การรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริม ถือว่าเป็นเทรนด์ใหม่ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น
มีวิตามินเสริมและอาหารเสริมหลากหลายแบรนด์ให้เลือกรับประทาน แต่หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่าวิธีทานอาหารเสริมที่ถูกต้อง
หรือวิธีกินอาหารเสริมให้ได้ผลนั้นมีขั้นตอนการกินอย่างไร
วันนี้พี่หมอฝั่งธน...จะมาให้ความรู้
ทานวิตามินเสริมอย่างไร ให้ปลอดภัย ได้สุขภาพ
อาหารเสริม คือ สารอาหารที่สกัด และผลิตออกมาเพื่อรับประทานเพิ่มเติมจากอาหารมื้อหลัก
โดยมีเป้าหมายเพื่อบำรุงสุขภาพ หรือ เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการรักษาทางการแพทย์
มีหลากหลายรูปแบบทั้งเป็นแคปซูล แบบเม็ด แบบผง หรือ แบบน้ำ
ในปัจจุบันด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบ รวมถึงมีการแข่งขันที่สูง ทำให้การใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปจากเดิม
เน้นการรับประทานอาหารจานด่วนที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายน้อย
และยังมีภาวะเครียด กดดัน ซึ่งล้วนส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
ดังนั้น การรับประทานวิตามิน และอาหารเสริม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย
ไปพร้อม ๆ กับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งภายใน และภายนอก
วิตามินแต่ละชนิด มีหน้าที่และประโยชน์ต่อร่างกายต่างกัน
วิตามินเอ เกี่ยวกับสายตาและการเจริญเติบโต
วิตามินบี เกี่ยวกับระบบประสาท การสร้างพลังงานและเม็ดเลือด
วิตามินซี เกี่ยวกับการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินดี เกี่ยวกับกระดูก
วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินเค เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดและกระดูก
ใครบ้าง เสี่ยงขาดวิตามิน
การเป็นผู้สูงอายุ
การงดรับประทานเนื้อสัตว์
การผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
การกินยาบางอย่างที่ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดลดลง
การได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
การมีพฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว เช่น ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
การขาดวิตามินแบ่งเป็น 2 กรณี
ขาดวิตามินแบบชัดเจน จนเกิดโรคหรืออาการแสดง เช่น การขาดวิตามินบี 12 และโฟเลต
ทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง หรือการขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกบวม เลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น
ขาดวิตามินแบบไม่พอเพียง (suboptimal vitamin intake) เช่น ขาดวิตามินบี 12 จากการกินมังสวิรัติ
ทำให้มีอาการไม่สบายทางกายอย่างการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น การเผาผลาญพลังงานไม่ดี นอนไม่หลับ
ผิวพรรณไม่สดใส เป็นต้น
วิธีทานอาหารเสริมที่ถูกต้อง กินอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผล
1. อ่านฉลากทุกครั้งก่อนกินอาหารเสริม
ก่อนการรับประทานอาหารเสริมทุกครั้ง ขั้นตอนแรกที่ควรทำคืออ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกครั้งทั้งก่อนซื้อและบริโภค
รวมถึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผลิตโดยบริษัทที่ได้มาตรฐาน
หลังจากนั้นควรตรวจสอบส่วนผสม ปริมาณสารอาหารที่บรรจุ
ไม่ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณสารอาหารมากเกินความจำเป็นเพราะอาจทำให้ร่างกายขับสารอาหารส่วนเกินออกมา
2. กินอาหารเสริมให้เหมาะสมกับร่างกาย ไม่ทานแทนยา
การรับประทานอาหารเสริมแต่ละชนิด แต่ละประเภท และแต่ละยี่ห้อมีวิธีรับประทานที่แตกต่างกัน
จึงควรศึกษาฉลากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างละเอียด รวมถึงศึกษาวิธีการกินวิตามินแต่ละชนิดให้เหมาะสมว่า
วิตามินชนิดไหนควรทานเวลาใด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ไม่มีผลข้างเคียง เช่น การกินวิตามินรวมอาจกินตอนเช้าแค่ครั้งเดียว
แต่อาหารเสริมบางประเภทอาจต้องกินวันละ 2-3 ครั้ง เป็นต้น
นอกจากนี้เราไม่ควรกินอาหารเสริมแทนยา หรือกินอาหารเสริมเพื่อรักษาการป่วย
เพราะอาหารเสริมเป็นเพียงแค่สารอาหารเสริมจากมื้อหลักเท่านั้น
การบริโภคอาหารเสริมแทนยาอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการทานอาหารเสริมอย่างเหมาะสม และเข้ากับสภาวะร่างกายในขณะนั้น
การรับประทานวิตามินที่ได้ผลลัพท์สูงที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น
หรือ รับคำแนะนำเรื่องการทานวิตามิน อาหารเสริมที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ค่ะ
ความรู้เพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=pwP5kIagewI


ทานวิตามินเสริมอย่างไร ให้ปลอดภัย ได้สุขภาพ
มีวิตามินเสริมและอาหารเสริมหลากหลายแบรนด์ให้เลือกรับประทาน แต่หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่าวิธีทานอาหารเสริมที่ถูกต้อง
หรือวิธีกินอาหารเสริมให้ได้ผลนั้นมีขั้นตอนการกินอย่างไร
วันนี้พี่หมอฝั่งธน...จะมาให้ความรู้
อาหารเสริม คือ สารอาหารที่สกัด และผลิตออกมาเพื่อรับประทานเพิ่มเติมจากอาหารมื้อหลัก
โดยมีเป้าหมายเพื่อบำรุงสุขภาพ หรือ เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการรักษาทางการแพทย์
มีหลากหลายรูปแบบทั้งเป็นแคปซูล แบบเม็ด แบบผง หรือ แบบน้ำ
ในปัจจุบันด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบ รวมถึงมีการแข่งขันที่สูง ทำให้การใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปจากเดิม
เน้นการรับประทานอาหารจานด่วนที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายน้อย
และยังมีภาวะเครียด กดดัน ซึ่งล้วนส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
ดังนั้น การรับประทานวิตามิน และอาหารเสริม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย
ไปพร้อม ๆ กับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งภายใน และภายนอก
วิตามินเอ เกี่ยวกับสายตาและการเจริญเติบโต
วิตามินบี เกี่ยวกับระบบประสาท การสร้างพลังงานและเม็ดเลือด
วิตามินซี เกี่ยวกับการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินดี เกี่ยวกับกระดูก
วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินเค เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดและกระดูก
ใครบ้าง เสี่ยงขาดวิตามิน
การเป็นผู้สูงอายุ
การงดรับประทานเนื้อสัตว์
การผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
การกินยาบางอย่างที่ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดลดลง
การได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
การมีพฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว เช่น ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
การขาดวิตามินแบ่งเป็น 2 กรณี
ขาดวิตามินแบบชัดเจน จนเกิดโรคหรืออาการแสดง เช่น การขาดวิตามินบี 12 และโฟเลต
ทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง หรือการขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกบวม เลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น
ขาดวิตามินแบบไม่พอเพียง (suboptimal vitamin intake) เช่น ขาดวิตามินบี 12 จากการกินมังสวิรัติ
ทำให้มีอาการไม่สบายทางกายอย่างการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น การเผาผลาญพลังงานไม่ดี นอนไม่หลับ
ผิวพรรณไม่สดใส เป็นต้น
1. อ่านฉลากทุกครั้งก่อนกินอาหารเสริม
ก่อนการรับประทานอาหารเสริมทุกครั้ง ขั้นตอนแรกที่ควรทำคืออ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกครั้งทั้งก่อนซื้อและบริโภค
รวมถึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผลิตโดยบริษัทที่ได้มาตรฐาน
หลังจากนั้นควรตรวจสอบส่วนผสม ปริมาณสารอาหารที่บรรจุ
ไม่ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณสารอาหารมากเกินความจำเป็นเพราะอาจทำให้ร่างกายขับสารอาหารส่วนเกินออกมา
2. กินอาหารเสริมให้เหมาะสมกับร่างกาย ไม่ทานแทนยา
การรับประทานอาหารเสริมแต่ละชนิด แต่ละประเภท และแต่ละยี่ห้อมีวิธีรับประทานที่แตกต่างกัน
จึงควรศึกษาฉลากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างละเอียด รวมถึงศึกษาวิธีการกินวิตามินแต่ละชนิดให้เหมาะสมว่า
วิตามินชนิดไหนควรทานเวลาใด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ไม่มีผลข้างเคียง เช่น การกินวิตามินรวมอาจกินตอนเช้าแค่ครั้งเดียว
แต่อาหารเสริมบางประเภทอาจต้องกินวันละ 2-3 ครั้ง เป็นต้น
นอกจากนี้เราไม่ควรกินอาหารเสริมแทนยา หรือกินอาหารเสริมเพื่อรักษาการป่วย
เพราะอาหารเสริมเป็นเพียงแค่สารอาหารเสริมจากมื้อหลักเท่านั้น
การบริโภคอาหารเสริมแทนยาอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการทานอาหารเสริมอย่างเหมาะสม และเข้ากับสภาวะร่างกายในขณะนั้น
การรับประทานวิตามินที่ได้ผลลัพท์สูงที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น
หรือ รับคำแนะนำเรื่องการทานวิตามิน อาหารเสริมที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ค่ะ
ความรู้เพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=pwP5kIagewI