อันเจ้าสังขารคืออาการจิต หากออกไปตั้งไว้ บัญญัติไว้ว่า เขาเป็นนั้นเป็นนี้

หลวงปู่มั่นสอนว่า..

อันเจ้าสังขารคืออาการจิต 

หากออกไปตั้งไว้ บัญญัติไว้ว่า เขาเป็นนั้นเป็นนี้ 

จนรู้เท่าแล้วเรียกว่า กำหนดรู้ทุกข์ สมุทัย 

เมื่อทำให้มาก เจริญให้มาก รู้เท่าเอาทันแล้ว 

จิตก็จะรวมลงได้ เมื่อกำหนดอยู่ก็ชื่อว่าเจริญมรรค

หากมรรคพอแล้ว นิโรธก็ไม่ต้องกล่าวถึง

หากจะปรากฏชัดแก่ผู้ปฏิบัติเอง

เพราะศีลก็มีอยู่ สมาธิก็มีอยู่ ปัญญาก็มีอยู่ 

ในกาย วาจา จิตนี้ ที่เรียกว่า อกาลิโก

ของมีอยู่ทุกเมื่อ โอปนยิโก

เมื่อผู้ปฏิบัติมาพิจารณาของที่มีอยู่ ปจฺจตฺตํ จึงจะรู้เฉพาะตัว 

คือมาพิจารณากายอันนี้ให้เป็นของอสุภะ เปื่อยเน่า แตกพังลงไป

ตามสภาพความเจริญของภูตธาตุ ปุพฺเพสุ ภูเตสุ ธมฺเมสุ 

ในธรรมอันมีมาแต่เก่าก่อน สว่างโร่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน

ผู้มาปฏิบัติพิจารณาพึงรู้อุปมารูปเปรียบดังนี้

อันบุคคลผู้ทำนาก็ต้องทำลงไปในแผ่นดิน ลุยตมลุยโคลนตากแดดกรำฝน

จึงจะเห็นข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวสุกมาได้ และได้บริโภคอิ่มสบาย

ก็ล้วนทำมาจากของมีอยู่ทั้งสิ้นฉันใด ผู้ปฏิบัติก็ฉันนั้น 

เพราะศีล สมาธิ ปัญญา ก็มีอยู่ในกาย วาจา จิต ของทุกคน

(ภูริทตฺตธมฺโมวาท จากหนังสือภูริทตฺตมหาเถรานุสรณ์)

https://www.trueplookpanya.com/dhamma/content/71070/-dhart-
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่