คือเรื่องมันเป็นเเบบนี้ค่ะ เมื่อประมาณเดือนธันวาคมปี 2564 เราได้ไปอยู่กับน้า(สามีน้าด้วย)ที่ พระราม5 เพราะที่บ้านนอกมีปัญหากันค่ะ เเรกๆก็มีความสุขดีค่ะ เหมือนครอบครัว ครอบครัวหนึ่งเลยจนอยู่มาสัก1-2เดือน ด้วยที่เราก่อนมาอยู่ที่นี่เรามีปัญหา สามีน้าเลยจะเป็นคนมาชวนเราคุย มาทำความรู้จัก จนสนิทกัน จนเราสนิทกับเขามาเรื่อยๆ พอน้ารู้เข้า เขาก็มาโวยประมาณว่า“มันจะเกินไปเเล้วนะ มันสมควรหรอ” เเล้วเราไม่รู้จริงๆว่าตอนนั้นเขาคิดอะไร เขาคิดว่าหนูกับสามีเขาจะเกินเลยกันหรอ หรือเขาเเค่อยากให้หนูเข้าหาเขาบ้าง วันถัดมาก่อนเขาจะไปทำงานเราก็ลงไปหาเขาให้กำลังใจเขาก่อนไปทำงาน ทำงานบ้าน ล้างจานนู่นนี่นั่น รอเขา เพื่อที่เขากลับบ้านมาจะได้ไม่เหนื่อย พอทำทุกอย่างเสร็จเราก็ไปกินข้าวเเละดูทีวีของเราไป ปกติสามีของน้าเขาจะกลับบ้านเร็วกว่าเเละเขาจะชอบมานั่งดูทีวีกับเรา เเละน้าจะกลับมาดึกๆพอเขากลับมาเราก็เดินเข้าไปช่วยถือของเเล้วถามว่าเหนื่อยมั้ย อยากลองชวนเขาคุยบ้าง พอช่วยถือของเสร็จเราก็มานั่งดูทีวีใกล้ๆกับสามีน้า เราอยู่ดูทีวีถึงตี1-2 เเละเราง่วงเราก็ขึ้นห้องไปนอน นอนไปสักพักเราก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเราเลยออกมาดูก็คือน้ากับสามีเขาทะเลาะกัน(ก่อนหน้านั้นเราไปพูดเล่นๆกับสามีน้าว่าน้าเขาหึงหรอที่เราสนิทกับสามีน้ามากว่าน้า)เท่าที่เราได้ยินคือ “น้าพูดว่ามันใช่หรอเขาว่าหึงมันคือไปทางชู้สาวเเล้วนะ“ (อันนี้เราคิดว่าเขาน่าจะไปคุยกันทีหลังนะคะ) วันถัดมาเราก็ไปขอโทษเขา เเล้วเราคิดว่ามันจะดีขึ้นเเต่ตอนรั้นสามีเขาลงมาพอดีเเล้วมาพูดว่าจะไปขอโทษทำไม จากที่เขากำลังจะในเย็นเเต่มันทำให้เขาโมโห เเล้วเขาก็พูดว่าให้เราให้เวลาส่วนตัวเขากับสามีบ้าง ไม่ใช่อยู่ด้วยตลอดเวลาจะเอาทำผัวหรอเเล้วกรี๊ดกร๊าดเเล้วก็ไปทำลายข้าวของถีบพัดลม สามีเขาจะจึงจะให้เขาไปอยู่ในห้องครัวเพื่อสงบสติอารมณ์ เเต่เขาดันหยิบกรรไกรมาเเล้วจะปาใส่เรา จนสามีเขาจึงมาบอกให้เราหลบทุกอย่างเป็นเเบบนี้จนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 (เราได้ไปรักษาโรคซึมเศร้า)ทุกอย่างก็เริ่มกลับมามีปัญหาเพราะช่วงนั้นเราติดเเฟนเก่ามาก หมกมุ่นกับเเฟนเก่าจนเเทบจะไม่เรียนไม่เอาอะไรเลย เเล้วอยู่ๆน้าก็พูดว่าจะเลือกอะไรระหว่างเลือกน้าเเต่เลิกกับเเฟนเก่า หรือเลือกเเฟนเก่าเเต่ไปเช่าห้องอยู่คนเดียวตอนนั้นเราก็เก็บเอามาคิดทบทวน ว่าเราอยู่ที่นี่เราก็โดนน้ากดดันทุกวัน อยู่ก็เเทบจะไม่มีความสุข บางครั้งเวลาเรานอนเขาก็เเอบไขประตูเเละเปิดเข้ามาเเบบไม่เคาะบอกก่อน เเละน้าเป็นคนที่จ้องจะหาเรื่องเราตลอดเรื่องส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องสามีของเขา เเล้วเราชอบอยู่คนเดียวมากกว่าเพราะไม่มีคนมากดดันเรา มาจ้องหาเรื่องเรา เราจึงตัดสินใจได้ว่า เราออกมาอยู่คนเดียวจะดีกว่า จนเดือนมีนาคม เราก็ได้ออกมาจากบ้านหลังนั้น เราก็อยู่ห้องเช่าคนเดียวเเต่ก็มีพ่อคอยเอาเงิน ขนม ข้าวมาให้ เราก็อยู่เขาเรามาเรื่อยๆ จนวันนึงสามีของน้าส่งข้อความมาหาเราว่าจะชวนออกไปกินข้าวเเล้วจะคุยอะไรด้วยหน่อย เราก็ไปเพราะคิดว่าจะไปกินข้าวเเต่เรื่องที่เขาคุยคือเรื่องเเฟนเก่าเราที่เราไปยึดติด ไปหมกมุ่นกับเขาเขาเตือนเรา ประมาณนี้เเต่เรื่องที่เราออกมากับสามีน้า น้าเขาไม่รู้เเต่น้าเขาจีมี GPS ของเรากับสามีเขา พอน้าเห็นว่าอยู่ด้วยกันเขาก็รีบขับรถมาหาเรากับสามีเขา เขาไม่พูดอะไรเเล้วก็มารับเราไปส่งที่ห้องเช่าเรา ระหว่างทางเขาก็ถามเราว่าไปทำอะไรกัน เราก็ตอบไปตามความจริงว่าไปกินข้าวเเละไปคุยกันเรื่องเเฟนค่ะ เเล้วอยู่ๆเขาก็พูดว่าไปเปิดห้องกันมาหรอ เราก็งง งงมาก เราก็บอกไปว่าห้ะ เรื่องอะไร หลังจากนั้นเราก็ไม่พูดอะไร จนถึงห้อง สัก3-4ทุ่มสามีน้าก็โทรมาเเล้วบอกว่าน้าโทรไปบอก อา ลุง เเละพ่อเเม่เราว่า เราไปเปิดห้องกับสามีเขามา เเล้วพูดให้ทุกคนเกลียดเรา จนเราไปอธิบายให้พ่อเเม่ฟังว่าเเค่ไปกินข้าวกันเเละคุยอะไรกันนิดหน่อย เเต่ญาติคนอื่นๆที่น้าเขาไปพูดด้วย เราไม่ได้ไปอธิบายเพราะเขาก็คงไม่อยากยุ่งกับเราอยู่เเล้วเพราะเขามีปัญหากับพ่อเเม่เรา เราเลยไม่ได้บอก น้าเขาเป็นเเบบนี้ตลอดมาเรื่อยๆ ชอบไปบอกคนอื่นว่าเราไปเปิดห้องกับสามีเขา จนมาเดือนพฤษภา 2566 (น้ากับสามีหย่ากันเเล้ว)เขาทักมาตอนเราเรียน ส่งรูปที่เรทๆหน่อย พร้อมข้อความมาว่า ”สิ่งที่เธอทำมันได้ผลนะ ฝากดูเเลสามีเเก่ของเธอด้วยล่ะ“ เขาบอกว่าเราพยายามโชว์ร่างกายเราให้ลุงเห็นเเต่ที่จริงนั้นมันคือพื้นที่ส่วนตัวเราถ้าเขาไม่ไปหาดูเเล้วจะเจอหรอ เขาก็ทักมาเเบบนี้เรื่อยๆเราก็บล็อกไปมาจนทุกวันนี้เราทนไม่ไหวก็คือเขาส่งข้อความมาหาเเม่ว่า”รู้ไหมผัวเเก่ลูกมารับมันไปเย้ ตั้งเเต่วันที่10 มีนา มาส่งวันที่12 มีนา ลูกพรุนเเล้วมั้ง ระวังยาคุมลูกหมดอายุนะ ระวังติดเอดส์กับไอนั่นนะ มันชอบไปเอากับเด็กติดยา

ผีพนัน ทนายเก๊ สักวันมันจะเอาลูกไปขายตัว “เรารู้ว่ามันไม่ใช่ความจริงเพราะเเม่เราก็ติดต่อกับสามีน้าอยู่ เเล้วที่เราเคยอยู่กับสามีน้าเขามา3-4เดือนเราก็รู้ว่าเขาเป็นยังไงเเละเขาไม่ได้เป็นเเบบที่น้าพูด พอน้าพูดกับเเม่กับเราเเล้วไม่เล่นไปตามเขาเขาก็ไปเลยไปคุยกับป้าอีกคนเเล้วไปพูดว่า ผัวเเก่มันพาไปขายตัว มันติดเอดส์เเล้ว มันพรุนหมดเเล้วมันเอากันทุกวันเลย มันชอบมีอะไรกับเด็ก เเล้วป้าคนนั้นก็เหมือนจะมาเยาะเย้ยเเม่เรา เเละเเม่เรารู้ว่าป้าคนนี้เขาผิดหวังกับลูกสาว เเม่เราก็เลยตอบกลับไปว่าน้ามันไม่มีลูกมันก็พูดได้นิ เเล้วถ้ามีคนมาพูดกับลูกสาวเเบบนี้จะรู้สึกยังไงเเล้วจำไว้นะลูกเเต่คนละมันนิสัยไม่เหมือนกันหรอก พอป้าเริ่มไม่คุยกับน้าเเล้ว ก็ทักมาหาเรากับเเม่เเทน ทักมาหาเราว่า กูจะฟ้องหมิ่นประมาทกับเเม่หาเงินไว้เยอะๆนะหาค่าข้าวหมา เเล้วเขาบอกว่าเขามาเฝ้าเราที่หอทุกวันเลย เเต่ที่เขาไปคือหอเก่า เราย้ายหอมาเเล้ว เเล้วเขาก็ส่งข้อความมาประมาณว่า กูรอเเล้ว ลงมาสิ เเล้วพอเราตอบกลับข้อความ เขาก็จะบอกว่า ผัวเเก่มาส่งที่บ้านเเล้วหรอ โดนไปเป็นไงบ้าง พอเราเริ่มทนไม่ไหวเราก็เลยบล็อก เเล้วเขาก็เลยส่งข้อความไปหาเเม่เราเเทนว่า วันนี้ไอทนายเก๊ขึ้นไปหาลูกบนหอตั้งเเต่16:44

โดนลูกหลอกเเหกตา โดนทนายเก๊หลอก กูรอวันที่ความจริงเปิดเผย กูมีทั้งหลักฐาน วัน เวลา สถานที่ ครบ เเต่กูไม่จำเป็นต้องส่งให้กูจะเก็บไว้จนลูกโต เเล้วกูจะประจานมันกูจะทำลายชีวิตมัน ถึงวันนั้นจริงจะครองสติตัวเองไหวไหม จะประสาทเเดก สติเเตกตายไปเลยรึป่าว เเต่เราว่าคนที่ประสาทน่าจะเป็นตัวเขาเองมากกว่า เเม่เราเป็นคนส่งเขาเรียนจนจบปริญญาโท ยอมออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำงาน เราควรทำยังไงดีคะ
เราควรทำยังไงกับน้าที่เป็นคนในครอบครัวเเท้ๆดีคะ