ไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ตัวร้ายศัตรูทางเดินหายใจ


ระบบทางเดินหายใจเป็นระบบที่อาจต้องพบเจอความอันตรายจากเชื้อไวรัสเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเชื้อไวรัสที่เป็นตัวการสำคัญ คือ “ไวรัสอาร์เอสวี (RSV)” ไวรัสตัวนี้จะมีอันตรายมากขึ้น และมีความเสี่ยงสูงกับเด็กเล็ก รวมถึงผู้สูงอายุหากติดเชื้อไปแล้วจะส่งผลให้มีอาการที่รุนแรงมากกว่าปกติ และยิ่งมีผลกับระบบทางเดินหายใจซึ่งเป็นระบบที่สำคัญอย่างมากด้วย เราจึงไม่ควรมองข้ามไวรัสตัวนี้โดยเด็ดขาด


จะติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ได้อย่างไร ? 

เชื้อไวรัสตัวนี้จะสามารถแพร่กระจายจากผู้ที่ติดเชื้อได้ 3-8 วัน ผ่านทางสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หรือการรับเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายภายในอากาศ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงคือ เด็กเล็ก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป นอกจากยังสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีความเสี่ยงด้วยปัจจัยอื่นได้เช่นกัน เช่น ผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกัน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด เป็นต้น


หากติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) จะมีอาการอย่างไร

การติดเชื้อจะปรากฏอาการหลังได้รับเชื้อไปแล้วประมาณ 4-6 วัน อาการโดยทั่วไปจะมีความคล้ายคลึงกับโรคไข้หวัดธรรมดา แต่สำหรับอาการในเด็กเล็กจะมีอาการเฉพาะแตกต่างจากการติดเชื้อในผู้อื่น คือ

- อาการหลอดลมฝอยอักเสบ โดยผู้ป่วยจะมีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก

- ระดับที่รุนแรง คือ หน้าอกบุ๋มลงไป มีปัญหาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจมีเสียงดังแหลม ไม่อยากอาหาร และมีอาการซึม


รักษาเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) อย่างไร ? 

สามารถรักษาได้ด้วยการเข้าพบแพทย์เพื่อรับการดูแลรักษาตามอาการ เนื่องจากตัวยาโดยตรงยังไม่มีการผลิตออกมาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และหากจะกล่าวถึงวัคซีนที่ใช้ป้องกันปัจจุบันก็ยังไม่มีเช่นเดียวกัน เราจึงทำได้เพียงลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสนี้เท่านั้น ได้แก่

- ล้างมือด้วยน้ำสะอาดเป็นประจำ

- ดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอต่อร่างกาย

- หากป่วยไม่ควรออกนอกบ้านหากยังไม่หายดี

- ดูแลทำความสะอาดสิ่งของเป็นประจำ

- หลีกเลี่ยงควันบุหรี่


การติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) อาจไม่สามารถป้องกันได้โดยตรง และมีผลอย่างมากกับเด็กเล็ก แต่การสอนให้เด็กรู้จักสุขอนามัยที่ดีในชีวิตประจำวันก็สามารถช่วยให้เด็กปลอดภัยจากเชื้อไวรัสตัวนี้ได้เช่นกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่