จิตติศักดิ์ นันทพานิช
24 เมษายน 2024
https://thaipublica.org/2024/04/chittisak44/
ปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการ ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค แบงก์ชาติ แถลงผลศึกษาของแบงก์ชาติ พบว่าสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจไทยหลังโควิดโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มาจาก 2 ปัจจัย คือ หนึ่ง ปัจจัยเชิงวัฎจักรระยะสั้น โดยช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกขยายตัวจากภาคบริการซึ่งมีผลให้ส่งออกไทยชะลอตัวลง สอง "ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันรุนแรงขึ้น"
เรื่องเดียวกันสำนัก KKP Research ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ออกบทวิเคราะห์เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโดยชี้ว่า การส่งออกที่เคยเป็นหัวหอกเศรษฐกิจไทยมากว่า 30 ปีกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ จากความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง และผลกระทบจากปัจจัยจีน
KKP Research สรุปผลกระทบจากการที่ไทยยังผลิตสินค้าแบบดั้งเดิมและเข้าไปมีส่วนร่วมในตลาดสินค้ายุคเศรษฐกิจใหม่น้อย รวมทั้งปัจจัยจีนไว้หลายข้อ หนึ่งในนั้นคือ ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มลดลง จากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง และจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง เพราะ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจกว่าครึ่งหนึ่งมาจากภาคการส่งออกสินค้า
"นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง คือข้อเสนอของสำนักนี้ต่อการตีฝ่าความท้าทายที่กระหนาบเศรษฐกิจไทยเข้ามาในเวลานี้"
อีกด้าน ดนุชา พิชยนันท์ เลขาฯ สภาพัฒน์ หน่วยงานที่ทำหน้าออกแบบทิศทางประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นปัญหาเชิงโครงสร้างนี้ผ่านสื่อไว้หลายครั้งโดยระบุว่า ถ้าอยากให้ (เศรษฐกิจ) โตขึ้นไประดับ 5% ต้องเพิ่มผลิตภาพแรงงาน (ความสามารถในการทำงานที่สามารถเพิ่มศักยภาพให้สูงขึ้น) ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจโต
เลขาฯ สภาพัฒน์ยังชี้ว่า "ผลิตภาพแรงงานจะเพิ่มได้ต่อเนื่อมีการปรับโครงสร้างการผลิต" ซึ่งไทยทำมาแล้วในปี 2526 ที่เริ่มโครงการ อีสเทิร์นซีบอร์ด (โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก) ปรับโครงสร้างจากภาคเกษตรมาสู่ภาคอุตสาหกรรม มีการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมี และรถยนต์ แต่ผ่านไป 41 ปี ยังไม่มีการปรับโครงสร้างใหม่
อย่างน้อยที่สุด รัฐบาลบิ๊กตู่ ยังได้พยายามปรับโครงสร้างการผลิต ให้เห็นเป็นประจักษ์ทั้งเรื่อง อีสเทิร์นซีบอร์ด ภาค2 โครงข่ายคมนาคมทางราง
(ไม่เด่นชัด แต่ทำไปเรื่อยๆ) ปรับโครงสร้างการผลิตไปเป็นรถอีวี(ตรงนี้ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร)
อยากให้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง หันมาลงทุนปรับโครงสร้างการผลิต แทนที่จะไปทำแลนด์บริท หรือบ่อนการพนัน และ
ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกแจกเงินแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อย่างที่ทำกันทุกวัน แจกเงินชาวนา แจกเงินเลี้ยงโค แจกเงินหมื่น
ล้วนแล้วแต่แก่ปัญหาระยะสั้น แถมละลายเงินแผ่นดิน
จุดตายเศรษฐกิจไทย
24 เมษายน 2024
https://thaipublica.org/2024/04/chittisak44/
ปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการ ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค แบงก์ชาติ แถลงผลศึกษาของแบงก์ชาติ พบว่าสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจไทยหลังโควิดโตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน มาจาก 2 ปัจจัย คือ หนึ่ง ปัจจัยเชิงวัฎจักรระยะสั้น โดยช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกขยายตัวจากภาคบริการซึ่งมีผลให้ส่งออกไทยชะลอตัวลง สอง "ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันรุนแรงขึ้น"
เรื่องเดียวกันสำนัก KKP Research ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ออกบทวิเคราะห์เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโดยชี้ว่า การส่งออกที่เคยเป็นหัวหอกเศรษฐกิจไทยมากว่า 30 ปีกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ จากความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง และผลกระทบจากปัจจัยจีน
KKP Research สรุปผลกระทบจากการที่ไทยยังผลิตสินค้าแบบดั้งเดิมและเข้าไปมีส่วนร่วมในตลาดสินค้ายุคเศรษฐกิจใหม่น้อย รวมทั้งปัจจัยจีนไว้หลายข้อ หนึ่งในนั้นคือ ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มลดลง จากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง และจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง เพราะ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจกว่าครึ่งหนึ่งมาจากภาคการส่งออกสินค้า
"นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง คือข้อเสนอของสำนักนี้ต่อการตีฝ่าความท้าทายที่กระหนาบเศรษฐกิจไทยเข้ามาในเวลานี้"
อีกด้าน ดนุชา พิชยนันท์ เลขาฯ สภาพัฒน์ หน่วยงานที่ทำหน้าออกแบบทิศทางประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นปัญหาเชิงโครงสร้างนี้ผ่านสื่อไว้หลายครั้งโดยระบุว่า ถ้าอยากให้ (เศรษฐกิจ) โตขึ้นไประดับ 5% ต้องเพิ่มผลิตภาพแรงงาน (ความสามารถในการทำงานที่สามารถเพิ่มศักยภาพให้สูงขึ้น) ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจโต
เลขาฯ สภาพัฒน์ยังชี้ว่า "ผลิตภาพแรงงานจะเพิ่มได้ต่อเนื่อมีการปรับโครงสร้างการผลิต" ซึ่งไทยทำมาแล้วในปี 2526 ที่เริ่มโครงการ อีสเทิร์นซีบอร์ด (โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก) ปรับโครงสร้างจากภาคเกษตรมาสู่ภาคอุตสาหกรรม มีการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมี และรถยนต์ แต่ผ่านไป 41 ปี ยังไม่มีการปรับโครงสร้างใหม่
อย่างน้อยที่สุด รัฐบาลบิ๊กตู่ ยังได้พยายามปรับโครงสร้างการผลิต ให้เห็นเป็นประจักษ์ทั้งเรื่อง อีสเทิร์นซีบอร์ด ภาค2 โครงข่ายคมนาคมทางราง
(ไม่เด่นชัด แต่ทำไปเรื่อยๆ) ปรับโครงสร้างการผลิตไปเป็นรถอีวี(ตรงนี้ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร)
อยากให้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง หันมาลงทุนปรับโครงสร้างการผลิต แทนที่จะไปทำแลนด์บริท หรือบ่อนการพนัน และ
ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกแจกเงินแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อย่างที่ทำกันทุกวัน แจกเงินชาวนา แจกเงินเลี้ยงโค แจกเงินหมื่น
ล้วนแล้วแต่แก่ปัญหาระยะสั้น แถมละลายเงินแผ่นดิน