JJNY : 5in1 โรมไร้ข้อโต้แย้ง│เท่าพิภพโวยปัดตก│ก้าวไกลลุยตรวจปางช้าง│ร้องก.อุตฯ หลังโดนผลกระทบ EV จีน│ร้องอาเชียนฟื้นปชต.

โรม ไร้ข้อโต้แย้งปมเมียนมาไม่พอใจรัฐสภา เสวนารัฐประหาร ยันไม่ได้แทรกแซงช่วยชนกลุ่มน้อย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4454806

 
โรม ไม่โต้แย้ง ปมเมียนมา ออกแถลงการณ์ไม่พอใจ รัฐสภาไทยเสวนารัฐประหาร ย้ำทำหน้าที่ในฐานะกมธ. เพราะดูความมั่นคง-ผลกระทบไทย ยันไม่ได้แทรกแซง-หนุนยุทโธปกรณ์ชนกลุ่มน้อย หวัง ปานปรีย์ แสดงวิสัยทัศน์แสดงจุดยืน
 
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาออกแถลงการณ์ไม่พอใจกรณีที่รัฐสภาของไทย นำโดย กมธ.ความมั่นคง จัดงานเสวนา 3 ปี หลังรัฐประหารเมียนมา เมื่อวันที่ 2-3 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยให้พื้นที่กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมา
 
นายรังสิมันต์กล่าวว่า เข้าใจที่ทางการเมียนมาทำหนังสือมา และคงไม่ได้ไปโต้แย้ง แต่ขอยืนยันว่าเราทำหน้าที่ในฐานะที่เป็น กมธ.ความมั่นคง มีหน้าที่ต้องศึกษาผลกระทบต่างๆ ที่อาจมีต่อประเทศไทย ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของไทย ดังนั้น การกระทำที่เกิดขึ้นไม่ได้ไปละเมิดกฎหมายอย่างแน่นอน
 
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในเมียนมามันมีผลกระทบมาถึงประเทศไทย เช่น การลักลอบเข้าเมือง รวมถึงอีกหลายปัญหา หากไม่มีการศึกษาปัญหานี้ก็คงหาทางแก้ไม่ได้ ยืนยันว่าหากไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยก็คงไม่จำเป็นจะต้องจัดเวทีเสวนานี้ขึ้น แต่สาเหตุที่ทำเนื่องจากต้องการรวบรวมข้อมูลให้กับรัฐบาลไปแก้ปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้น และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในสายตาของคณะกรรมาธิการฯ

เมื่อถามว่า การเชิญผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับรัฐบาลเมียนมา จะไม่เป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ฝ่ายทหารเมียนมากับรัฐบาลไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่แล้ว ทางไทยมีการติดต่อและรับข้อมูลที่มากเพียงพอแล้ว แต่แนะว่าเราควรฟังให้รอบด้าน ไม่ใช่ข้อมูลที่มาจากย่างกุ้ง หรือเนปิดอว์เท่านั้น หากไม่รู้จักบริบทมากพอ โอกาสที่ไทยจะแก้ปัญหาและสร้างมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
 
ถ้าดูดีๆ งานของเราไม่ถึงขนาดว่าเปิดเผยกว้างขวางไปทั่วโลก หลักๆ คือเราต้องการให้เขาถ่ายทอดให้เรา เพื่อรวบรวมเป็นรายงานส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป“ นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ยืนยันว่า การพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อวางแผนแทรกแซงรัฐบาลเมียนมา และไม่ได้เป็นการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับชนกลุ่มน้อย แต่มาพูดคุยว่าจะช่วยเหลือคนที่อยู่ในเมียนมาได้อย่างไร เชื่อว่ารัฐบาลเมียนมาควรภูมิใจและเห็นด้วยที่ไทยยื่นมือมาช่วยแบบนี้ จึงไม่คิดว่าจะมีผลกระทบเกิดขึ้น
 
ส่วนหากสภาบริหารแห่งรัฐเมียนมา (SAC) มองว่ามีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับไทยก็คงไม่เถียง แล้วแต่มุมมอง แต่เชื่อว่าในระดับประชาชนเมียนมาที่จะได้รับประโยชน์จากการพูดคุยกันคงไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์อย่างแน่นอน
 
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศของไทยหรือยัง นายรังสิมันต์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่พยายามเชิญให้มาร่วม แต่กลับถูกปฏิเสธในนาทีสุดท้าย พร้อมระบุ อยากให้พื้นที่กับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แสดงวิสัยทัศน์ในประเด็น แต่ทราบว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงเข้ามาฟังและเก็บข้อมูล รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ของทางการ แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร เข้ามาฟัง พร้อมแจ้งผลตอบรับว่าข้อมูลที่ได้รับเป็นประโยชน์ในการประเมินเรื่องความมั่นคง ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศก็มีสิทธิจะไม่เข้ามา และคณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ใช้อำนาจไปเรียก แต่หลังจากนี้จะรวบรวมเป็นรายงานแล้วส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป และหวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์


 
เท่าพิภพ โวยครม. ปัดตก กม.คุมเหล้า ฉบับก้าวไกล-ปชช. วอนสภาโหวตรับทุกร่าง
https://www.khaosod.co.th/politics/news_8122790

เท่าพิภพ ไม่เห็นด้วย ครม. เห็นชอบ ร่างกม.ควบคุมแอลกอฮอล์ ของ สธ. แค่ฉบับเดียว แต่ ปัดตก ร่างก้าวไกล-ร่างภาคประชาชน วอนสภาฯโหวตรับทุกร่าง ไปถกต่อในชั้น กมธ.
 
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่เห็นชอบอีก 3 ร่างที่เหลือ ซึ่งมี 2 ร่างเสนอโดยภาคประชาชน และอีกร่างหนึ่งเสนอโดยตนในนามพรรคก้าวไกล ซึ่งเตรียมส่งคืนทั้ง 3 ร่างกลับไปยังสภาฯ ภายในวันที่ 9 มี.ค.นี้
 
นายเท่าพิภพ กล่าวต่อว่า เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีความสำคัญทั้งด้านอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การกำหนดวัน-เวลาการขาย รวมถึงการโฆษณาและการสื่อสารการตลาด ซึ่งร่างแต่ละฉบับมีความเห็นที่แตกต่างกัน
 
โดยร่างหนึ่งของภาคประชาชนอยากเห็นการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นขึ้น ส่วนอีกร่างหนึ่งต้องการผ่อนปรนกฎระเบียบต่างๆ ให้ลดน้อยลง ขณะที่ร่างของตนและพรรคก้าวไกลพยายามหาจุดร่วมของทั้งสองฝ่าย โดยร่างออกมาอย่างประนีประนอมและหาจุดสมดุลให้ได้มากที่สุด
 
แม้ทุกร่างจะมีความเห็นต่อการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แตกต่างกัน แต่ทุกความเห็นในสังคมควรได้รับการรับฟังโดยไม่ถูกปัดตก ตนจึงไม่เห็นด้วยกับมติครม.นี้ และเมื่อทั้ง 4 ร่างกลับเข้าสู่การพิจารณาวาระหนึ่งในสภาฯ ตนขอให้ สส.ทุกคนร่วมกันลงมติรับหลักการทุกร่าง เพื่อนำรายละเอียดที่แตกต่างกันไปถกเถียงในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ต่อไป
 
ผมยืนยันว่าแม้เป็นความเห็นของฝ่ายบริหาร แต่ร่างพ.ร.บ.นี้เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ก็คือสภาฯ ที่จะต้องตัดสินใจ ผมจึงอยากเรียกร้องให้เพื่อนสส.ทุกพรรค โหวตรับทุกร่าง เพื่อประชาชนจะได้มีโควตาไปถกเถียงหาข้อสรุปกันในชั้นกมธ.” นายเท่าพิภพ กล่าว


 
บานปลาย! ‘สส.ก้าวไกล’ ลุยตรวจปางช้าง ‘ฝรั่งเตะหมอ’ ที่ภูเก็ต หลังสงสัยรุกลํ้าพื้นที่อุทยานฯ
https://www.dailynews.co.th/news/3228918/

นายเฉลิมพงศ์ สส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล นำทีมลุยตรวจปางช้างของนายเดวิด ในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังตั้งข้อสังเกตว่ามีการรุกลํ้าพื้นที่ป่าของอุทยานฯ หรือไม่

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล ได้เชิญตัวแทนจากกรมปศุสัตว์ กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ และตำรวจจาก สภ.เชิงทะเล เข้าตรวจสอบปางช้าง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ของ นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ก่อเหตุที่ทำร้ายร่างกายหมอปลาย ขณะนั่งตรงบันไดหน้าวิลล่าบนชายหาด จ.ภูเก็ต ทำให้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และเป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้าง เบื้องต้นพบว่ามีพนักงานของปางช้างดังกล่าว เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ส่วนตัวนายเดวิดและภรรยานั้น วันนี้ไม่ได้อยู่ที่ปางช้าง
 
นายสุทัศน์ นิยมไทย ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากหลักฐานพบว่า จดในนามของบริษัทก็สามารถทำได้ ในส่วนของมูลนิธิ ก็จะเป็นอำนาจของมหาดไทย ซึ่งการจดทะเบียนต้องดูว่ามีที่มาอย่างไร ในส่วนของปศุสัตว์ จะดูหลักๆ ก็คือ พ.ร.บ. 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.รูปพรรณสัตว์ 2558 และ พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์ 2557 จากการตรวจสอบตอนนี้ยังไม่พบ เพราะตั๋วรูปพรรณครบถูกต้อง ทราบว่าในส่วนมหาดไทยก็ดำเนินการอยู่ สำหรับช้างในปาง ทั้งหมดมี 14 เชือก ตรวจสอบถูกต้องทั้งหมด มีไมโครชิปถูกต้อง สุขภาพของช้างแข็งแรงสมบูรณ์ดี และการดูแลอยู่ในเกณฑ์ดี
 
ขณะที่ นายเฉลิมพงศ์ กล่าวว่า ในวันนี้ที่เดินทางลงพื้นที่ เพราะมีข้อมูลข้อสงสัยในการทำธุรกิจปางช้าง ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ร่วมลงพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นปศุสัตว์, กรมอุทยานฯ, กรมป่าไม้ และฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้มาตั้งข้อสังเกตในการประกอบธุรกิจปางช้าง บริษัทมีการจดจัดตั้งหรือว่าทุนของบริษัทถูกต้องหรือไม่ การดำเนินงานของมูลนิธิช้าง การนำช้างเข้ามาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทางปศุสัตว์จะนำไปดู ทางบริษัทยืนยันถูกต้องว่ามีไมโครชิป
 
วันนี้ที่ต้องเชิญกรมป่าไม้มา เพราะต้องตรวจสอบพื้นที่ ที่ดิน ที่ทำธุรกิจนี้ ว่าอยู่ในพื้นที่ป่าหรืออุทยานหรือไม่ หลังจากนี้ก็จะทำเรื่องถึงกระทรวงการต่างประเทศ ตรวจสอบวีซ่า หรือพาสปอร์ต ในการดำเนินธุรกิจของเจ้าของ ว่ามีการถูกรูปแบบวีซ่าอะไร” ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าว
 
ตอนนี้ภาคข้าราชการภูเก็ตก็ตื่นตัว พยายามหาข้อสงสัย ตอบสังคมพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต รวมถึงแหล่งธรรมชาติ การอนุรักษ์ธรรมชาติในเรื่องของหาด ในเรื่องของพื้นที่การทำธุรกิจเหล่านี้ เรื่องปางช้างก็มีข้อสงสัย ที่จะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน สอบการเสียภาษีของปางช้าง รวมทั้งการจดจัดตั้งมูลนิธิ ที่จะต้องสอบถามไปยังมหาดไทย.



ผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ร้องก.อุตสาหกรรม หลังโดนผลกระทบจากรถ EV จีน
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/389836

กลุ่มผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ร้องกระทรวงอุตสาหกรรมช่วยเหลือ หลังโดนผลกระทบจากรถอีวี.จีน

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หารือร่วมกับ 9 สมาคม และ 1 สมาพันธ์ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบในเรื่องโครงสร้างภาษี ที่เอื้อให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากจีน จนโดนทุ่มตลาดจากการขายตัดราคา นอกจากนี้การเข้ามาของนักลงทุนจีนในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า นำเทคโนโลยีและคนเข้ามาด้วย โดยกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้ผลกระทบรุนแรงโดยตรงราว 90% จาก 24,000 ราย คือ ผู้ผลิตอะไหล่เครื่องยนต์สันดาป โดยมีการสนอให้ BOI ปรับเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน เป็นการลงทุนแบบกิจการร่วมค้า ที่กำหนดให้ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือ กำหนดสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนจากการผลิตในไทย เป็นต้น พร้อมมีมาตรการช่วย SME ให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และขยายเพดานให้กู้มากขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมไปทบทวนกฎระเบียบกองทุนเอสเอ็มอี / ให้ SME เข้าถึงทุนได้ง่ายขึ้น ขีดเส้นต้องเห็นภายใน 6 เดือนนี้ ส่วนเรื่องภาษีฯ ได้หารือกับกรมสรรพสามิตแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไข ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย ทั้งขายในประเทศและส่งออกปีนี้ จะโตได้เพียง 1-2% เท่านั้น โดยชะลอตัวจาก 5% ในปีที่ผ่านมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่