JJNY : 5in1 พิธาย้ำรบ.ต้องมีแผนสอง│ชัยธวัชรับเข้าใจ│‘พีมูฟ’จี้นายก│เกาหลีใต้ไฟเขียวทหาร│ทูตพิเศษจะเยือนญี่ปุ่น-เกาหลีใต้

พิธา ย้ำรบ.ต้องมีแผนสอง ชี้กระตุ้นศก. ไม่จำเป็นต้องใช้ ดิจิทัลวอลเล็ต อย่างเดียว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8090886
 
 
“พิธา” ย้ำ รัฐบาลต้องมีแผนสอง ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่จำเป็นต้องใช้ดิจิทัลวอลเล็ต เพียงอย่างเดียว แนะ อย่าให้องค์กรอิสระ มาควบคุมการทำงาน
 
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2567 ที่ซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน ถนนเยาวราช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ภายหลังคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ข้อเสนอแนะ ว่า คิดว่าหลักการสำคัญในการดำเนินนโยบายเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
 
แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเอง ป.ป.ช.ก็มีหน้าที่ของเขา รัฐบาลก็มีหน้าที่ของตัวเอง ไม่ควรให้องค์กรอิสระมาควบคุมการทำงานของคนที่มาจากการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกันมองว่า รัฐบาลต้องหาทางออกหรือมีแผนสองในเรื่องนี้ ที่เศรษฐกิจซึม และมีความลำบากแตกต่างกันไป เช่น ธุรกิจเอสเอ็มอีในถนนเยาวราชก็จะมีปัญหาสภาพคล่องกันมาก เพราะมีเรื่องของสินค้าและทุนจีนเข้ามา
 
หากวิเคราะห์เศรษฐกิจจะเห็นได้ว่า ไตรมาสที่ผ่านมา เรามีรายได้จากการท่องเที่ยว แต่รายได้ลดลง แม้นักท่องเที่ยวจะกลับมาจำนวนมาก ภาคส่งออกลดลง การใช้จ่ายของรัฐบาลลดลง
 
หากเราแก้ให้ถูกจุดก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตรงจุด อย่าเอาไข่ไปใส่ในตะกร้าใบเดียว ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น คิดว่าไม่ได้เป็นการบริหารความเสี่ยงที่ดี
  
ย้ำว่ารัฐบาลต้องมีแผนสองได้แล้วว่าจากกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร คิดว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้มีความละเอียดอ่อน ต้องลงรายละเอียดมากๆ และอย่าดูถูกการกระตุ้นเศรษฐกิจจากล่างขึ้นบน เล็กๆ น้อยๆ ที่อาจใช้รวมกันแล้วแก้ถูกจุด ใช้งบประมาณเหมาะสม และสามารถทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักได้ อย่ามองแต่บนลงล่างอย่างเดียว
 
ส่วนการประชุมคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต ในสัปดาห์หน้าจะมีผลอย่างไร คงต้องรอดูการพิจารณาของรัฐบาล
 

 
ชัยธวัช รับเข้าใจ คนเห็นต่าง กรณีตะวัน วอนเปิดพื้นที่ เชื่อนิรโทษ จะทำให้ทุกฝ่ายเย็นลง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4418658

“ชัยธวัช” ป้อง “ตะวัน” ไม่เห็นด้วยผลักให้ฝ่ายหนึ่งต้องสุดขั้ว หนุนทุกฝ่ายเปิดกว้าง เปิดพื้นที่คุยนิรโทษกรรม
 
เมื่อเวลา 13.35 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน ถนนเยาวราช นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ว่า ถือเป็นประตูอีกบานที่จะคลี่คลายความเครียด และความขัดแย้งทางการเมือง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันได้มีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยกัน หาจุดร่วมให้ได้โดยใช้กระบวนการทางประชาธิปไตย หวังว่าในคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีการพิจารณาอย่างรอบด้านทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหากระบวนการในการนิรโทษกรรม
 
นายชัยธวัชกล่าวว่า ส่วนกรณีของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน แกนนำกลุ่มทะลุวัง ที่ยังเป็นประเด็นอยู่ขณะนี้ ย้ำว่าเป็นสิ่งที่ไม่ปรารถนามากที่สุด คือการปะทะกันอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่า การล่าแม่มด โดยหากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสุดขั้วขึ้นเรื่อยๆ จะต้องตั้งสติให้ดี ใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยและสติในการที่จะลดช่องว่างทางความคิด ความเข้าใจ โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง ซึ่งในกรณีนี้ก็เข้าใจในความคับข้องใจ แต่ก็ต้องช่วยกันดูว่าการสื่อสาร การแสดงความคิดให้สังคมได้มีความเข้าใจและพร้อมที่จะพิจารณาสื่อสารประเด็นที่ดีที่สุดว่าควรจะเป็นอย่างไร
 
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับกรณีของ น.ส.ทานตะวัน นายชัยธวัชกล่าวว่า ยอมรับว่าในเรื่องนี้มีความคิดเห็นหลากหลาย เรื่องนี้ก็เป็นตัวอย่าง แม้ว่าจะมีหลายคนพร้อมที่จะเข้าใจประเด็นนี้ อยากจะสื่อสาร แต่ก็อาจจะมีคนไม่เห็นด้วยกับวิธีการ แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะผลักให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสุดขั้วมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นการเพิ่มช่องว่างระหว่างกัน ยิ่งปะทะกันอย่างรุนแรง เป็นเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น และเห็นว่าเป็นเวลาที่จะต้องใช้สติมากขึ้น โดยไม่ใช้อารมณ์ ซึ่งการนิรโทษกรรมจะเป็นกระดุมเม็ดแรก และหวังว่าจะระบายความกดดัน มองว่าต้องทำให้ทุกคนเย็นลงเพื่อจะได้นั่งพูดคุยกัน



‘พีมูฟ’ จี้นายกฯ เซ็นภายใน 3 วัน จ่อเพิ่มกำลังค้างทำเนียบ ทวงคืนถิ่นอาศัยทำกิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4418671

‘พีมูฟ’ ยืนแถลงแจงยิบ 10 ข้อเสนอ ‘คืบหน้า-ไม่คืบ-ถดถอย’ พ้อรัฐควรแก้เสร็จตั้งแต่ 3 เดือนแรก ลุยหนุนกำลังค้างคืนจนบรรลุเป้า
 
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ซึ่งปักหลักชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ร่วมแถลงการณ์สถานการณ์ และความคืบหน้าในการดำเนินงาน เพื่อเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขเชิงนโยบาย 10 ด้าน
 
เวลา 13.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ยืนรวมตัวเรียงแถวถือป้ายผ้าสีขาว เขียนข้อความว่า “ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม P-MOVE” พร้อมชูถือธงสัญลักษณ์ แนวร่วมการเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ อาทิ เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปการสังคมและการเมือง (คปสม.) และ เครือข่ายสลัม 4 ภาค เป็นต้น
 
ตัวแทนขบวนการพีมูฟกล่าวว่า กล่าวว่า หลังจากที่พวกเรามาชุมนุมที่หน้าทำเนียบ ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เรามาติดตามกรณีปัญหาเชิงนโยบาย 10 ด้าน ที่เราได้เสนอไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล เราจึงต้องมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบกันอีกครั้งหนึ่ง
 
ขอเชิญชวนพี่น้องสื่อมวลชน และประชาชนทางบ้าน ร่วมกันติดตามสถานการณ์ การแก้ปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม แล้วก็มาร่วมสนับสนุนปักหลักและขับเคลื่อนเชิงนโยบายทั้ง 10 ด้าน ของพีมูฟร่วมกัน เพราะว่าประโยชน์ของพี่น้องทุกภาคส่วน ก็จะอยู่ในนโยบายเรียกร้องของพีมูฟทั้ง 10 ด้าน” ตัวแทนขบวนการพีมูฟเผย
 
ตัวแทนขบวนการพีมูฟ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขอแถลงการณ์ฉบับที่ 7 เรื่องความคืบหน้าจากการเคลื่อนไหวของพีมูฟ และข้อเรียกร้องที่ยังไม่บรรลุผล โดยเข้าสู่วันที่ 6 ของการปักหลักการชุมนุม ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ เพื่อยืนยันและผลักดันให้รัฐบาล แก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องเชิงนโยบาย 10 ด้าน
 
ตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 และ 16 ตุลาคม 2556 ที่ยังล่าช้าคืบหน้าน้อย ส่งผลให้ปัญหาด้านที่ดิน ที่อยู่อาศัย และการจัดการทรัยากรในพื้นที่เข้าขั้นวิกฤตในขณะนี้ เราต้องออกมาทวงถามความคืบหน้าอีกครั้ง ด้วยการชุมนุมเป็นครั้งที่ 2 ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นมา” ตัวแทนขบวนการพีมูฟระบุ
 
ตัวแทนขบวนการพีมูฟ กล่าวว่า วันนี้พีมูฟรายงานความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาของเราต่อสาธารณะว่า เรามีความคืบหน้า ไม่คืบหน้า หรือถดถอยในการแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง โดยเริ่มจากสิ่งที่คืบหน้าและพอจะเห็นกรอบเวลาในการแก้ปัญหา ได้แก่ การได้เข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
 
ผลการเจราเป็นทางให้คณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้นำไปปฏิบัติ โดยให้เร่งแก้ไขปัญหากรณีพีมูฟทั้ง 169 กรณี ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และให้ยึดมติของความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จนหลังจากนั้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ได้มีการประชุมคณะทำงานดังกล่าว โดยมีปลัดกระทรวงทรัพยากรฯเป็นประธาน ซึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น และพอจะเห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาประชาชน” ตัวแทนขบวนการพีมูฟเผย
 
ตัวแทนขบวนการพีมูฟ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการประชุมคณะกรรมการอิสระ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาชุมนุมกะเหรี่ยงบางกลอย เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน โดยเห็นความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาด้านคดีความ และการหาแนวทางให้ชาวบ้านตามหาบางกลอยบนได้
 
เรายังคงต้องจับตาความล่าช้าในการดำเนินการ ซึ่งทำให้ชาวบางกลอยไม่สามารถกลับขึ้นไปทำไร่หมุนเวียนได้ในปีนี้ และท่าทีของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ยังไม่น่าไว้วางใจ ความท้าทายคือคณะกรรมการอิสระจะกำกับ ติดตามการดำเนินงานในทางปฏิบัติให้เป็นไปตามการดำเนินงานได้มากน้อยแค่ไหน” ตัวแทนขบวนการพีมูฟชี้
 
ตัวแทนขบวนการพีมูฟ กล่าวต่อว่า ส่วนการเดินหน้าโฉนดชุมชน มีการเจรจากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ซึ่งมีท่าทีไม่พอใจ ไม่ยอมรับ และอาจไม่เดินหน้าต่อเรื่องโฉนดชุมชน
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นได้มีสัญญาณจากฝ่ายรัฐบาลว่า จะเดินหน้าต่อโดยให้ นายธนสาร ธรรมสอน ที่ปรึกษารัฐมตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาข้อเสนอข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะมีตัวแทนพีมูฟ 20 คน เข้าร่วมประชุมกับทีมของ นายธนสารด้วย เพื่อเดินหน้ายกร่างแนวทาง หรือ ระเบียบว่าด้วยให้มีการจัดทำโฉนดชุมชน” ตัวแทนขบวนการพีมูฟกล่าว
 
ตัวแทนขบวนการพีมูฟ กล่าวว่า ส่วนข้อเร่งรัดที่มีการเพิ่มเติมกฎกระทรวงเพื่อแก้ไขการกำหนดภาษีที่ดินแปลงรวมหรือโฉนดชุมชน ภายใต้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 และจัดทำแนวทาง ขั้นตอนเพื่อเข้าถึงการพัฒนาสาธารณูประโภคขั้นพื้นฐาน สำหรับผู้อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐทุกประเภท ตามรัฐธรรมนูญ ม.56 และมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 มกราคม 2567 เพื่อให้สามารถพิจารณาคณะรัฐมนตรี
 
ตัวแทนรัฐบาลประสานงานมาว่าจะนำเข้าประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และหากแล้วเสร็จจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการดำเนินการตามนี้หรือไม่ ยังเป็นเพียงการประสานงานแจ้งความคืบหน้า” ตัวแทนขบวนการพีมูฟเผย
 
ตัวแทนขบวนการพีมูฟ กล่าวว่า เราจึงยังต้องปักหลักชุมนุมเพื่อรอให้การดำเนินการเรื่องนี้แล้วเสร็จ เนื่องจากเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเร่งด้วน ที่จะส่งผลกระทบถึงพี่น้องประชาชนจำนวนมาก อย่างไรก็ตามยังมีกลไกการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่นัดการประชุมแล้ว ได้แก่ คณะกรรมการขับเคลื่อนการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล และชาวกะเหรี่ยง ซึ่งจะประชุมในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบ ปัญหาจากการพัฒนาของรัฐ และคณะอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะประชุมในวันที่ 18 กุมภาพันธ์
 
ส่วนเรื่องที่ยังไม่ความคืบหน้าเลย คือ การกำหนดวันประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเปิดการปะชุม หรือ อย่างน้อยนัดวันประชุมนัวนที่ 13 กุมภาพันธ์ เพราะจะเกี่ยวข้องกับการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของเรามาตั้งแต่วันแรกของการชุมนุม” ตัวแทนขบวนการพีมูฟเผย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่