ปกรณ์วุฒิ เย้ย ต่อให้ผู้นำฝ่ายค้านลาออก เพื่อไทย ก็เป็นไม่ได้ ต้องให้รองปธ.ลาออกก่อน
.
.
ปกรณ์วุฒิ เย้ย ต่อให้ผู้นำฝ่ายค้านฯลาออก “พท.” ก็เป็นไม่ได้ เหตุมี “ปธ.สภา-รองปธ.สภา” ชี้ต้องให้รองปธ.ลาออกก่อน ลั่นให้รอดูวันแถลงนโยบาย พรรคไหนจะตรวจสอบรัฐบาล พรรคไหนจะตรวจสอบฝ่ายค้านกันเอง เหน็บ 24 ก.ย.จะเป็นบทพิสูจน์แรก “เพื่อไทย”จะเห็นด้วยกับ กม.ปฏิรูปกองทัพ ตามที่หาเสียงไว้หรือไม่
.
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงบทบาทการทำงานฝ่ายค้านร่วมกับพรรคเพื่อไทยซึ่งล่าสุดออกมาเรียกร้องให้ผู้นำฝ่ายค้านฯ ลาออก ว่า ในที่ประชุมจะมีการพูดคุยและได้มีการหารือกับวิปบางคนแล้วว่าจะขอมติสัดส่วนวิปฝ่ายค้านอย่างไร โดยได้เว้นสัดส่วนไว้ให้พรรคเพื่อไทยไว้แล้ว ซึ่งมติวิปวันนี้จะมีสัดส่วนของวิบฝ่ายค้านด้วย
.
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคเพื่อไทยจะแสดงเจตจำนงไม่เข้าร่วมก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามตนก็ได้ประสานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นไปบ้างแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะเข้าร่วมตนก็เคารพเจตนารมณ์และอยากให้มาทำงานร่วมกัน ส่วนเรื่องการที่ให้ผู้นำฝ่ายค้านลาออกก็ไม่ทราบว่าเหตุผลคืออะไรแต่เรายังยืนยันชัดเจนว่า เราทำงานฝ่ายค้านเต็มที่
.
“อยากจะบอกว่าต่อให้ผู้นำฝ่ายค้านลาออกพรรคเพื่อไทยก็เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ เพราะมีประธานสภาฯและรองประธานสภาฯแล้ว ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ไม่สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ นอกจากรองประธานสภาทั้งสองคนจะลาออก” นายปกรณ์วุฒิกล่าว
.
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านฯ ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เต็มที่แน่นอน การแถลงนโยบายครั้งนี้ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าก็คงได้เห็นกันว่าพรรคประชาชน จะตรวจสอบรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดนี้มากแค่ไหน พรรคไหนที่จะตรวจสอบรัฐบาลหรือพรรคไหนที่จะลุกขึ้นอภิปราย ตรวจสอบฝ่ายค้านด้วยกันเอง
.
เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยเหมือนจะขยี้พรรคประชาชนมาโดยตลอดหลังจากหนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ก็ต้องไปถามพรรคเพื่อไทยว่าตกลงจะตรวจสอบรัฐบาล หรือจะตรวจสอบฝ่ายค้านกันเอง ตนก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร และก็ยังงงอยู่ว่าจะมาตรวจสอบตนทำไม เราก็พยายามที่จะชักชวนให้มาทำงานร่วมกัน
.
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อถึงการหารือระหว่างวิปทั้ง 3 ฝ่าย ว่าคาดว่าน่าจะได้คุยกันในวันที่ 24 ก.ย.นี้ ซึ่งได้คุยกันเกือบจะชัดเจนแล้ว ถ้าขยับคงขยับไม่มาก แต่วันแถลงนโยบายยังติดปัญหาอยู่เรื่องโควตาเวลา เรามีการคุยกันหลังไมค์ตลอดรวมถึงคุยกับพรรคเพื่อไทยด้วย เมื่อพรรคเพื่อไทยตัดสินใจไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้าน ซึ่งตนได้ยินมาว่าต่อให้ไม่เข้าร่วมวิปฝ่านค้านก็จะส่งสส.รุ่นเด็ก มานั่งฟังการประชุมวิปฝ่ายค้าน ซึ่งตนก็ไม่ติดขัด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำแบบนี้ทำไม พรรคเพื่อไทยเข้าใจดีอยู่แล้ว แต่อย่าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ ว่าการเข้าร่วมวิปฝ่ายค้านคือการเข้ามาปรึกษาหารือร่วมกัน ว่าสภาแต่ละสัปดาห์จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และฝ่ายค้านจะเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง
.
“ผมผ่านการร่วมงานมาหมดแล้วทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทุกคนคงรู้ดีว่าหลายเรื่องอาจคิดไม่ตรงกัน และผมก็พูดเสมอว่าฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องคิดตรงกันทุกเรื่อง เรื่องไหนที่คิดไม่เหมือนกันก็สงวนสิทธิ์ของแต่ละพรรคได้เลย ว่าจะลงมติหรือปฏิบัติอย่างไร ซึ่งไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ไม่เหมือนวิปรัฐบาล” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
.
ต่อข้อถามว่าหนักใจกับบทบาทของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะค้านกันเองหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้หนักใจอะไร ฝากประชาชนให้หนักใจมากกว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยตนคิดว่าถ้าเป็นคนที่มีความรู้มากหน่อย ไม่ีต้องมาก ตนคิดว่าคนที่มีประสบการณ์ทางการเมือง ถ้ามีความรู้รอบตัวก็จะทราบดีว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นเรื่องปกติในโลกนี้อยู่แล้ว ตอนปี 2020 มีอย่างน้อยๆ 15 ประเทศที่อยู่สภาวะรัฐบาลเสียงข้างน้อย ปัจจุบันปี 2025 ก้มีแคนนาดา ที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และมีผลวิจัยว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ได้ทำให้สภาแย่ลง ดังนั้นการที่ทำให้ฝ่ายค้านอ่อนแอไม่ใช่เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือบิดเบือนกระบวนการประชาธิปไตย
.
“การที่จะสภาจะอ่อนแอ ฝ่ายตรวจสอบจะอ่อนแอ ถ้าหากว่าฝ่ายตรวจสอบไม่ทำงานตรวจสอบอย่างแข็งขัน และขอย้ำว่าถ้าพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทยรวมกัน สามารถผ่านกฎหมายอะไรก็ได้ และรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ นี่คืออำนาจนิติบัญญัติ ที่แยกออกจากอำนาจบริหารโดยเด็ดขาด” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
.
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า 4 เดือนที่เหลือแม้ไม่มีอำนาจบริหาร แต่ยินดีที่จะทำงานด้วยกัน และยังทำงานเพื่อประชาชนอยู่ตามที่หาเสียงไว้ และการประชุมสภา พรุ่งนี้ (24 ก.ย.) มี พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม.พรรคประชาชน เสนอ ที่จะแก้ไขให้ทหารที่ทำผิดในคดีทุจริตขึ้นศาลพลเรือน ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปกองทัพก้าวแรก และการปฏิรูปกองทัพก็เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ ก็น่าจะเป็นบทพิสูจน์แรกว่าพรรคเพื่อไทยจะเอาอย่างไรกับนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน
.
.
ปชน.เตรียมขุนพล อภิปรายนโยบายรบ. บอก ‘พท.’ เลิกอารมณ์ค้าง จี้กลับมาทำฝ่ายค้านร่วมกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5379115
.
ปกรณ์วุฒิ เผย ปชน.เตรียมขุนพล อภิปรายนโยบายรัฐบาล-คุณสมบัติ รมว. งง “ผมเป็นฝ่ายไหน” หลัง ‘เพื่อไทย’ เล็งอภิปรายมากกว่ารัฐบาล จี้ กลับมาทำฝ่ายค้านร่วมกัน เลิก ‘อารมณ์ค้าง’ ได้แล้ว
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 กันยายน ที่รัฐสภา นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ว่า ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดธีม แต่พรรคประชาชนจะเริ่มจากเนื้อหาสาระก่อน ค่อยคิดธีมทีหลังเพราะหากคิดก่อนจะเป็นการจำกัดกรอบเนื้อหาสาระมากเกินไป
.
เมื่อถามว่าทิศทางจะไปทางไหนเพราะสังคมจับตามองการอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรี นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ประเด็นมีหลากหลาย แต่เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีมีแน่ ๆ คือการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีบางคนว่าอาจทำหน้าที่โปร่งใส น่าไว้วางใจหรือไม่ และเวลา 4 เดือนที่เหลือมีอะไรที่รัฐบาลต้องเร่งทำ ซึ่งผู้อภิปรายขณะนี้มีประมาณเกือบ 20 คนแล้ว หลักๆคงจะเป็นนาย
ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหหน้าพรรคฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ,น.ส.
สิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคฯ นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหัวหน้าพรรคฯ และอีกส.ส.หลายคน
.
เมื่อถามว่าต้องเตรียมองครักษ์ไว้หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยอาจจะอภิปรายโจมตีพรรคประชาชน นาย
ปกรณ์วุฒิ ถามกลับสื่อมวลชนแบบติดตลกว่า “
นี่ผมเป็นฝ่ายอะไรนะ” พร้อมกล่าวว่า ไม่อยากให้เสียเวลาสภาแถลงนโยบายของรัฐบาล ควรอภิปรายนโยบายของรัฐบาล การจะมาโจมตีพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่ได้หนักหนาจนเกินไป ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินดีกว่าว่าพรรคบางพรรคกำลังทำงานตรวจสอบรัฐบาล หรือกำลังทำงานโจมตีพรรคอื่น โดยที่วันประชุมสภา ก็แทบจะไม่เห็นพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบรัฐบาลหรือจะทำอะไร
.
เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยอภิปรายพรรคประชาชน เพราะไม่กล้าอภิปรายรัฐบาล “
ภูมิใจไทย” หรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนก็ไม่แน่ใจ ต้องฝากสื่อมวลชนและประชาชนวิเคราะห์ดู เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงไม่ตรวจสอบรัฐบาลมากเท่าไหร่ เรื่องนี้ตนบอกไม่ได้จริงๆ อาจจะเป็นอารมณ์ค้างอยู่ แต่คิดว่าเลยเวลามานานแล้ว ปล่อยอารมณ์ตัวเองออกมาบ้าง แล้วใช้เหตุผล แล้วกลับมาทำงานร่วมกันดีกว่า.
.
.
แม่ทัพกุ้ง ปฏิเสธไม่เล่นการเมือง หลังมีข้อเสนอตำแหน่งระดับสูง
https://news.ch7.com/detail/828846
.
ยังมีทาบทามนั่งตำแหน่งระดับสูง "แม่ทัพกุ้ง" ปฏิเสธไม่เล่นการเมือง แม้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหาร ก็ขอเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อน ๆ ในกองทัพ ย้ำปะทะรอบ 2 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ มองเหตุพื้นที่สระแก้ว จันทบุรี ตราด เชื่อมต่อกองทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นเส้นเขตแดนเดียวกัน
.
วันนี้ (23 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโท
บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายในกองบัญชาการกองทัพบก พร้อมร่วมร้องเพลงชาติกับเด็ก ๆ โดย พลโท
บุญสิน กล่าวย้ำว่า แม้จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ยืนยันว่าจะยังคงช่วยงานของกองทัพอย่างแน่นอน แม้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารแล้ว ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อน ๆ ได้ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทำงานด้านการเมือง
.
พลโท
บุญสิน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเราบอกว่าไม่ได้เล่นการเมือง เขาก็เปิดใจ พูดคุยกับเรา ยืนยันตนจะรักษาสถานภาพนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามายุ่ง รับว่ามีคนติดต่อเข้ามา จะให้ตำแหน่งระดับสูงทางการเมือง แต่ก็ไม่เอา มองว่าไม่ยั่งยืน
.
นอกจากนี้ พลโท
บุญสิน ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา(RBC) ว่า ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ตามข้อตก การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ให้รือกันภายใน 3 สัปดาห์ นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เขาพูดกันเอาไว้ แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์ และความจริงใจของทางกัมพูชาว่าเป็นอย่างไร
.
พลโท
บุญสิน ย้ำว่า สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง ของกองทัพภาคที่ 1 บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด(กปจ.ชต.) ส่งผลต่อพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นเส้นเขตแดนประเทศเดียวกัน พื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องเป็นนโยบายเดียวกัน และมีข้อระมัดระวังร่วมกัน และยอมรับว่าการทำงานต่อจากนี้ของกองทัพในการ ปกป้องอธิปไตย
.
“
ชายแดนไทย-กัมพูชา จะราบรื่นขึ้น เพราะได้รับความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก็สนับสนุนอยู่แล้ว ย้ำว่าทหารทำตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง และผลประโยชน์ของประเทศชาติ แม่ทัพไม่ห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ แม้ใกล้เกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะเราทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลืออาจมีบ้าง เล็กน้อย หรือพื้นที่ไหนที่ยังไม่เรียบร้อย และเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ที่จะต้องดำเนินการต่อ”
JJNY : เย้ยต่อให้ลาออก พท.ก็เป็นไม่ได้│ปชน.เตรียมขุนพล แนะพท.ใช้เหตุผล│แม่ทัพกุ้งไม่เล่นการเมือง│พบโดรนทำเที่ยวบินหยุด
.
ปชน.เตรียมขุนพล อภิปรายนโยบายรบ. บอก ‘พท.’ เลิกอารมณ์ค้าง จี้กลับมาทำฝ่ายค้านร่วมกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5379115
.
ปกรณ์วุฒิ เผย ปชน.เตรียมขุนพล อภิปรายนโยบายรัฐบาล-คุณสมบัติ รมว. งง “ผมเป็นฝ่ายไหน” หลัง ‘เพื่อไทย’ เล็งอภิปรายมากกว่ารัฐบาล จี้ กลับมาทำฝ่ายค้านร่วมกัน เลิก ‘อารมณ์ค้าง’ ได้แล้ว
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 กันยายน ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ว่า ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดธีม แต่พรรคประชาชนจะเริ่มจากเนื้อหาสาระก่อน ค่อยคิดธีมทีหลังเพราะหากคิดก่อนจะเป็นการจำกัดกรอบเนื้อหาสาระมากเกินไป
.
เมื่อถามว่าทิศทางจะไปทางไหนเพราะสังคมจับตามองการอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรี นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ประเด็นมีหลากหลาย แต่เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีมีแน่ ๆ คือการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีบางคนว่าอาจทำหน้าที่โปร่งใส น่าไว้วางใจหรือไม่ และเวลา 4 เดือนที่เหลือมีอะไรที่รัฐบาลต้องเร่งทำ ซึ่งผู้อภิปรายขณะนี้มีประมาณเกือบ 20 คนแล้ว หลักๆคงจะเป็นนายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหหน้าพรรคฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ,น.ส.สิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคฯ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหัวหน้าพรรคฯ และอีกส.ส.หลายคน
.
เมื่อถามว่าต้องเตรียมองครักษ์ไว้หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยอาจจะอภิปรายโจมตีพรรคประชาชน นายปกรณ์วุฒิ ถามกลับสื่อมวลชนแบบติดตลกว่า “นี่ผมเป็นฝ่ายอะไรนะ” พร้อมกล่าวว่า ไม่อยากให้เสียเวลาสภาแถลงนโยบายของรัฐบาล ควรอภิปรายนโยบายของรัฐบาล การจะมาโจมตีพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่ได้หนักหนาจนเกินไป ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินดีกว่าว่าพรรคบางพรรคกำลังทำงานตรวจสอบรัฐบาล หรือกำลังทำงานโจมตีพรรคอื่น โดยที่วันประชุมสภา ก็แทบจะไม่เห็นพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบรัฐบาลหรือจะทำอะไร
.
เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยอภิปรายพรรคประชาชน เพราะไม่กล้าอภิปรายรัฐบาล “ภูมิใจไทย” หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนก็ไม่แน่ใจ ต้องฝากสื่อมวลชนและประชาชนวิเคราะห์ดู เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงไม่ตรวจสอบรัฐบาลมากเท่าไหร่ เรื่องนี้ตนบอกไม่ได้จริงๆ อาจจะเป็นอารมณ์ค้างอยู่ แต่คิดว่าเลยเวลามานานแล้ว ปล่อยอารมณ์ตัวเองออกมาบ้าง แล้วใช้เหตุผล แล้วกลับมาทำงานร่วมกันดีกว่า.
.
.
.
ยังมีทาบทามนั่งตำแหน่งระดับสูง "แม่ทัพกุ้ง" ปฏิเสธไม่เล่นการเมือง แม้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหาร ก็ขอเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อน ๆ ในกองทัพ ย้ำปะทะรอบ 2 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ มองเหตุพื้นที่สระแก้ว จันทบุรี ตราด เชื่อมต่อกองทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นเส้นเขตแดนเดียวกัน
.
วันนี้ (23 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายในกองบัญชาการกองทัพบก พร้อมร่วมร้องเพลงชาติกับเด็ก ๆ โดย พลโทบุญสิน กล่าวย้ำว่า แม้จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ยืนยันว่าจะยังคงช่วยงานของกองทัพอย่างแน่นอน แม้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารแล้ว ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อน ๆ ได้ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทำงานด้านการเมือง
.
พลโท บุญสิน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเราบอกว่าไม่ได้เล่นการเมือง เขาก็เปิดใจ พูดคุยกับเรา ยืนยันตนจะรักษาสถานภาพนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามายุ่ง รับว่ามีคนติดต่อเข้ามา จะให้ตำแหน่งระดับสูงทางการเมือง แต่ก็ไม่เอา มองว่าไม่ยั่งยืน
.
นอกจากนี้ พลโทบุญสิน ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา(RBC) ว่า ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ตามข้อตก การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ให้รือกันภายใน 3 สัปดาห์ นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เขาพูดกันเอาไว้ แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์ และความจริงใจของทางกัมพูชาว่าเป็นอย่างไร
.
พลโท บุญสิน ย้ำว่า สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง ของกองทัพภาคที่ 1 บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด(กปจ.ชต.) ส่งผลต่อพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นเส้นเขตแดนประเทศเดียวกัน พื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องเป็นนโยบายเดียวกัน และมีข้อระมัดระวังร่วมกัน และยอมรับว่าการทำงานต่อจากนี้ของกองทัพในการ ปกป้องอธิปไตย
.
“ชายแดนไทย-กัมพูชา จะราบรื่นขึ้น เพราะได้รับความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก็สนับสนุนอยู่แล้ว ย้ำว่าทหารทำตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง และผลประโยชน์ของประเทศชาติ แม่ทัพไม่ห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ แม้ใกล้เกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะเราทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลืออาจมีบ้าง เล็กน้อย หรือพื้นที่ไหนที่ยังไม่เรียบร้อย และเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ที่จะต้องดำเนินการต่อ”