ผมจะมาเฉลยกับโรคที่ผมเป็นมา 14 ปี ที่เขาเรียกว่าหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

ผมเคยพิมเรื่องใช้บาร์โหนจากกระทู้เก่าเมื่อกี่ปีจำไม่ได้แต่นานมากๆๆ แล้ว ลองไปหาอ่านดูเล่นๆ ได้ ว่าที่มาที่ไปเป็นยังไงนะครับ
โรคบ้านี่ มันทำให้ผมขาซ้ายอ่อนแรง เหมือนคนเป็นเส้นเลือดสมองตีบ กระดกข้อเท้าไม่ได้ จากคนปกติค่อยๆ เริ่มเดินผิดปกติมากขึ้นๆ 
เดินเหมือนคนขาไม่เท่ากัน เดินเหมือนใส่ขาเหล็กข้างใน ผมคิดนะว่าทำไมชีวิตกูต้องมาเป็นแบบนี้อายุยังไม่เยอะแล้วทำไมต้องมาเป็นโรคบ้าบอแบบนี้
โรคที่หาสาเหตุไม่เจอ จนมาถึงวันนึงเมื่อ 7 ปีก่อน ผมไป mri ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. ยอมเสียเงินค่าเอกซเรย์วันนั้นเลย 9000 บาท เพื่อจะให้รู้ว่าตัวเองเป้นอะไรกันแน่ หมอบอกว่าผมไม่ได้เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คือดูในแผ่นเอกซเรย์ กับอาการที่เห็นด้วยตาตอนนี้มันตรงข้ามกัน 
อาการที่เป็นทำไมมันหนัก แต่ในแผ่นเอ็กซเรย์มันดูแล้วไม่น่าจะหนักส่งผลถึงขนาดนี้  จากวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึกไม่เชื่อหมอคนแรก ที่บอกว่าผมเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท  ผมจึงไม่ไปหาหมออีกเลย และหาข้อมูลกับอาการของตัวเองจากในกูเกิ้ล ไล่หาดูเส้นประสาท  อาการคนที่เป็น foot drop 
ด้วยความที่ผมเรียนวิศวะมา ทุกอย่างมันต้องมีเหตุและผล โรคที่เราเป็นมันต้องมีสาเหตุ อยู่ๆ มันจะเกิดขึ้นมาเป็นไปไม่ได้ บางคนบอกโดนของลมเพลมพัดรึเปล่า แล้วก็ต้องบอกว่าผมก็เร่ไปหาหมอทั้งแผนปัจจุบันและไสยศาสตร์ มาหมด ก็ไม่หาย ทีนี้ขอย้อนไปเมื่อ 11 ปีก่อน อาการยังไม่หนักยังมีแรงเกือบจะปกติ ผมจะออกกำลังกายทุกวันเล่นฟิตเนสเพื่อลดน้ำหนัก ทุกครั้งที่ไปออก จะเซลฟี่ตัวเองทุกครั้งแล้วโพสท์ลงเฟสบุ๊ก มีวันนึงทั่โพสท์รูปตัวเองหันข้าง 
ผมสังเกตเห็นก้นตัวเองงอนหลังแอ่น เฮ้ยทำไมก้นกูงอนจังหวะ หุ่นแปลกๆ  แล้วก็เก็บความสงสัยตัวเองไว้อาการคือเวลานั่งนานๆ แล้วลุกขึ้นมันจะเกร็งที่ท้อง ขายังก้าวออกทันทีไม่ได้ต้องยืดซักพัก อาการที่เจอเลยคือท้องเกร็ง เราก็คิดทำไมขาไม่มีแรงแล้วเกี่ยวไรกับท้องเกร็งวะ


แล้ววันนึงผมก็มาเห็นรูปนี้ เอ้ยเหมือนกูเป๊ะเลยผมจึงไปไล่หาข้อมูลจากกูเกิ้ลว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง แล้วผมก็เข้าใจทั้งที่ผมไม่ใช่หมอและไม่ใช่นักกายภาพ
กระทู้นี้ผมถือว่าเป้นวิทยาทาน มันเหมือนเป็นความลับทางวิชาชีพหรือจะอะไรผมไม่รู้แต่ไม่มีใครมาอธิบายบอกกัน  มันจะมีกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องอยู่ 4 อย่าง
ที่ส่งผลกับอาการของผมคือ 
1. QL muscle  ไปหาในกูเกิ้ลเองนะครับว่ามันคืออะไร

2. มันคือกล้ามเนื้อ 2 ตัวมารวมกันคือ Psoas+iliacus=  iliopsoas บริเวณรอยกางเกงในพื้นที่ในกางเกงในนั่นละ โดยประมาณ คนผิดปกติที่มีอาการจะปวดตามรอยขอบกางเกงใน


กล้ามเนื้อข้อ 1 และ 2 นี่แหละครับ เป็นสาเหตุที่ทำให้หลังผมแอ่น ก้นงอนพุงยื่น สาเหตุตอนแรกมันจะปวดอาจจะด้วยการนั่งท่าเดิมนานๆ เคสผมคือขับรถนานนั่งนานไม่เปลี่ยนท่า อาการตอนแรกเราจะไม่รุ้ตัวเลยว่ามันเป็น จนมันปวดที่สลักเพชรที่เค้าว่ากันหรือตานกเอี้ยง นั่นคืออาการเริ่มต้นปวดสลักเพชร กดลงไปเจ็บคันๆมันๆ แต่แก้ให้มันหายปวดไม่ได้ เราปล่อยให้มันปวดแบบนั้นจน...จากปวดเป็นชา...จากชาเป็นอ่อนแรง  นี่คือสเตปของผมเรียบเรียงจากประสบการณ์ตัวเอง มันจะถูกทางวิชาการมั้ยผมไม่แน่ใจ สรุปเลยแล้วกันครับเอาเป็นข้อๆ แบบเข้าใจง่าย
1. กล้ามเนื้อที่กล่าวมามันตึงซึ่งกล้ามเนื้อมันยึดกับซี่โครงกระดูกเรา กับกระดูกเชิงกราน, กระดูกต้นขา  มันสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันหมด มันเลยทำให้หลังผมแอ่น ก้นงอน พุงยื่น พอกระดูกสันหลังแอ่น จะเกิดไรต่อมาครับ หมอนรองกระดูกปลิ้นไง เพราะมันแอ่น พอไปเอกซเรย์ หมอเลยบอกเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นแบบมันปลิ้นมานิดหน่อยนะไม่เยอะ

2. และมันจะมาศาสตร์ของไทยอีกอย่างนึงที่แพทย์แผนปัจจุบันไม่ยอมรับ นั่นคือการนวดเส้น จับเส้น เส้นยึด เส้นตึง เส้นที่ว่ามามันคือเส้นเอ็น ลองไปหาในกูเกิ้ลดูครับว่าเส้นเอ็นทำหน้าที่อะไร   ข้อแนะนำคือคุณควรไปหาหมอนวดจับเส้นเก่งๆ  ถ้าไปหาหมอแผนปัจจุบันเขาจะแนะนำให้ผ่าตัด อันนี้แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมาว่าจะเจอหมอที่เก่งจริงมั้ยนะครับ

3. ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาที่ผมเป็นมันเกิดจากกล้ามเนื้อที่มันตึง ดึง หด รั้ง รัด วิธีแก้คือต้องทำให้มันคลายตัว ทำให้มันนิ่มทำให้มันคลายตัว กับกล้ามเนื้อหลัง และ กล้ามเนื้อสะโพกตามที่ผมกล่าวมา พูดง่ายๆ คือ ต้องนวดจับเส้นหาหมอนวดที่เก่งๆ และยืดคลายกล้ามเนื้อด้วยตัวเอง

4. การคลายกล้ามเนื้อด้วยตัวเองคือยังไง คือการเล่นโยคะ ท่าโยคะต่างๆ ที่เขาทำกันนั่นแหละครับ ท่าที่ช่วยยืดหลัง กับสะโพก เอว 
5.ผมเคยพิมบอกว่า บาร์โหน กับเตียงห้อยหัว หรือ เตียง hang up ผมใช้มาแล้วอาการดีขึ้น ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมมันถึงดี ก็เพราะมันไปยืดกล้ามเนื่อหลัง กับสะโพกเราไง พอยืดกล้ามเนื้อมันก็จะคลายตัวบ้างไม่มากก็น้อย ผมทำเปแป็นปีๆ แต่มันก็ไม่ใช่จะหายจนดีขึ้นผิดหูผิดตา
6. ที่ทำให้ผมดีขึ้นคือหมอนวดจับเส้นครับ จับเส้นรักษานะ ไม่ใช่จับเส้นให้สบายตัว อันนี้ลองไปหาเอาครับแต่ละพื้นที่น่าจะมีแต่จะหายไม่หายแล้วแต่บุญกรรม
7. และสำคัญอีกอย่างคือการใช้ท่าโยคะยืดเหยียด  ฝึกแกนกลางลำตัวให้แข็งแรงเช่น การวิดพื้น ดึงข้อ โหนบาร์
8. ท่าโยคะที่ผมใช้ประจำ มีนั่งยองๆ หัดนั่งยองๆ ให้ได้โดยที่ไม่ต้องจับอะไร เพราะนั่งแล้ววางเท้าไม่เต็มครับต้องมีที่จับเพราะขาไม่มีแรง เส้นมันยึด เส้นตึง





สุดท้ายผมหวังว่าจากประสบการณ์ผมจะช่วยทำให้คนหายจากโรคนี้ได้ไม่มากก็น้อย ลองไปศึกษาเพิ่มเติมเอาเองนะครับจากกูเกิ้ล เพราะความรู้ที่ผมได้มามาจากกูเกิ้ลล้วนๆ ดูแต่รูปแล้วมาเทียบกับอาการตัวเอง สรุปมันเป็นโรคที่หมอแผนปัจจุบันไม่ยอมรับมันพิสูจน์จับต้องไม่ได้นั่นคือโรคเส้น ต้องไปหาหมอนวดจับเส้น  ทีนี้พอมันเป็นนานเข้าจากแพทย์แผนไทย มันจะลามไปแพทย์แผนปัจจุบัน นั่นคือทำให้ระบบสมดุลย์ในร่างกายผิดปกติ ซ้ายกับขวาทำงานรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน ร่างกายเสียสมดุลย์ จนทำให้หลังแอ่นและหมอนรองกระดูกปลิ้นไปโดนเส้นประสาทมันคือปลายเหตุแต่มันไม่ใช่ต้นตอของปัญหา และถ้าผมพิมข้อมูลผิดในทางการแพทย์ผมขออภัยด้วยครับเพราะผมใช้ความเข้าใจล้วนๆ ไม่มีวิชาการใดๆ เอาตัวเองเป็นข้ออ้างอย่างเดียวอ้างอิงจากอาการที่ตัวเองเป็น จริงๆ ผมจะพิมมากกว่านี้แต่ขี้เกียจพิมพ์ เลยสรุปให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้ละครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่