เกือบ 2 ทศวรรษที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยจนส่งผลกระทบกับการเมือง ปลดนายกรัฐมนตรี 3 คน ยุบพรรคใหญ่ 5 ครั้ง ขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ครั้ง ล้มเลือกตั้งทั่วประเทศ 2 ครั้ง ปลด ส.ส.อีกหลายครั้ง
แต่กลับเงียบสงัดชนิดเข็มตกลงพื้นยังได้ยินเสียง สมัยรัฐประหารปกครองประเทศ ดังนั้น
การต่อสู้กับศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นภารกิจอันจำเป็นที่ต้องร่วมมือกัน ประชาชนแต่ละคนทำไม่ได้ เพราะ ไม่มีอำนาจรัฐในมือ
ทำได้แต่เพียงส่งเสียง และกดดัน พวกที่ทำได้ คือ นักการเมืองในสภา ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองต้องจัดการสู้/โต้กับศาลรัฐธรรมนูญ อย่ามัวแต่สวมวิญญาณ “นักร้อง” ร้องศาล รธน เพื่อจัดการนักการเมืองด้วยกัน
พอกันทีกับการทำตนเป็น “ไก่ในเล้า” จิกตีกันเอง รอให้พวกเขาเลือกไก่ไปเชือดทีละตัว
หยุดเสียทีกับการออกมายืนกุมเป้า เปล่งวาจา ”น้อมรับคำวินิจฉัย“ แล้วก็กลับบ้านไปพักผ่อน ส่งคนอื่นๆเข้ามารับบทต่อ
แต่นักการเมืองต้องรวมพลังกันจัดการศาลรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจที่ตนมี ยกเลิกการยุบพรรค ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ
หรือเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและที่มาเสียใหม่
ยกเลิกความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ของ ส.ส./รมต.
ยกเลิกอำนาจการตรวจสอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นักการเมืองต้องแบกรับภารกิจเหล่านี้
ถ้านักการเมืองในสภารอบนี้ ไม่คิดทำ
แต่เลือกกลับไปสมคบสุงสิงกับพวกชนชั้นนำ เลือกหนทาง “อยู่เป็น” หรือร้องขอความเมตตาจากพวกเขา เพื่อขอใบอนุญาตใบที่สองให้ตนได้เป็นรัฐมนตรี กันแบบเดิมๆแล้วล่ะก็
หนทางเดียวที่ “ประชาชน” มี คือ “ประชาชน” เลือก “ประชาชน” เข้าไปจัดการ
และถ้า “ประชาชน” โดนจัดการ เอาคืน ทุบ ยุบปราบ อีก “ประชาชน” ก็จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ “ประชาชน”
สุกงอมเพียงพอที่จะเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ไม่เคยเห็นในประเทศไทยมาก่อน
https://x.com/Piyabutr_FWP/status/1823676013236379911
เรื่องนี้เห็นด้วยกับท่านอาจารย์ปิยบุตรทุกประการค่ะ (หงส์เหนือมังกร)
แต่กลับเงียบสงัดชนิดเข็มตกลงพื้นยังได้ยินเสียง สมัยรัฐประหารปกครองประเทศ ดังนั้น
การต่อสู้กับศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นภารกิจอันจำเป็นที่ต้องร่วมมือกัน ประชาชนแต่ละคนทำไม่ได้ เพราะ ไม่มีอำนาจรัฐในมือ
ทำได้แต่เพียงส่งเสียง และกดดัน พวกที่ทำได้ คือ นักการเมืองในสภา ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองต้องจัดการสู้/โต้กับศาลรัฐธรรมนูญ อย่ามัวแต่สวมวิญญาณ “นักร้อง” ร้องศาล รธน เพื่อจัดการนักการเมืองด้วยกัน
พอกันทีกับการทำตนเป็น “ไก่ในเล้า” จิกตีกันเอง รอให้พวกเขาเลือกไก่ไปเชือดทีละตัว
หยุดเสียทีกับการออกมายืนกุมเป้า เปล่งวาจา ”น้อมรับคำวินิจฉัย“ แล้วก็กลับบ้านไปพักผ่อน ส่งคนอื่นๆเข้ามารับบทต่อ
แต่นักการเมืองต้องรวมพลังกันจัดการศาลรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจที่ตนมี ยกเลิกการยุบพรรค ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ
หรือเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและที่มาเสียใหม่
ยกเลิกความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ของ ส.ส./รมต.
ยกเลิกอำนาจการตรวจสอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นักการเมืองต้องแบกรับภารกิจเหล่านี้
ถ้านักการเมืองในสภารอบนี้ ไม่คิดทำ
แต่เลือกกลับไปสมคบสุงสิงกับพวกชนชั้นนำ เลือกหนทาง “อยู่เป็น” หรือร้องขอความเมตตาจากพวกเขา เพื่อขอใบอนุญาตใบที่สองให้ตนได้เป็นรัฐมนตรี กันแบบเดิมๆแล้วล่ะก็
หนทางเดียวที่ “ประชาชน” มี คือ “ประชาชน” เลือก “ประชาชน” เข้าไปจัดการ
และถ้า “ประชาชน” โดนจัดการ เอาคืน ทุบ ยุบปราบ อีก “ประชาชน” ก็จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ “ประชาชน”
สุกงอมเพียงพอที่จะเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ไม่เคยเห็นในประเทศไทยมาก่อน
https://x.com/Piyabutr_FWP/status/1823676013236379911