Day 1: Wuhan =>
https://pantip.com/topic/42412219
Day 2 (Part 1/2): Xiangyang Gulongzhong Scenic Area =>
https://pantip.com/topic/42419256
Day 2 (Part 2/2): Xiangyang Gulongzhong Scenic Area =>
https://pantip.com/topic/42420886
Day 3 (Part 1/3): Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan =>
https://pantip.com/topic/42427545
Day 3 (Part 3/3): Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan =>
https://pantip.com/topic/42431317
Day 4: Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan =>
https://pantip.com/topic/42437930
Day 5: Tangyang, Yichang, Enshi =>
https://pantip.com/topic/42447690
Day 6: Yunlongdifeng รอยแยกหยุนหลง และ Qīxīng Zhài Scenic Area =>
https://pantip.com/topic/42622113
Day 7: Qingjiang Butterfly Cliff Scenic Area และ Enshi Suobuya Stone Forest Scenic Area เมืองเอินซือ =>
https://pantip.com/topic/42623820
เนื้อเรื่องและรูปในกระทู้นี้ส่วนใหญ่เกี่ยวกับวัดวาอารามและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากจขกท.เขียนผิดหรือทำอะไรที่ดูไม่เหมาะสมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ไว้ก่อนนะค่ะ ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ใดๆเพียงแค่อยากแชร์ปสก.ที่ได้รับมาค่ะ ขอบคุณค่ะ (^人^)
มาต่อกันค่ะ (๐^^)๐ เมื่อเดินขึ้นบันไดมาแล้วจะเจอกับวิหารด้านบนสุดค่ะ เมื่อเข้ามาในวิหารจะเจอรูปปั้นของท่านพ่อท่านแม่ของตั่วเหล่าเอี๊ยซึ่งเป็นกษัตริย์และพระราชินี มีรูปปั้นของตั่วเหล่าเอี๊ยในวัยเด็กอยู่ตรงกลาง มือถือดาบและแน่นอนที่เท้ามีงูและเต่า
ทางขวามีรูปปั้นเซียนหญิง 3 องค์ให้กราบสักการะค่ะ
ในขณะที่ทางซ้ายมีเซียนอีก 3 องค์ให้สักการะเช่นกัน คุณไกด์บอกว่าคนจีนนิยมมาขอบุตรกับ 3 องค์นี้ค่ะ
เมื่อเดินลงมาจากวิหาร จะเจอทางเดินแคบๆข้างบันไดฝั่งขวา คุณไกด์บอกเราเข้าไปดูตรงนี้กันหน่อย ต้องเดินเรียงหนึ่งเข้าไป
นี่ค่ะลงบันไดนี้มาชิดขวาอ้อมเข้าไปเลยค่ะ
เมื่อเดินเข้าไปจะเจอกับรูปปั้นเต่าที่ทำจากหิน ลักษณะเด่นคือไม่มีหัวเต่าค่ะ (o_o) เรื่องเล่ามีอยู่ว่า ตอนเต่าตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่ ได้ไปขโมยของมีค่าของตั่วเหล่าเอี๊ยแล้วไม่ยอมคืน เลยโดนตัดหัว (´/\`) ตั่วเหล่าเอี๊ยบอกว่าถ้าเต่าคืนของให้ ตั่วเหล่าเอี๊ยจะคืนหัวให้เช่นกัน แต่แล้วจนทุกวันนี้เต่าก็ยังไม่ยอมคืนของก็เลยยังไม่ได้หัวคืนเช่นกันค่ะ และในปัจจุบันก่อนฝนหรือหิมะตกจะมีเสียงดังค่อกๆออกมาจากเต่าตัวนี้ค่ะ
เสร็จจากตรงนี้ทั้งคณะก็ค่อยๆเดินลงเขามุ่งหน้าไปตรงจุดที่รถของอุทยานมาส่งตอนเช้าค่ะ ตอนนี้ก็เที่ยงแล้วเพิ่งจะเที่ยวจบ 1 จุดค่ะคือวิหารเมฆม่วง เดี๋ยวเราคงต้องไปทานข้าวกันก่อน เพราะช่วงบ่ายยังหนทางอีกยาวไกล ต้องเดินขึ้นลงบันไดกันต่อค่ะ q(^_^)p
ร้านอาหารอยู่บนเขาค่ะ เข้าไปทานในโรงแรมๆหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่อาหารไม่ค่อยถูกปากทั้งคณะเลย อย่างที่คุณไกด์เคยเกริ่นไว้ว่าอาหารบนเขาไม่อร่อย ขนาดเดินกันมาเยอะและหิวก็ยังไม่ค่อยอร่อยแต่ก็คือทานได้ค่ะ
1. ซุปไก่กับฮ่วยซัว
2. ผัดดอกกะหล่ำกับแฮมยูนนาน
3. ยำไข่เยี่ยวม้า
4. ผัดหน่อไม้ พริกหวานและแฮมยูนนาน
5. ไข่ผัดมะเขือเทศ จานนี้โอเค อาหารเบสิกของคนจีน
6. ฟักทองนึ่ง นึ่งมาแบบเละมากค่ะ คีบไม่ขึ้น ใต้ฟักทองมีอั่งจ้ออยู่ 4 ลูก (จานนี้คงให้ทานเป็นของหวานแต่เสริฟมาพร้อมของคาวเลยค่ะ)
7. กุ้งพริกเกลือ
8. เต้าหู้ผัดกับผักกาดเขียว (ส่วนตัวคงชอบอันนี้ที่สุด ทานง่ายและคิดว่าอร่อย)
9. ยำแตงกวา
10. ปลานึ่งซีอิ๊ว จานนี้เหมือนน่าทานแต่ไม่มีคนทานเลย เพราะปลาก้างเยอะมาก ทุกคนกลัวติดคอ น่าจะเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง บางคนก็กลัวเหม็นกลิ่นดินค่ะ
11. ผัดผัก แน่นอนว่าหมดเร็ว ทุกคนชอบ เพราะสมาชิกนิยมทานผัก
12. ผัดรากบัว เป็นอีกจานที่หมดไวค่ะ
13. จานนี้อะไรไม่รู้ข้างบนเป็นหมูสามชั้นใส่เครื่องเทศกลิ่นไม่คุ้นเคย และข้างล่างเป็นมันฝรั่งนึ่ง สรุปคือจานนี้ไม่ผ่านแรง ไม่มีคนทาน
หลังจากทานอาหารเสร็จ (๐^^)๐ ตอนบ่ายไปชมหนานเหยียนกง (Nanyan gong南岩宫) ภาษาอังกฤษเรียก South Cliff Palace ถ้าแปลไทยน่าจะแปลว่าวิหารผาใต้ วิหารแห่งนี้เป็นที่ฝึกตนของนักพรตสมัยราชวงศ์ถังและสมัยราชวงศ์ซ่ง มีการต่อเติมให้ใหญ่ขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน ในปลายราชวงศ์หยวนเกิดไฟไหม้ และได้รับการบูรณะอีกครั้งในปีค.ศ. 1412 ในสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นการบูรณะครั้งสุดท้ายและจะเป็นสภาพที่เราไปเข้าชมกัน วิหารนี้มีทั้งหมด 640 ห้องแต่เราคงเก็บได้แค่ highlight เท่านั้นค่ะ
ตรงทางขึ้นมีบริการเสลี่ยงเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่เดินไม่ไหวค่ะ แต่คณะเราสูงวัยใจสู้ไม่มีใครชายตามมองสักคน ( ^∀^)
เดินมาได้แพร่บหนึ่งเจอกับป้ายที่เขียนว่าเขาบู๊ตึ๊งค่ะ เป็นป้ายที่ชาวคณะต้องเข้ามาชักภาพร่วมทุกคน (*^^*)
เดินผ่านป้ายมาประเดี๋ยวเดียวเจออุปสรรคสูงวัยอีกแล้วค่ะ TT_TT บันไดขาขึ้นแบบยาวๆ อากาศก็หนาวถือว่าทุกคนออกแรงเพิ่มความอุ่นไปพร้อมๆกันค่ะ
บ่ายนี้จุด Highlight คือกระถางธูปหัวมังกร (หลงโถวเซียง 龙头香Lóngtóu xiāng) ค่ะ ซึ่งเราต้องไปให้ถึง เป็นการเดินขึ้นลงบันไดตลอดทางค่ะ และเดินไปแล้วต้องเดินกลับทางเดิมด้วย จุดนี้พูดตามตรงว่าสูงวัยเหนื่อยค่ะ แต่คือทุกคนใจสู้มากๆเลยเดินไปพักไปจนถึงจุดหมายค่ะ แต่ถ้าคนที่เข่าไม่ดีไม่แนะนำเลยค่ะ เพราะบันไดเยอะมาก \(//∇//)\
วิวระหว่างทางเดินก็ทำให้หายเหนื่อยได้นะค่ะ (๑>◡<๑) หมอกลงแล้วมีทิวเขาสลับไปมาแบบสูดหายใจได้เต็มปอดแบบสดชื่นๆเลยค่ะ
ระหว่างทางที่เดินไปกระถางธูปหัวมังกรมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ อย่างแรกที่เจอคือสิ่งนี้เลยค่ะ ปี้ซี่ (Bixi 赑屃) หรือลูกมังกรตัวที่เก้าที่มีลักษณะคล้ายเต่า แบกป้ายหินขนาดใหญ่ซึ่งเป็นราชโองการของฮ่องเต้ ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าราชโองการเขียนว่าอย่างไร แต่คุณไกด์แนะนำให้เดินวนและลูบปี้ซี่ 1 รอบเพื่อความโชคดี แน่นอนจัดไปค่ะ \(^_^)/
(๐^^)๐ เดินต่อไปจะเจอกับสิ่งนี้ ดูออกไหมคะว่าเป็นรอยอะไรบนหิน หินก้อนนี้อยู่ข้างบนนะค่ะ เราต้องเงยหน้ามองกัน
ถ้ามองไม่ออกขอเฉลยนะค่ะ เป็นรูปรอยเท้าค่ะ โดยนิ้วเท้าอยู่ด้านล่าง มีความเชื่อว่าเป็นรอยเท้าของตั่วเหล่าเอี๊ยที่เหยียบหินตอนเกิดแผ่นดินไหวค่ะ
(๐^^)๐ เมื่อเดินต่อไปเราจะเจอกับเตาเผาของเซ่นไหว้ที่สร้างไว้ในสมัยของฮ่องเต้หย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิงค่ะ ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว แหมเป็นเตาเผาที่แกะสลักสวยงามเลยนะค่ะเนี่ย
และแล้วเราก็เดินมาถึงวิหารขนาดใหญ่ก่อนที่จะไปถึงจุดกระถางธูปหัวมังกรแล้วค่ะ หน้าวิหารมีป้ายนี้ตั้งไว้ทำให้รู้ว่าถึงหนานเหยียนกงแล้ว \(^_^)/
เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับรูปปั้นเทพประจำประตูทั้งฝั่งซ้ายขวาค่ะ ภาษาอังกฤษเขียนว่า The white tiger god และ The black dragon god ค่ะ
(๐^^)๐ เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับอารามขนาดใหญ่ ข้างในมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เข้าไปกราบสักการะค่ะ
ขอจบ Day 3 (Part 2/3) ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ แล้วมาติดตามกันต่อนะค่ะว่ากระถางธูปหัวมังกรจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ฝาก IG: @janjourneyjournal ด้วยค่ะ
ทริปเที่ยวมณฑลหูเป่ย 10 วัน 9 คืน (Day 3) Part 2/3
Day 2 (Part 1/2): Xiangyang Gulongzhong Scenic Area => https://pantip.com/topic/42419256
Day 2 (Part 2/2): Xiangyang Gulongzhong Scenic Area => https://pantip.com/topic/42420886
Day 3 (Part 1/3): Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan => https://pantip.com/topic/42427545
Day 3 (Part 3/3): Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan => https://pantip.com/topic/42431317
Day 4: Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan => https://pantip.com/topic/42437930
Day 5: Tangyang, Yichang, Enshi => https://pantip.com/topic/42447690
Day 6: Yunlongdifeng รอยแยกหยุนหลง และ Qīxīng Zhài Scenic Area => https://pantip.com/topic/42622113
Day 7: Qingjiang Butterfly Cliff Scenic Area และ Enshi Suobuya Stone Forest Scenic Area เมืองเอินซือ => https://pantip.com/topic/42623820
เนื้อเรื่องและรูปในกระทู้นี้ส่วนใหญ่เกี่ยวกับวัดวาอารามและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากจขกท.เขียนผิดหรือทำอะไรที่ดูไม่เหมาะสมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ไว้ก่อนนะค่ะ ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ใดๆเพียงแค่อยากแชร์ปสก.ที่ได้รับมาค่ะ ขอบคุณค่ะ (^人^)
มาต่อกันค่ะ (๐^^)๐ เมื่อเดินขึ้นบันไดมาแล้วจะเจอกับวิหารด้านบนสุดค่ะ เมื่อเข้ามาในวิหารจะเจอรูปปั้นของท่านพ่อท่านแม่ของตั่วเหล่าเอี๊ยซึ่งเป็นกษัตริย์และพระราชินี มีรูปปั้นของตั่วเหล่าเอี๊ยในวัยเด็กอยู่ตรงกลาง มือถือดาบและแน่นอนที่เท้ามีงูและเต่า
ร้านอาหารอยู่บนเขาค่ะ เข้าไปทานในโรงแรมๆหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่อาหารไม่ค่อยถูกปากทั้งคณะเลย อย่างที่คุณไกด์เคยเกริ่นไว้ว่าอาหารบนเขาไม่อร่อย ขนาดเดินกันมาเยอะและหิวก็ยังไม่ค่อยอร่อยแต่ก็คือทานได้ค่ะ
2. ผัดดอกกะหล่ำกับแฮมยูนนาน
3. ยำไข่เยี่ยวม้า
4. ผัดหน่อไม้ พริกหวานและแฮมยูนนาน
5. ไข่ผัดมะเขือเทศ จานนี้โอเค อาหารเบสิกของคนจีน
6. ฟักทองนึ่ง นึ่งมาแบบเละมากค่ะ คีบไม่ขึ้น ใต้ฟักทองมีอั่งจ้ออยู่ 4 ลูก (จานนี้คงให้ทานเป็นของหวานแต่เสริฟมาพร้อมของคาวเลยค่ะ)
7. กุ้งพริกเกลือ
9. ยำแตงกวา
10. ปลานึ่งซีอิ๊ว จานนี้เหมือนน่าทานแต่ไม่มีคนทานเลย เพราะปลาก้างเยอะมาก ทุกคนกลัวติดคอ น่าจะเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง บางคนก็กลัวเหม็นกลิ่นดินค่ะ
11. ผัดผัก แน่นอนว่าหมดเร็ว ทุกคนชอบ เพราะสมาชิกนิยมทานผัก
12. ผัดรากบัว เป็นอีกจานที่หมดไวค่ะ
13. จานนี้อะไรไม่รู้ข้างบนเป็นหมูสามชั้นใส่เครื่องเทศกลิ่นไม่คุ้นเคย และข้างล่างเป็นมันฝรั่งนึ่ง สรุปคือจานนี้ไม่ผ่านแรง ไม่มีคนทาน
หลังจากทานอาหารเสร็จ (๐^^)๐ ตอนบ่ายไปชมหนานเหยียนกง (Nanyan gong南岩宫) ภาษาอังกฤษเรียก South Cliff Palace ถ้าแปลไทยน่าจะแปลว่าวิหารผาใต้ วิหารแห่งนี้เป็นที่ฝึกตนของนักพรตสมัยราชวงศ์ถังและสมัยราชวงศ์ซ่ง มีการต่อเติมให้ใหญ่ขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน ในปลายราชวงศ์หยวนเกิดไฟไหม้ และได้รับการบูรณะอีกครั้งในปีค.ศ. 1412 ในสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นการบูรณะครั้งสุดท้ายและจะเป็นสภาพที่เราไปเข้าชมกัน วิหารนี้มีทั้งหมด 640 ห้องแต่เราคงเก็บได้แค่ highlight เท่านั้นค่ะ
ตรงทางขึ้นมีบริการเสลี่ยงเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่เดินไม่ไหวค่ะ แต่คณะเราสูงวัยใจสู้ไม่มีใครชายตามมองสักคน ( ^∀^)
วิวระหว่างทางเดินก็ทำให้หายเหนื่อยได้นะค่ะ (๑>◡<๑) หมอกลงแล้วมีทิวเขาสลับไปมาแบบสูดหายใจได้เต็มปอดแบบสดชื่นๆเลยค่ะ