เจอTrueมัดมือชกให้เสียค่าปรับคืนกล้องวงจรปิดที่แถมฟรีมาให้สำหรับต่อสัญญาเน็ตบ้าน

ขอเกริ่นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดก่อนนะคะ อาจจะยาวนิดนึง อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่ติดตั้งเน็ตบ้านกับทาง True
.
.
.
เมื่อธันวาคม 2564 ทางค่าย True มีเซลล์มาเดินตระเวนขายแพกเกจอินเตอร์เน็ตบ้านในหมู่บ้าน
โปรโมชั่นลด 50% ของ True Gigatex Fiber 1000/500mbps จากเดือนละ 999 บาท เหลือ 499 บาท แถมซิมทรูกับกล่องดูทีวีมาด้วย
ด้วยความที่ที่บ้านยังไม่มีเน็ตบ้านใช้กัน ป้าเราเลยสมัครให้ ซึ่งเราก็ใช้ทั้งอินเตอร์เน็ตบ้านและกล่องดูทีวีที่เขาแถมมา (ยกเว้นซิมที่ไม่เคยแกะซองเลย) โดยติดสัญญารายปีกับทางค่ายไว้ (ติดตั้งวันที่ 21 ธันวาคม 2564)

พอเข้าเดือนพฤศจิกายน 2566 เราเห็นว่าใกล้หมดสัญญาของโปรโมชั่นนี้แล้ว เลยได้โทรไปสอบถามทาง True call center รอบหนึ่ง
พอรู้ว่าครบสัญญาแล้ว ราคาโปรโมชั่นนี้จะกลับไปเป็น 999 บาท เท่าเดิม เลยแจ้งทาง True ไปตั้งแต่วันนั้นว่าเรามีความประสงค์ที่จะไม่ต่อสัญญาแพกเกจเดิมทันทีที่ครบรอบสัญญาในเดือนธันวาคม 2566 นี้นะ ต้องทำยังไงบ้าง
ทาง True ก็ยื้อเราด้วยการขอติดต่อมาเสนอโปรโมชั่นให้อีกครั้ง เราก็อ่ะ รอก่อนก็ได้ ยังมีเวลาเยอะอยู่ เผื่อจะมีอันที่น่าสนใจ 

ไม่กี่วันต่อมาทาง True ก็ติดต่อมาเสนอเป็นโปรเน็ตที่ราคาและความเร็วไม่ต่างจากเดิมมาก พร้อมเสนอว่าจะส่ง กล้องวงจรปิด มาให้แทนคำขอโทษ/ขอบคุณถ้าเราจะต่อสัญญา ด้วยความที่วันนั้นเราก็ยังคิดไม่ตก เลยบอกเขาว่าขอเวลาตัดสินใจก่อน แล้วจะรีบติดต่อกลับไป
ทาง True ก็ให้เวลาเราตัดสินใจก่อนได้ แต่ตัวกล้องวงจรปิดเขาขอให้เราตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่าจะรับหรือไม่รับ
เราก็ถามย้ำหลายรอบแล้วนะว่าถ้าสุดท้ายเราตัดสินใจไม่ต่อกับทรูขึ้นมาจะมีค่าใช้จ่ายอะไรตามมาผูกมัดเราไหม? สามารถยกเลิกแล้วคืนอุปกรณ์ทั้งหมดรวมถึงกล้องวงจรปิดให้ทางทรูโดยไม่เสียอะไรเพิ่มได้ใช่ไหม?
เขาก็ยืนยันว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายแน่นอน เราก็เลยตอบตกลงให้เขาส่งกล้องวงจรปิดมาที่บ้าน โดยที่ไม่เคยแกะกล่องพัสดุนั้นเลย

หลังจากคิดอยู่สักพัก เราก็ติดต่อ True call center กลับไปว่าเราจะไม่ต่อสัญญานะ เพราะเรามองว่าเดิมปริมาณเน็ตมันก็ค่อนข้างเกินจำเป็นอยู่แล้วเพราะใช้กันไม่เยอะ แถมทุกคนในบ้านก็มีเน็ตมือถือของตัวเองอยู่แล้ว
พอสอบถามว่าต้องดำเนินการยังไงสามารถติดต่อยกเลิกได้เลยไหม? เขาก็บอกให้ติดต่อนำอุปกรณ์ทั้งหมดคืนให้กับทางหน้าร้านของทรูได้แต่ให้แจ้งยกเลิกหลังจากการตัดรอบบิลในวันที่ 21 ธันวาคม เพื่อไม้ให้เป็นการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด จะได้ไม่เสียค่าปรับ
ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิด เราก็ได้ถามย้ำเขาอีกครั้งว่าตั้งแต่รับมาเราไม่เคยแกะกล่องเปิดใช้เลย จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายอะไรจริงๆนะ เขาก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่เสีย ก็โอเค พอใกล้ครบกำหนดเราก็ถอดอุปกรณ์ทั้งหมดออกเตรียมส่งคืนให้ True

***แล้วจุดพีคก็เริ่ม***
.
.
.
พอวันที่ 22 ธันวาคม เราก็รีบไปติดต่อกับทางหน้าร้าน True ด้วยตัวเองทันที แต่ปรากฎว่า...
พีค 1 เราติดสัญญากล้องวงจรปิดอยู่ ถ้าจะยกเลิกสัญญาต้องเสียค่าปรับ 1290 บาท!
พีค 2 เรายังต้องเสียค่าเน็ตของเดือนนี้อีกเป็นยอด 1068.93 บาท! (ราคาเต็มไม่มีโปร 999 บาท + vat 7%)

เราก็ยืนยันว่าได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่หลายครั้งแล้วว่าไม่มีการผูกมัดไม่มีค่าใช้จ่ายแน่นอน กล้องวงจรปิดนี่ก็เอามาคืนให้ทั้งสภาพที่พัสดุยังไม่เคยแกะเปิดด้วยซ้ำ แถมเป็นทางเจ้าหน้าที่บอกเองว่าให้มาติดต่อหลังจากวันติดบิล 21 นี้
แต่เจ้าหน้าที่หน้าร้านก็บอกว่าการชำระเน็ตบ้านของ True เป็นการชำระล่วงหน้าของเดือนต่อไป ดังนั้นพอหลังตัดรอบบิลใหม่ต่อให้เราจะไม่ได้ใช้บริการของเขาและเอาอุปกรณ์มาคืนให้ก็ยังต้องจ่ายของรอบบิลถัดไปซึ่งก็จะเกินสัญญาโปรโมชั่น 50% มาแล้ว
และในส่วนของกล้องวงจรปิดเขาต้องทำการตรวจสอบคลิปเสียงที่ติดต่อเราก่อน เพราะในระบบบันทึกว่าทำการขายสำเร็จ (what?!!)
แต่เพราะชื่อคนซื้อแพกเกจนี้คือป้า เขาเลยยังดำเนินการอะไรให้ไม่ได้ ต้องให้เราพาป้ามาหรือไม่ก็เอาหนังสือมอบอำนาจจากป้ามาดำเนินการวันอื่นแทน 

หลังจากนั้น2-3วันเราก็พาป้ามาดำเนินเรื่อง พร้อมยืนยันเหมือนเดิมว่าเราจะไม่จ่ายค่าปรับในส่วนนี้ ให้เช็คไฟล์เสียงทุกไฟล์ได้เลย เพราะเรามั่นใจมากว่าทุกครั้งที่คุยเรา concern มากๆเรื่องการคืนกล้องฯ และเรื่องระยะเวลาหมดสัญญาแพกเกจเน็ต (ไม่งั้นจะติดต่อไปตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนทำไม)
ทางเจ้าหน้าที่หน้าร้านก็แจ้งว่าเพราะยังติดปัญหาต้องตรวจสอบเรื่องกล้องฯ เลยยังทำการยกเลิกเน็ตบ้านไม่ได้ จะรีบประสานงานให้ แต่อาจจะล่าช้าเพราะใกล้จะปิดปีใหม่แล้ว เราก็ย้ำว่าให้รีบดำเนินการ เพราะถ้าช้าจนไปถึงวันตัดรอบบิลถัดไป เดี๋ยวจะมาอ้างเรียกเก็บค่าเน็ตเพิ่มอีก ทั้งๆที่ถอดอุปกรณ์ไปตั้งนานแล้ว

มาวันนี้ (4/1/2567) เจ้าหน้าที่หน้าร้านติดต่อกลับมาแล้ว ยืนยันว่ายังไงเราก็ต้องจ่ายค่าปรับ เพราะถึงจะตรวจสอบไฟล์เสียงแล้ว แต่เขาอ้างว่าคำว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือค่าบริการของกล้องฯ และเขามัดมือชกเราโดยใช้คำว่ารับของเราเป็นการเริ่มสัญญาผูกมัด
พอได้ยินแบบนั้นคือเราโกรธมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ไม่อยากวีนใส่เจ้าหน้าที่หน้าร้าน เพราะรู้ว่าเขาก็รีบประสานงานให้ และเขาไม่ใช่แผนกที่สร้างปัญหานี้เอง เลยถามเขาว่าทำยังไงต่อได้บ้าง เพราะเราถือว่าเป็นการใช้คำหลอกลวงผู้บริโภคเราไม่สามารถยอมรับการเอาเปรียบลักษณะนี้ได้
เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก บอกแค่ให้ลองติดต่อ call center อีกครั้งดู ซึ่งเราลองติดต่อไปแล้วแต่รอนานมากก เข้าถึงเจ้าหน้าที่ไม่ได้สักที

ที่ตัดสินใจมาเล่าในนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะ...
.
.
.
- อยากปรึกษาเผื่อใครพอมีประสบการณ์คล้ายๆกัน อยากให้แนะนำว่าควรทำยังไงต่อดี? ติดต่อสคบ.เลยดีไหม? เพราะก็ใกล้ถึงวันตัดรอบบิลใหม่มากๆแล้ว ตอนนี้เรากังวลมากๆว่าถ้าปล่อยให้นานกว่านี้จะมีปัญหาไม่จบไม่สิ้นตามมาอีก แต่จะให้เรายอมจ่ายไปให้จบๆเราก็รู้สึกว่า ทำไมต้องยอมให้เขาเอาเปรียบด้วย

- อยากให้เป็นอุทาหรณ์แก่คนที่คิดจะติดตั้งเน็ตบ้านกับ True หรือจะติดต่อทำสัญญาอะไรก็แล้วแต่ ระวังการเนียนขายที่พ่วงมาด้วยสัญญามัดมือชกแบบนี้ เราเชื่อว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ และคงไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย

- อยากให้ทางค่ายต่างๆที่มีโอกาสได้เข้ามาอ่านรับรู้ว่าการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวพันไปถึงการทำสัญญาผูกมัดที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หากฝ่าย sales คิดแต่จะขายของทำยอดแต่ไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับลูกค้า ไม่เข้าใจความต้องการหรือความกังวลของลูกค้า ใช้วิธีพูดไม่ชัดพูดไม่หมดแบบนี้ไม่รู้ว่าเป็นเทคนิคการขายหรืออะไรแต่มันคือการหลอกลวงเอาเปรียบในมุมมองของลูกค้า ต่อให้ฝ่าย marketing จะพยายามสร้าง Brand awareness แค่ไหน once ที่คุณได้ทำลายความน่าเชื่อถือของแบรนด์ไปแล้ว ก็เท่ากับว่าคุณได้ตัดเส้นทาง Customer Journey ของลูกค้า และคนรอบตัวของลูกค้าไปแล้ว และความเชื่อใจมันก็สร้างกันใหม่ไม่ได้ง่ายๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
Update 8/1/2567

หลังจากโพสท์กระทู้นี้ไป ทางแอดมินของ True ได้ติดต่อกลับมาว่า
- ได้ยกเลิกค่าปรับของกล้อง cctv ให้เรียบร้อยแล้ว
- ส่วนค่าเน็ตบ้านบิลสุดท้ายเขาจะคิดเฉลี่ยรายวันให้ตั้งแต่วันที่ตัดบิลล่าสุดจนถึงวันที่เข้าไปยกเลิกพร้อมคืนอุปกรณ์ ซึ่งก็คือเกือบ 3 สัปดาห์
(ถึงแม้ค่าเน็ตที่เกิดขึ้นในส่วนนี้จะมาจากการประสานงานเรื่องกล้องฯที่ยืดเย้อ ที่ทำให้ยังไม่สามารถแจ้งยกเลิกได้สักที แต่ก็ยังไม่แย่เท่ามาคิดเหมาทั้งเดือนโดยที่ไม่ได้มีการใช้งานอะไรในช่วงเกือบ3สัปดาห์นี้เลย)

ทาง True จะดำเนินการสรุปบิลใหม่ และจะแจ้งให้เข้าไปชำระเงินที่ shop อีกทีราวๆกลางเดือนกุมภานี้ จึงจะเป็นอันจบเรื่อง
(ความรู้สึกลึกๆแบบ..ยังไม่จบอีกกกก ได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรเซอไพรส์เกิดขึ้นให้หงุดหงิดใจอีก)

ยังไงก็ขอบคุณทางแอดมิน True ที่เข้ามา take action ให้ค่ะ และหวังว่าจะไม่เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก
ส่วนตัวยังไม่หายระแวง และคงไม่ใช้บริการอะไรของ True อีกแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่