“ภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา ภิกษุทั้งหลาย ถ้ารูปนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ไม่พึงเป็นไป เพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในรูปว่า “รูปของเราจงเป็นอย่างนี้ รูปของเราอย่าได้เป็น อย่างนั้น”
....
“ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจข้อนั้นอย่างไร รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง”
ภิกษุปัญจวัคคีย์ทูลว่า “ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า”
“ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข”
“เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า”
“ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะ เห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นอัตตาของเรา”
อนัตตลักขณสูตร(วินัยปิฎก)
ไหน ที่ไปตู่ว่าพระพุทธเจ้าปฏิเสธการมีอยู่ของอัตตา
พระพุทธเจ้าชี้ชัดเจนว่า ขันธ์ห้านี้ไม่ใช่ อัตตา
อัตตา เป็นอย่างอื่นนอกจากขันธ์ห้า
ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตร "อัตตาเป็นอย่างอื่นจากขันธ์ห้า"
....
“ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจข้อนั้นอย่างไร รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง”
ภิกษุปัญจวัคคีย์ทูลว่า “ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า”
“ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข”
“เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า”
“ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะ เห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นอัตตาของเรา”
อนัตตลักขณสูตร(วินัยปิฎก)
ไหน ที่ไปตู่ว่าพระพุทธเจ้าปฏิเสธการมีอยู่ของอัตตา
พระพุทธเจ้าชี้ชัดเจนว่า ขันธ์ห้านี้ไม่ใช่ อัตตา
อัตตา เป็นอย่างอื่นนอกจากขันธ์ห้า