‘พีมูฟ’ ปีนรั้วทำเนียบ ตะโกนหา ‘ภูมิธรรม’ มาทำตามสัญญา หลังโฉนดชุมชนไม่คืบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4445197
‘พีมูฟ’ ปีนรั้วทำเนียบ ตะโกนหา ‘ภูมิธรรม‘ เรียกขวัญมาทำหน้าที่ หลังโฉนดชุมชนไม่คืบ
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล สืบเนื่องการชุมนุมของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ (P-Move) ซึ่งปักหลักชุมนุมตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 22 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหา เรื่องสิทธิที่ดินของชาวบ้าน อาทิ โฉนดชุมชน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
บรรยากาศเวลา 09.00 น. ผู้ชุมนุมกลุ่มพีมูฟเริ่มยกระดับการชุมนุม ‘
ปฏิบัติการตามหาภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ขปส. หลังปักหลักชุมนุมกว่า 22 วัน แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องโฉนดชุมชน ข้อเรียกร้องยังไม่บรรลุตามเป้าหมาย จึงรวมตัวกันที่บริเวณด้านในประตูทางเข้า-ออก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ก่อนเคลื่อนขบวนออกไปทำกิจกรรมบริเวณด้านหน้าประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการจัดเตรียมขบวนของผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชนได้นำรถมาปิดทางเข้า-ออกสำนักงาน ก.พ.ร. ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่กำบังมากั้นอีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้รถเครื่องเสียงของพีมูฟเคลื่อนออกมา ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจึงทยอยเดินเท้าออกมายังบริเวณถนนด้านนอก ก่อนจะข้ามไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาลประตู 3 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถและรั้วเหล็กปิดทางสัญจรบริเวณถนนพิษณุโลก
ต่อมาเวลา 11.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟได้นำรั้วเหล็กของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพาดกับประตูรั้วทำเนียบรัฐบาล เพื่อปีนขึ้นไปชูธงของเครือข่ายประชาชน พร้อมถือกระดาษรูปใบหน้า ‘
ภูมิธรรม’ ที่มีข้อความว่า ‘
WANTED’ ติดอยู่ จากนั้นตะโกนเรียกชื่อนายภูมิธรรมให้ออกมาพบประชาชน ก่อนการยุติการดำเนินกิจกรรม โดยตัวแทนประชาชนจากเครือข่ายกะเหรี่ยงตะวันตก ได้นำเทียน ผลไม้ และรูปนาย
ภูมิธรรม มาประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อเพื่อเรียกขวัญ เรียกจิตวิญญาณให้กลับมาอยู่กับตัว และจะได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ควรจะเป็น
ตัวแทนพีมูฟกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ในเมื่อการแก้ปัญหาในระดับท้องถิ่น พื้นที่ กระทรวงต่างๆ ไม่คืบหน้า แล้วพี่น้องจะไปไหนได้ ในเมื่อปัญหากองอยู่ที่ศูนย์กลาง ทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้ ตนยืนยันว่าปัญหาจะอยู่คู่พี่น้องไปเรื่อยๆ หากยังไม่ชัดเจนกับพี่น้องคนส่วนใหญ่ในประเทศ
“
ถามว่ารัฐบาลจริงใจแค่ไหนในการแก้ไขปัญหา ถ้าจริงใจ ปัญหามันถูกแก้ตั้งแต่ 13 ปีแล้ว ไม่ต้องมาเป็นมรดกตกทอดให้รัฐบาลชุดต่อๆ ไป ทั้งที่รับปากว่าจะแก้ให้ได้ เรายังเฝ้าจับตาเรื่องโฉนดชุมชนที่ท่านภูมิธรรมเป็นประธานอยู่
พอเป็นรองนายกฯ เบอร์ 1 ของไทย กลับไม่จริงใจแก้ปัญหา รับปากตั้งแต่ปีที่แล้ว ในวันผู้อยู่อาศัยโลก ปี 2566 เรามาชุมนุมที่ประตู 5 ท่านบอกว่ากลับไปเถอะ เดี๋ยวจะแก้ปัญหาให้ เป็นรัฐบาลมา 6 เดือนแล้วทำอะไรอยู่” ตัวแทนพีมูฟชี้
ตัวแทนพีมูฟกล่าวต่อว่า งบประมาณ 5.6 แสนล้าน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ถามว่าตอนนี้ได้รับหรือยัง
“
โดนกับดักเยอะแยะมากมาย ปัญหาเดิมยังไม่แก้ สร้างปัญหาให้ขึ้นมาอีก เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีพี่น้องมาชุมนุมทั่วประเทศ รอบทำเนียบรัฐบาล ในเมื่อใช้ภาษีของประชาชนในการเลี้ยงครอบครัวกินอยู่ 5.6 แสนล้าน ก็ต้องบริหารอย่างเทียมกัน” ตัวแทนพีมูฟกล่าว
ต่อมาเวลา 13.30 น. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบกำลังเปิดประชุมครั้งแรก โดยมี ร.อ.
ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ทั้งนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมยังคงติดตามผลการประชุมอย่างใกล้ชิด
ปธ.วิปฝ่ายค้าน อาจไม่ยื่นซักฟอก ชี้ รบ.ยังไม่ได้ใช้งบ โวยปมไม่กล้าแตะทักษิณ ให้โฟกัสระบบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4444839
เวทีซักฟอกรัฐบาลส่อล้ม ‘ประธานวิปฝ่ายค้าน’ เผยมีโอกาสไม่ยื่นซักฟอก-อภิปรายทั่วไป อ้าง รบ.ยังไม่ใช้งบสักบาท ยันไม่ได้ใจดี ต้องมีข้อมูลหนักแน่น เปิดมาไม่มีคุณภาพ ไม่เปิดดีกว่า สวนสื่อปม ‘ทักษิณ’ ถามในสภาตั้ง 2 รอบ เน้นตรวจสอบระบบมากกว่าตัวบุคคล
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาลว่า จากการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งที่แล้วเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ได้มีการพูดคุยกัน โดยค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะเปิดอภิปรายทั่วไปปลายเดือน มี.ค. และในช่วงใกล้เคียงกันจะมีวาระ 2 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งดูจากไทม์ไลน์แล้วคิดว่าอาจยังไม่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไปในสมัยประชุมนี้
“
ต้องบอกตามตรงว่าซักฟอกที่เป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจโอกาสมีน้อยมากจริงๆ เพราะต้องยอมรับว่ารัฐบาลก็เพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตนเองเป็นคนจะทำเลยแม้แต่บาทเดียว ต้องพูดตามตรงว่ามีงบประมาณจริงๆ ก็หลังจากเดือน พ.ค.ถึงจะใช้งบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก” นาย
ปกรณ์วุฒิกล่าว
นาย
ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ปลายเดือน พ.ค.จะมีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 คิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนว่าตกลงแล้วรัฐบาลจัดสรรงบประมาณที่ตัวเองใช้อำนาจเต็มอย่างไรบ้าง และมีเวลาอยู่เกือบ 1 ปีในการจัดทำงบประมาณ 68 ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร คิดว่าตอนนั้นข้อมูลทุกอย่างก็น่าจะค่อนข้างชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องการดำเนินนโยบายและเป็นไปตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ หรือวิสัยทัศน์ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้หรือไม่ รวมถึงการตามมาซึ่งทุจริตคอร์รัปชั่นต่างๆ ที่เราจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันแน่นอนว่าไม่เปิดอภิปรายใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ยืนยัน 100% แต่ต้องยอมรับว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้เป็นไปได้ยาก ส่วนการอภิปรายทั่วไปเราก็ยังพูดคุยกันอยู่ว่าถ้ายังไม่มีเรื่องงบประมาณด้วย ช่วงเวลาที่รัฐบาลทำงานอาจจะยังไม่ได้เยอะมากพอ หรือยังไม่มีประเด็นที่ใหญ่มากที่จะเปิดอภิปราย แต่หากมีประเด็นเราก็พร้อม สมมุติเปิดวันเดียว หรือเปิด 2 วันก็เปิดได้
นาย
ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ข้อมูลที่จะเปิดอภิปรายพอมีอยู่บ้าง แต่ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมอื่นๆ ด้วยว่าเป็นประเด็นที่ใกล้เคียงกันและเหมาะสมที่จะเปิดอภิปรายหรือไม่ มองว่าบางประเด็นก็สามารถใช้วิธีกระทู้สดถามในสภาได้
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องต่อเรื่องงบประมาณอย่างเดียวหรือไม่ เพราะมีเรื่องอื่นให้อภิปรายนอกเหนือจากการใช้งบด้วย นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า คิดว่างบประมาณเป็นเรื่องใหญ่ เราก็ไม่อยากเป็นฝ่ายค้านที่หยิบยกประเด็นที่ไม่ได้สลักสำคัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมาพูดให้มันเป็นเรื่องใหญ่มากจนเกินไป คิดว่าเรื่องงบประมาณ การทุจริตคอร์รัปชั่นเป็น 1 เรื่องที่สำคัญมากที่เราจะต้องตรวจสอบ ถ้าเป็นประเด็นการเมืองแล้วเราใช้โควต้า โดยที่อาจต้องเว้นว่างไปอีก เราก็อาจจะต้องคำนึงดีๆ
เมื่อถามว่า จะไม่เป็นการใจดีกับรัฐบาลเกินไปหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ถ้าเปิดแล้วไม่มีคุณภาพไม่เปิดดีกว่า เราใช้วาระทั่วไปเหมือนกระทู้สดที่ถามทุกสัปดาห์ก็ได้ ควรใช้เมื่อเหมาะสม และมีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
เมื่อถามถึงเรื่อง นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองว่าฝ่ายค้านไม่กล้าแตะ นายปกรณ์วุฒิ สวนทันทีว่า ตนเพิ่งถามกระทู้ไป ลำพังพรรคก้าวไกลเองถามไป 2 รอบแล้ว คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่เราใจดีหรือโอนอ่อนอะไรไป ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล เวลาถามเราต้องตั้งคำถามเรื่องของระบบว่าระบบนี้ ระเบียบนี้ เป็นธรรมกับทุกคนจริงๆ หรือไม่
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นตรงกันหรือไม่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เห็นค่อนข้างตรงกันว่าถ้าเป็นเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์และเป็นข้อมูลที่หนักแน่นแล้วก็พร้อมจะเปิดอภิปราย
ส่วนการไม่เปิดอภิปรายจะสะท้อนไปถึงเสถียรภาพของฝ่ายค้านนั้น นาย
ปกรณ์วุฒิระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเราเห็นตรงกัน หากย้อนไปในฝ่ายค้านครั้งที่แล้ว การอภิปรายที่เป็นทางการจริงๆ คือปี 2564 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปี 2563 เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งไม่ใช่เนื้อหาที่รัฐบาลปัจจุบันในขณะนั้นทำซะทีเดียว มันคือผลพวงที่มาจากการรัฐบาลประยุทธ์ 1 ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม
หุ้น MGI พุ่ง 30% ตลาดหลักทรัพย์ จ่อใช้มาตรการคุมหุ้นร้อนแรง Q2
https://www.prachachat.net/finance/news-1510812
หุ้น MGI พุ่งทะยานชนซิลลิ่ง +30% ตลาดหลักทรัพย์ เตือนเข้าไปลงทุนด้วยความระมัดระวัง อย่าตามกระแส โฆษกเผยจะให้ไปบอกให้ผู้ลงทุน “ห้ามซื้อ” คงไม่ใช่บทบาทของตลาดหลักทรัพย์ ด้าน “ภากร” ยกเคส Vinfast เทียบเคียง MGI จ่อใช้มาตรการคุมหุ้นร้อนแรง ซื้อขายแบบ Auction เริ่มบังคับใช้ไตรมาส 2/67
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บมจ.มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) วันนี้เปิดภาคเช้าด้วยราคา 61 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11 บาท หรือ +22% เทียบจากราคาวันก่อนหน้า โดยระหว่างวันขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดที่ราคา 65.25 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.25 บาท หรือ +30.5% เทียบจากราคาวันก่อนหน้า
นาย
รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ในฐานะโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีหุ้น MGI ว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยสิ่งที่ทำคือพยายามกระตุกให้ผู้ลงทุนได้ฉุกคิดก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพราะตอนนี้หุ้น MGI มีความร้อนแรง มีความผันผวน การจะเข้าไปลงทุนอยากให้ตัดสินใจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบที่สุด อย่าตามกระแส แต่ถ้าจะให้ทางตลาดหลักทรัพย์ไปบอกให้ผู้ลงทุน “ห้ามซื้อ” คงไม่ใช่บทบาทของตลาดหลักทรัพย์
ดร.
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวเพิ่มว่า หากไปพิจารณาเคสในต่างประเทศ
กรณี Vinfast บริษัทรถยนต์สัญชาติเวียดนาม ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ที่มีปัญหาและราคาหุ้นขึ้นไปไม่มีหยุด เพราะเกิดจากประเด็นฟรีโฟลตในตลาดหุ้น Nasdaq มีไม่มากนัก และพอมีดีมานด์ราคาก็ขึ้นไปไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นปัญหาที่ตอนนั้นตลาดหุ้น Nasdaq ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
อย่างไรก็ตาม มาตรการหนึ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ได้เตรียมการไว้แล้วสำหรับในอนาคตหากเกิดกรณีปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นคือ สามารถเปิดให้หุ้นดังกล่าวไม่จำเป็นจะต้องถูกขึ้นเครื่องหมาย P: Pause(อยู่ระหว่างห้ามซื้อขาย)
แต่สามารถเป็นการซื้อขายด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติ โดยจับคู่ซื้อขายครั้งเดียวเมื่อเปิดทำการ (Auction) ซึ่งจะเปิดให้มีการซื้อขาย 3 รอบ (pre-open1, pre-open2, pre-close) ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหาว่าหุ้นดังกล่าวไม่สามารถซื้อขายได้ แต่จะถูกซื้อขายได้เป็นแบบ Auction แทนที่จะเป็นระบบการซื้อขายแบบจับคู่ต่อเนื่อง (Continuous Trading)
และยิ่งไปกว่านั้นหากหุ้นยังมีความร้อนแรง ก็สามารถซื้อขายได้ต่อไป แทนที่จะต้องถูกขึ้นเครื่องหมาย P ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นจุดที่อยากแสดงให้เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์เล็งเห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและได้เตรียมการตรงนี้ไว้แล้ว โดยคาดว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะบังคับใช้ได้ประมาณไตรมาส 2-3 ของปีนี้
JJNY : 5in1 ‘พีมูฟ’ปีนรั้วทำเนียบ│ปธ.วิปฝ่ายค้านอาจไม่ยื่นซักฟอก│หุ้น MGI พุ่ง│ฮังการีไฟเขียวสวีเดน│ไต้หวันเผยจีนล่วงล้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4445197
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล สืบเนื่องการชุมนุมของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ (P-Move) ซึ่งปักหลักชุมนุมตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 22 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหา เรื่องสิทธิที่ดินของชาวบ้าน อาทิ โฉนดชุมชน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
บรรยากาศเวลา 09.00 น. ผู้ชุมนุมกลุ่มพีมูฟเริ่มยกระดับการชุมนุม ‘ปฏิบัติการตามหาภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ขปส. หลังปักหลักชุมนุมกว่า 22 วัน แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องโฉนดชุมชน ข้อเรียกร้องยังไม่บรรลุตามเป้าหมาย จึงรวมตัวกันที่บริเวณด้านในประตูทางเข้า-ออก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ก่อนเคลื่อนขบวนออกไปทำกิจกรรมบริเวณด้านหน้าประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการจัดเตรียมขบวนของผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชนได้นำรถมาปิดทางเข้า-ออกสำนักงาน ก.พ.ร. ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่กำบังมากั้นอีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้รถเครื่องเสียงของพีมูฟเคลื่อนออกมา ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจึงทยอยเดินเท้าออกมายังบริเวณถนนด้านนอก ก่อนจะข้ามไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาลประตู 3 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถและรั้วเหล็กปิดทางสัญจรบริเวณถนนพิษณุโลก
ต่อมาเวลา 11.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟได้นำรั้วเหล็กของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพาดกับประตูรั้วทำเนียบรัฐบาล เพื่อปีนขึ้นไปชูธงของเครือข่ายประชาชน พร้อมถือกระดาษรูปใบหน้า ‘ภูมิธรรม’ ที่มีข้อความว่า ‘WANTED’ ติดอยู่ จากนั้นตะโกนเรียกชื่อนายภูมิธรรมให้ออกมาพบประชาชน ก่อนการยุติการดำเนินกิจกรรม โดยตัวแทนประชาชนจากเครือข่ายกะเหรี่ยงตะวันตก ได้นำเทียน ผลไม้ และรูปนายภูมิธรรม มาประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อเพื่อเรียกขวัญ เรียกจิตวิญญาณให้กลับมาอยู่กับตัว และจะได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ควรจะเป็น
ตัวแทนพีมูฟกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ในเมื่อการแก้ปัญหาในระดับท้องถิ่น พื้นที่ กระทรวงต่างๆ ไม่คืบหน้า แล้วพี่น้องจะไปไหนได้ ในเมื่อปัญหากองอยู่ที่ศูนย์กลาง ทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้ ตนยืนยันว่าปัญหาจะอยู่คู่พี่น้องไปเรื่อยๆ หากยังไม่ชัดเจนกับพี่น้องคนส่วนใหญ่ในประเทศ
“ถามว่ารัฐบาลจริงใจแค่ไหนในการแก้ไขปัญหา ถ้าจริงใจ ปัญหามันถูกแก้ตั้งแต่ 13 ปีแล้ว ไม่ต้องมาเป็นมรดกตกทอดให้รัฐบาลชุดต่อๆ ไป ทั้งที่รับปากว่าจะแก้ให้ได้ เรายังเฝ้าจับตาเรื่องโฉนดชุมชนที่ท่านภูมิธรรมเป็นประธานอยู่
พอเป็นรองนายกฯ เบอร์ 1 ของไทย กลับไม่จริงใจแก้ปัญหา รับปากตั้งแต่ปีที่แล้ว ในวันผู้อยู่อาศัยโลก ปี 2566 เรามาชุมนุมที่ประตู 5 ท่านบอกว่ากลับไปเถอะ เดี๋ยวจะแก้ปัญหาให้ เป็นรัฐบาลมา 6 เดือนแล้วทำอะไรอยู่” ตัวแทนพีมูฟชี้
ตัวแทนพีมูฟกล่าวต่อว่า งบประมาณ 5.6 แสนล้าน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ถามว่าตอนนี้ได้รับหรือยัง
“โดนกับดักเยอะแยะมากมาย ปัญหาเดิมยังไม่แก้ สร้างปัญหาให้ขึ้นมาอีก เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีพี่น้องมาชุมนุมทั่วประเทศ รอบทำเนียบรัฐบาล ในเมื่อใช้ภาษีของประชาชนในการเลี้ยงครอบครัวกินอยู่ 5.6 แสนล้าน ก็ต้องบริหารอย่างเทียมกัน” ตัวแทนพีมูฟกล่าว
ต่อมาเวลา 13.30 น. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบกำลังเปิดประชุมครั้งแรก โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ทั้งนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมยังคงติดตามผลการประชุมอย่างใกล้ชิด
ปธ.วิปฝ่ายค้าน อาจไม่ยื่นซักฟอก ชี้ รบ.ยังไม่ได้ใช้งบ โวยปมไม่กล้าแตะทักษิณ ให้โฟกัสระบบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4444839
เวทีซักฟอกรัฐบาลส่อล้ม ‘ประธานวิปฝ่ายค้าน’ เผยมีโอกาสไม่ยื่นซักฟอก-อภิปรายทั่วไป อ้าง รบ.ยังไม่ใช้งบสักบาท ยันไม่ได้ใจดี ต้องมีข้อมูลหนักแน่น เปิดมาไม่มีคุณภาพ ไม่เปิดดีกว่า สวนสื่อปม ‘ทักษิณ’ ถามในสภาตั้ง 2 รอบ เน้นตรวจสอบระบบมากกว่าตัวบุคคล
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาลว่า จากการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งที่แล้วเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ได้มีการพูดคุยกัน โดยค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะเปิดอภิปรายทั่วไปปลายเดือน มี.ค. และในช่วงใกล้เคียงกันจะมีวาระ 2 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งดูจากไทม์ไลน์แล้วคิดว่าอาจยังไม่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไปในสมัยประชุมนี้
“ต้องบอกตามตรงว่าซักฟอกที่เป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจโอกาสมีน้อยมากจริงๆ เพราะต้องยอมรับว่ารัฐบาลก็เพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตนเองเป็นคนจะทำเลยแม้แต่บาทเดียว ต้องพูดตามตรงว่ามีงบประมาณจริงๆ ก็หลังจากเดือน พ.ค.ถึงจะใช้งบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก” นายปกรณ์วุฒิกล่าว
นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ปลายเดือน พ.ค.จะมีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 คิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนว่าตกลงแล้วรัฐบาลจัดสรรงบประมาณที่ตัวเองใช้อำนาจเต็มอย่างไรบ้าง และมีเวลาอยู่เกือบ 1 ปีในการจัดทำงบประมาณ 68 ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร คิดว่าตอนนั้นข้อมูลทุกอย่างก็น่าจะค่อนข้างชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องการดำเนินนโยบายและเป็นไปตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ หรือวิสัยทัศน์ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้หรือไม่ รวมถึงการตามมาซึ่งทุจริตคอร์รัปชั่นต่างๆ ที่เราจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันแน่นอนว่าไม่เปิดอภิปรายใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ยืนยัน 100% แต่ต้องยอมรับว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้เป็นไปได้ยาก ส่วนการอภิปรายทั่วไปเราก็ยังพูดคุยกันอยู่ว่าถ้ายังไม่มีเรื่องงบประมาณด้วย ช่วงเวลาที่รัฐบาลทำงานอาจจะยังไม่ได้เยอะมากพอ หรือยังไม่มีประเด็นที่ใหญ่มากที่จะเปิดอภิปราย แต่หากมีประเด็นเราก็พร้อม สมมุติเปิดวันเดียว หรือเปิด 2 วันก็เปิดได้
นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ข้อมูลที่จะเปิดอภิปรายพอมีอยู่บ้าง แต่ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมอื่นๆ ด้วยว่าเป็นประเด็นที่ใกล้เคียงกันและเหมาะสมที่จะเปิดอภิปรายหรือไม่ มองว่าบางประเด็นก็สามารถใช้วิธีกระทู้สดถามในสภาได้
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องต่อเรื่องงบประมาณอย่างเดียวหรือไม่ เพราะมีเรื่องอื่นให้อภิปรายนอกเหนือจากการใช้งบด้วย นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า คิดว่างบประมาณเป็นเรื่องใหญ่ เราก็ไม่อยากเป็นฝ่ายค้านที่หยิบยกประเด็นที่ไม่ได้สลักสำคัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมาพูดให้มันเป็นเรื่องใหญ่มากจนเกินไป คิดว่าเรื่องงบประมาณ การทุจริตคอร์รัปชั่นเป็น 1 เรื่องที่สำคัญมากที่เราจะต้องตรวจสอบ ถ้าเป็นประเด็นการเมืองแล้วเราใช้โควต้า โดยที่อาจต้องเว้นว่างไปอีก เราก็อาจจะต้องคำนึงดีๆ
เมื่อถามว่า จะไม่เป็นการใจดีกับรัฐบาลเกินไปหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ถ้าเปิดแล้วไม่มีคุณภาพไม่เปิดดีกว่า เราใช้วาระทั่วไปเหมือนกระทู้สดที่ถามทุกสัปดาห์ก็ได้ ควรใช้เมื่อเหมาะสม และมีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
เมื่อถามถึงเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองว่าฝ่ายค้านไม่กล้าแตะ นายปกรณ์วุฒิ สวนทันทีว่า ตนเพิ่งถามกระทู้ไป ลำพังพรรคก้าวไกลเองถามไป 2 รอบแล้ว คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่เราใจดีหรือโอนอ่อนอะไรไป ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล เวลาถามเราต้องตั้งคำถามเรื่องของระบบว่าระบบนี้ ระเบียบนี้ เป็นธรรมกับทุกคนจริงๆ หรือไม่
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นตรงกันหรือไม่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เห็นค่อนข้างตรงกันว่าถ้าเป็นเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์และเป็นข้อมูลที่หนักแน่นแล้วก็พร้อมจะเปิดอภิปราย
ส่วนการไม่เปิดอภิปรายจะสะท้อนไปถึงเสถียรภาพของฝ่ายค้านนั้น นายปกรณ์วุฒิระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเราเห็นตรงกัน หากย้อนไปในฝ่ายค้านครั้งที่แล้ว การอภิปรายที่เป็นทางการจริงๆ คือปี 2564 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปี 2563 เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งไม่ใช่เนื้อหาที่รัฐบาลปัจจุบันในขณะนั้นทำซะทีเดียว มันคือผลพวงที่มาจากการรัฐบาลประยุทธ์ 1 ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม
หุ้น MGI พุ่ง 30% ตลาดหลักทรัพย์ จ่อใช้มาตรการคุมหุ้นร้อนแรง Q2
https://www.prachachat.net/finance/news-1510812
หุ้น MGI พุ่งทะยานชนซิลลิ่ง +30% ตลาดหลักทรัพย์ เตือนเข้าไปลงทุนด้วยความระมัดระวัง อย่าตามกระแส โฆษกเผยจะให้ไปบอกให้ผู้ลงทุน “ห้ามซื้อ” คงไม่ใช่บทบาทของตลาดหลักทรัพย์ ด้าน “ภากร” ยกเคส Vinfast เทียบเคียง MGI จ่อใช้มาตรการคุมหุ้นร้อนแรง ซื้อขายแบบ Auction เริ่มบังคับใช้ไตรมาส 2/67
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บมจ.มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) วันนี้เปิดภาคเช้าด้วยราคา 61 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11 บาท หรือ +22% เทียบจากราคาวันก่อนหน้า โดยระหว่างวันขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดที่ราคา 65.25 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.25 บาท หรือ +30.5% เทียบจากราคาวันก่อนหน้า
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ในฐานะโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีหุ้น MGI ว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยสิ่งที่ทำคือพยายามกระตุกให้ผู้ลงทุนได้ฉุกคิดก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพราะตอนนี้หุ้น MGI มีความร้อนแรง มีความผันผวน การจะเข้าไปลงทุนอยากให้ตัดสินใจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบที่สุด อย่าตามกระแส แต่ถ้าจะให้ทางตลาดหลักทรัพย์ไปบอกให้ผู้ลงทุน “ห้ามซื้อ” คงไม่ใช่บทบาทของตลาดหลักทรัพย์
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวเพิ่มว่า หากไปพิจารณาเคสในต่างประเทศ
กรณี Vinfast บริษัทรถยนต์สัญชาติเวียดนาม ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ที่มีปัญหาและราคาหุ้นขึ้นไปไม่มีหยุด เพราะเกิดจากประเด็นฟรีโฟลตในตลาดหุ้น Nasdaq มีไม่มากนัก และพอมีดีมานด์ราคาก็ขึ้นไปไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นปัญหาที่ตอนนั้นตลาดหุ้น Nasdaq ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
อย่างไรก็ตาม มาตรการหนึ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ได้เตรียมการไว้แล้วสำหรับในอนาคตหากเกิดกรณีปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นคือ สามารถเปิดให้หุ้นดังกล่าวไม่จำเป็นจะต้องถูกขึ้นเครื่องหมาย P: Pause(อยู่ระหว่างห้ามซื้อขาย)
แต่สามารถเป็นการซื้อขายด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติ โดยจับคู่ซื้อขายครั้งเดียวเมื่อเปิดทำการ (Auction) ซึ่งจะเปิดให้มีการซื้อขาย 3 รอบ (pre-open1, pre-open2, pre-close) ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหาว่าหุ้นดังกล่าวไม่สามารถซื้อขายได้ แต่จะถูกซื้อขายได้เป็นแบบ Auction แทนที่จะเป็นระบบการซื้อขายแบบจับคู่ต่อเนื่อง (Continuous Trading)
และยิ่งไปกว่านั้นหากหุ้นยังมีความร้อนแรง ก็สามารถซื้อขายได้ต่อไป แทนที่จะต้องถูกขึ้นเครื่องหมาย P ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นจุดที่อยากแสดงให้เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์เล็งเห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและได้เตรียมการตรงนี้ไว้แล้ว โดยคาดว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะบังคับใช้ได้ประมาณไตรมาส 2-3 ของปีนี้