นายกฯ ไม่ตอบยุบสภา ธ.ค. นี้-กกต. ชี้ถ้าทำ MOU 43 - 44 แยก งบเพิ่มพุ่งพันล้าน
“อนุทิน” ยกคณะรัฐมนตรี-เลขา ครม. พูดคุย กกต. ปม ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ พ่วงยกเลิก MOU 43 - 44 ในวันเลือกตั้ง ขณะที่ กกต. ชี้ หากทำแยกต้องเพิ่มงบ 1 พันล้านบาท ด้านนายกฯ ไม่ตอบกระแสคัดค้าน เดินหนีสื่อมีโอกาสยุบสภาฯ ธ.ค. นี้ หรือไม่
วันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาคณะรัฐมนตรี และนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เข้าประชุมกับ กกต. นำโดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และคณะกรรมการ กกต. เพื่อหารือแนวทางจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญและการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (MOU 2543) และ (MOU 2544) ในวันลงคะแนนเลือกตั้ง สส. เป็นการทั่วไป โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น มีสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าวจำนวนมาก
คาดใช้งบเฉียดหมื่นล้าน ย้ำประหยัดกว่าแยกทำ
โดยที่ประชุมใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง แถลงภายหลังหารือร่วมกับนายอนุทิน ว่า วันนี้เป็นการหารือเกี่ยวกับการทำประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้งทั่วไป เบื้องต้นได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันว่าจะเป็นวันเดียวกัน ส่วนจะมีกระบวนการอะไรบ้างและมีปัจจัยวันนี้ได้คุยกันในกรอบกว้างๆ มากกว่า ไม่ได้ลงรายละเอียดและยังไม่ได้ตัดสินใจ
ส่วนจำนวนบัตรเลือกตั้ง ที่รับทราบทั่วไปจะต้องมีบัตรเลือกตั้งสองใบสำหรับแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรที่จะใช้ในการทำประชามติ ขณะนี้วางแนวไว้ว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและแก้ไข MOU จะใช้บัตร 4 ใบ และจะต้องดูวิวัฒนาการว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีบัตรเพิ่มขึ้นแน่นอนหากจะทำประชามติวันเดียวกัน
นายอิทธิพรยังกล่าวต่อว่าหากมีการเลือกตั้งพร้อมกับทำประชามติบัตรเลือกตั้งจำเป็นจะต้องใช้ 4 ใบ และจะต้องมีวิธีในการอธิบายมากขึ้นเพื่อให้คนที่มาออกเสียงและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยไม่เกิดความสับสน
เมื่อถามว่า กกต. มีความพร้อมจะปฏิบัติตามพ.ร.บ. ประชามติหรือไม่ นายอิทธิพร ย้ำว่าเมื่อกฎหมายออกมาถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น ส่วนการนับคะแนนยังไม่ได้คุยถึงรายละเอียด ว่าจะนับคะแนนเลือก สส. ก่อน หรือนับการออกเสียงทำประชามติก่อน วันนี้ยังไม่ได้มีการคุยในรายละเอียดเรื่องนี้
ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะใช้ หากเลือกตั้งพร้อมทำประชามติจะใช้งบประมาณ 9,000 ล้านบาท แต่หากทำแยกจะใช้งบฯ 10,000 กว่าล้าน ขณะที่ผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 53 ล้านคน
นายอิทธิพรยังกล่าวว่า เมื่อพ.ร.บ. ออกเสียงประชามติฉบับใหม่ที่ประกาศใช้แล้วกำหนดให้ผู้ที่จะออกเสียงนอกราชอาณาจักรครั้งแรกได้ ฉะนั้นครั้งนี้จะต้องมีการออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรด้วย
นายกฯ ไม่ตอบกระแสคัดค้าน เดินหนีสื่อโอกาสยุบสภาฯ ธ.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า มีนักวิชาการออกมาแสดงการคัดค้านในการยกเลิก MOU 2543, MOU 2544 หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่าเรื่องนี้ อยู่ในนโยบายของรัฐบาลจะมีการแถลงต่อรัฐสภา ส่วนกรอบเวลาจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่นั้น ขณะนี้อยู่ในเวลาการหารือ ซึ่งคณะทำงานศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU 2543, MOU 2544 ซึ่งมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะมาทำงานร่วมกับ กกต. ซึ่งจะมีความคืบหน้าเร็วที่สุด โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า จะยุบสภา ในวันที่ 31 มกราคม 2569
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ถามว่า จะมีโอกาสยุบสภาในวันที่ 12 ธันวาคมหรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบและเดินหันหลังกลับไปทันที
https://www.thairath.co.th/news/politic/2891017
นายกฯ ไม่ตอบยุบสภา ธ.ค. นี้-กกต. ชี้ถ้าทำ MOU 43 - 44 แยก งบเพิ่มพุ่งพันล้าน
นายกฯ ไม่ตอบยุบสภา ธ.ค. นี้-กกต. ชี้ถ้าทำ MOU 43 - 44 แยก งบเพิ่มพุ่งพันล้าน
“อนุทิน” ยกคณะรัฐมนตรี-เลขา ครม. พูดคุย กกต. ปม ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ พ่วงยกเลิก MOU 43 - 44 ในวันเลือกตั้ง ขณะที่ กกต. ชี้ หากทำแยกต้องเพิ่มงบ 1 พันล้านบาท ด้านนายกฯ ไม่ตอบกระแสคัดค้าน เดินหนีสื่อมีโอกาสยุบสภาฯ ธ.ค. นี้ หรือไม่
วันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาคณะรัฐมนตรี และนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เข้าประชุมกับ กกต. นำโดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และคณะกรรมการ กกต. เพื่อหารือแนวทางจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญและการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (MOU 2543) และ (MOU 2544) ในวันลงคะแนนเลือกตั้ง สส. เป็นการทั่วไป โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น มีสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าวจำนวนมาก
คาดใช้งบเฉียดหมื่นล้าน ย้ำประหยัดกว่าแยกทำ
โดยที่ประชุมใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง แถลงภายหลังหารือร่วมกับนายอนุทิน ว่า วันนี้เป็นการหารือเกี่ยวกับการทำประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้งทั่วไป เบื้องต้นได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันว่าจะเป็นวันเดียวกัน ส่วนจะมีกระบวนการอะไรบ้างและมีปัจจัยวันนี้ได้คุยกันในกรอบกว้างๆ มากกว่า ไม่ได้ลงรายละเอียดและยังไม่ได้ตัดสินใจ
ส่วนจำนวนบัตรเลือกตั้ง ที่รับทราบทั่วไปจะต้องมีบัตรเลือกตั้งสองใบสำหรับแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรที่จะใช้ในการทำประชามติ ขณะนี้วางแนวไว้ว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและแก้ไข MOU จะใช้บัตร 4 ใบ และจะต้องดูวิวัฒนาการว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีบัตรเพิ่มขึ้นแน่นอนหากจะทำประชามติวันเดียวกัน
นายอิทธิพรยังกล่าวต่อว่าหากมีการเลือกตั้งพร้อมกับทำประชามติบัตรเลือกตั้งจำเป็นจะต้องใช้ 4 ใบ และจะต้องมีวิธีในการอธิบายมากขึ้นเพื่อให้คนที่มาออกเสียงและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยไม่เกิดความสับสน
เมื่อถามว่า กกต. มีความพร้อมจะปฏิบัติตามพ.ร.บ. ประชามติหรือไม่ นายอิทธิพร ย้ำว่าเมื่อกฎหมายออกมาถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น ส่วนการนับคะแนนยังไม่ได้คุยถึงรายละเอียด ว่าจะนับคะแนนเลือก สส. ก่อน หรือนับการออกเสียงทำประชามติก่อน วันนี้ยังไม่ได้มีการคุยในรายละเอียดเรื่องนี้
ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะใช้ หากเลือกตั้งพร้อมทำประชามติจะใช้งบประมาณ 9,000 ล้านบาท แต่หากทำแยกจะใช้งบฯ 10,000 กว่าล้าน ขณะที่ผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 53 ล้านคน
นายอิทธิพรยังกล่าวว่า เมื่อพ.ร.บ. ออกเสียงประชามติฉบับใหม่ที่ประกาศใช้แล้วกำหนดให้ผู้ที่จะออกเสียงนอกราชอาณาจักรครั้งแรกได้ ฉะนั้นครั้งนี้จะต้องมีการออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรด้วย
นายกฯ ไม่ตอบกระแสคัดค้าน เดินหนีสื่อโอกาสยุบสภาฯ ธ.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า มีนักวิชาการออกมาแสดงการคัดค้านในการยกเลิก MOU 2543, MOU 2544 หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่าเรื่องนี้ อยู่ในนโยบายของรัฐบาลจะมีการแถลงต่อรัฐสภา ส่วนกรอบเวลาจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่นั้น ขณะนี้อยู่ในเวลาการหารือ ซึ่งคณะทำงานศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU 2543, MOU 2544 ซึ่งมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะมาทำงานร่วมกับ กกต. ซึ่งจะมีความคืบหน้าเร็วที่สุด โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า จะยุบสภา ในวันที่ 31 มกราคม 2569
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ถามว่า จะมีโอกาสยุบสภาในวันที่ 12 ธันวาคมหรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบและเดินหันหลังกลับไปทันที
https://www.thairath.co.th/news/politic/2891017