดยทางร้านนั้นใช้เฟอร์นิเจอร์ ประตู หน้าต่าง ของเก่าที่นำเข้ามาจากยุโรป หรือจะเป็นรูปปั้นงานศิลปะต่างๆที่เป็นของเก่าจริงๆ
โซนที่ประทับใจผมคงไม่พ้น Cellar ของร้าน ที่รวบรวมไวน์ปีดีๆจากทั่วทั้งมุมโลกไว้ภายในห้องรักษาอุณหภูมิและความชื้น หรือจะเป็นห้องPrivateข้างๆที่ทางคุณไอซ์เล่าว่าใช้หินที่เก็บได้บริเวณที่ก่อสร้างนำมาตบแต่งตามขนบของปราสาทในยุโรป
ว่ากันในเรื่องของอาหาร อาหารของที่นี้มีส่วนผสมของอาหารอิตาลีจานคลาสสิกและสไตล์โมเดิร์นเอาไว้เข้าด้วยกัน รสอาหารของที่นี้นั้นมีทั้งความ authentic ที่ถูกปรับให้มีความครบรสเข้ากับลิ้นคนไทย
เมนูแนะนำคงจะหนีไม่พ้นพาสต้าเส้นสดทำเองของทางร้านและสเต็กเนื้อต่างๆที่ทำได้ดีมากๆ ผมยังคงนึกถึงจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะเนื้อ Striploin Butter aged ที่ยังคงตราตรึงใจผมจนถึงวันนี้ ความดีงามของจานนี้ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อจากฟาร์มดัง Ranger Valley แต่ทางร้านยังทำการ Butter aged ได้อย่างลงตัวและย่างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผิวเนื้อที่กรอบนิด เนื้อข้างในที่นุ่มละลายมีความมันแต่ไม่รู้สึกเลี่ยนหนัก มีความหอมที่ลงตัวของเนยเเละกลิ่นเนย เครื่องเคียงที่ผมแนะนำคือ Brocolini ย่าง บล็อคโคลี่จิ๋วที่หาทานได้ยากครับ
หรือจะเป็น Loligitas Italian Sausageพาสต้าจานเด็ดที่คุณไอซ์เจ้าของร้านเรียกว่า เส้นลูกน้องร้องไห้เพราะวิธีการทำของมันคือเอาเส้นcapelliniสามเส้นมาม้วนรวมกัน พาสต้าจานนี้มีรสเข้มข้นหวานอมเปรี้ยวจากมะเขือเทศและครีมนมนิดๆจากมาสคาโปนครีม รสเข้มข้นกลมกล่อม แบบฉบับทัสคานี่ เป็นอีกจานที่ถูกปากทุกคนในวันนั้นครับ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของวันนี้ที่พูดอย่างไม่อวยว่างานเนี้ยบมากๆ คือบรรดาขนมหวานต่างๆของทางร้านที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามปราณีตครับ ไม่ว่าจะเป็น Matcha Terrine ที่ใช้มัทฉะจากฟุคุโอกะเสริฟ์มาพร้อมกับไวท์ช็อคโกแลต ยุซุเจลและเอสพูม่าน้ำผึ้ง หรือTiramitsuที่สวยงาม มีรสครีมมี่ไม่เข้มข้นจนเกินไปสามารถรับประทานได้เรื่อยครับ
เมนูอื่นๆที่ผมชอบนั้นได้แก่
(Smoked Salad)
Smoked Kale / Roasted Butternut / Coppa Ham
Pumpkin Seed / Crispy Pumpkin / Parmigiano Reggiano
สลัดจานนี้เรียกว่าเปิดโลกเลยทีเดียวครับโดยปกติผมมักจะไม่ค่อยชอบKale เพราะรสที่ขม จนบางทีกินแล้วเป็นไมเกรนเลยทีเดียวแต่Kale ที่นี้ที่ถูกนำไปย่างไฟนิดมีกลิ่นหอมไหม้รสไม่ขมเลย เข้าับความหวานครีมมี่ของบัทเตอร์นัทอบ และความกรุบกรอบจากฟักทองกรอบและเล็ดฟักทองได้อย่างลงตัว เป็นจานที่อยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองครับ
(Ravioli Beef Consommé)
Beef Cheek / Beef Clarified Soup
Portobello / Sichuan Oil
โดยเชฟเลือกเสริฟเกี๊ยวอิตาลีมากับ คอนซอมเม่จากวัว ที่รมควันโรสแมรี่ ตัวไส้Tortellini นั้นเป็นเเก้มวัวตุ๋นไวน์แดง จานนี้เป็นซุปที่รสเบาๆคล่องคอไม่ได้กลิ่นMeattyจัดมีกลิ่นกลิ่นหวานของโรสแมรี่แทรกเบาๆ Totellini แป้งลื่นคอดีครับ ไส้นั้นรสเบาๆเนื้อนุ่มไม่มันหอมกลิ่นไวน์อ่อนๆ
(Capellini Chilli Crab)
Crab Meat / Crab Roes / Dried Chilli
Corainder / Crab Bisque / Rosé Sauce
จานนี้เชฟเลือกใช้ปูม้าจากอ่าวไทยมาผัดกับเส้นCapelliniและซอสBisqueของปูม้า และไข่ปู เป็นจานที่ได้ความหวานของปูม้าของดีของไทยอย่างเต็มเปี่ยม เนื้อปูก้อนโต เส้นพาสต้าที่ดูดซับความหวานจากท้องทะเลในวอสครีมรสหวานละมุน ตัดความหนักด้วยรสเผ็ดจากพริกแห้งเบาๆ เป็นอีกจานที่อยากแนะนำให้ลองครับ
(Lorighittas Italian Sausage)
Italian Sausage / Marinated Tomato / Mascarpone Sauce
พาสต้าจานเด็ดที่คุณไอซ์เจ้าของร้านเรียกว่า เส้นลูกน้องร้องไห้เพราะวิธีการทำของมันคือเอาเส้นcapelliniสามเส้นมาม้วนรวมกัน พาสต้าจานนี้มีรสเข้มข้นหวานอมเปรี้ยวจากมะเขือเทศและครีมนมนิดๆจากมาสคาโปนครีม รสเข้มข้นกลมกล่อม แบบฉบับทัสคานี่ เป็นอีกจานที่ถูกปากทุกคนในวันนั้นครับ
(Ribeye Butter Aged 500 g.)
45 Days Butter Aged
AUS. Ribeye (Ranger Valley)
เป็นจานที่อยากแนะนำให้สั่งทุกคนแม้ราคาจะดูสูงแต่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ ร้านที่มีสเต็กระดับนี้ได้ในกรุงเทพยังมีนับร้านได้เลย ความดีงามของจานนี้ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อจากฟาร์มดัง Ranger Valley แต่ทางร้านยังทำการ Butter aged ได้อย่างลงตัวและย่างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผิวเนื้อที่กรอบนิด เนื้อข้างในที่นุ่มละลายมีความมันแต่ไม่รู้สึกเลี่ยนหนัก มีความหอมที่ลงตัวของเนยเเละกลิ่นเนย เนื้อคุณภาพเยี่ยมถูกปรุงรสด้วยเกลือที่ผมเดาไม่ผิดน่าจะเป็นMaldonและพริกไท kampot จะกลิ่นเปล่ากับเกลือและพริกไทก็ได้ หรือจะกินกับซอสBeef jus ก็ไม่ผิดอะไร เครื่องเคียงที่ผมแนะนำคือ Brocolini ย่าง บล็อคโคลี่จิ๋วที่หาทานได้ยากครับ
(Tiramisu)
Tiramisu Mousse / Lady Finger / Vanilla Sauce
Coffee Crumble / Feuilletine
(Matcha Terrine)
Premium Fukuoka Matcha
White Chocolate / Milk Foam
Honey Espuma / Yuze gel
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น