ใครเคยเจอแบบเราบ้างไหมหนอ ต่อ#2

วันนี้ก็จะมาเล่าต่อจากครั้งที่แล้วนะคะ จากที่ตกลงว่าจะเลิกกันแล้วแยกกันอยู่ แต่ว่ายังอยู่ในบ้านหลังเดียวกันนะคะคือทำเพื่อลูก แต่ว่าเราต้องจ่ายค่าเช่าบ้านให้เขา พอตกลงกันได้อย่างนั้นเราก็พาลูกไปเยี่ยมหาน้าที่เยอรมัน เพื่อคลายเครียดประมาณ 2 อาทิตย์ในระหว่างนั้นเราก็หาข้อมูลเกี่ยวกับบ้านเช่าไปด้วย พอกลับมาจากเยอรมัน เขาก็พูดกับเราว่าฉันไม่อยากให้เธออยู่บ้านหลังนี้แล้วให้เธอไปหาบ้านใหม่อยู่ เราก็เลยถามว่าฉันเอาลูกไปได้ไหมถ้าเอาลูกไปได้ฉันจะไป เขาตอบว่าได้ ในระหว่างนั้นเราก็ถามลูกว่าถ้าพ่อกับแม่เลิกกันแล้วแม่ต้องหาบ้านใหม่อยู่แล้วลูกไปอยู่กับแม่ลูกคิดว่ายังไงตอนนั้นลูกชายอายุประมาณ 6 ขวบเกือบ 7 ขวบ ลูกชายก็ตอบว่าแม่หาบ้านเลยลูกจะไปอยู่กับแม่ตอนนี้เลย โหตอนนั้นนะเหมือนยกภูเขาออกจากอก สุดท้ายเราก็หาบ้านได้ตอนออกจากบ้านมาไม่มีเงินเลยนะ เอาใบสลิปเงินเดือนไปกู้เงินธนาคารมาเพื่อมาจ่ายค่าเช่ากับค่านายหน้ารวมทั้งหมด 3 เดือนแล้วย้ายมาอยู่บ้านใหม่ ลืมบอกไปว่าตอนที่เราทำงานหนักอยู่กับเขาเขาได้ซื้อรถมือสองในราคา 2,000 ยูโรแล้วบอกว่าให้เราเป็นของขวัญแต่ว่ารถเป็นชื่อของเขา ก่อนจะย้ายออกจากบ้านมาเราถามพ่อของลูกว่าแล้วรถนี่ล่ะเขาบอกว่า ฉันซื้อให้เธอแล้วฉันไม่เอาคืน แล้วเราก็เริ่มขนของทุกอย่างไปๆบ้านใหม่ แล้วพอกลับมาขนของรอบสุดท้าย เขาขอดูทะเบียนรถ ในทะเบียนรถยังเป็นชื่อของเขา แล้วเขาก็บอกกับเราว่าถ้าเธอจะเอารถไปเธอต้องหาเงินมาคืนฉัน 2,000 ยูโร นี่แหละคือคำพูดที่ออกมาจากปากของพ่อของลูก เขาไม่เคยคิดถึงลูกเลย เราก็เลยบอกว่าตอนนี้ฉันยังไม่มีเงิน ตกลงว่าจะทยอยจ่ายเดือนละ 200 ยูโร  พอได้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่เราแอบกลัวว่าลูกจะเสียใจลูกจะมีปมด้อยลูกจะเศร้า แต่ที่ไหนได้ลูกมีความสุขยิ่งกว่าเดิมร้องเพลงทุกวัน นี่แหละทำให้เรามีกำลังใจที่จะต่อสู้  หลังจากย้ายออกมาอยู่ 2 คนกับลูกเราก็ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินส่งลูกเรียนจ่ายค่าเช่าบ้านทุกสิ่งทุกอย่าง พ่อของเด็กไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แต่โชคดีหน่อยเราทำงานกลับไปทำงาน 2 กะเหมือนเดิม ตอนนั้น ตอนกลางวันทำงานที่โรงแรมถึง 1 ทุ่ม กลับมาบ้านก็ทำกับข้าวให้ลูกอาบน้ำเสร็จแล้วพากันไปทำงานอีกที่หนึ่ง คือไปดูแลคนป่วย แล้วต้องทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ซักผ้ารีดผ้า ล้างจานกวาดบ้านถูบ้านทุกอย่างเข้างาน 21:00 น จนถึง 7 โมงเช้ารีบกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกส่งลูกไปโรงเรียนแล้วกลับมางีบอีกแป๊บนึง กลับไปเข้างาน 11:00 น อดทนทำงานแบบนี้ประมาณ 1 ปีกว่า แล้วเราก็ หยุดทำงานตอนกลางคืนเพราะว่าร่างกายมันจะไม่ไหว ทำงานมาทั้งวันแล้ววิ่งขึ้นลงขึ้นลงบันไดยิ่งเป็นสีขาว เราก็คิดว่าถ้าเราเกิดล้มตกบันไดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วลูกจะอยู่กับใคร ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานดูแลผู้ป่วย เลยทำแต่งานกลางวันอย่างเดียว เมื่อก่อนเหนื่อยมากแต่ว่าตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วเพราะลูกเริ่มโตแล้ว นี่แหละชีวิตของเรามาอยู่เมืองนอกไม่ได้สุขสบายแต่ก็ดีใจที่มีลูกคอยเคียงข้าง ทำงานมาเหนื่อยๆได้เห็นหน้าลูกแล้วก็หายเหนื่อยเลย เราก็อดทนอยู่กับลูกมา5 -6 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาไม่คิดที่จะหาคู่ เวลาเดินก็จะไม่มองหน้าใคร รู้สึกว่าชีวิตคู่มันไม่สมหวังนะ คิดว่าฟ้าคงลิขิต ให้เราอยู่คนเดียวแบบนี้ ตอนนั้นก็เลยไม่คิดจะเปิดใจให้ใครแบบว่าเข็ดมากไม่ว่าจะทั้งกับคนไทยหรือว่ากับฝรั่ง เมื่อก่อนเราก็อยู่มาได้นะ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้หญิงทำอะไรด้วยตนเองได้ แต่ก็ลึกๆยังต้องการที่จะมีใครสักคนเป็นคู่คิด เป็นเพื่อนคู่ใจ อยากมีความรักที่อบอุ่นแล้วก็อยากจะมีครอบครัวที่ดีนะ ปีที่แล้วมีคนทักมาทางfacebook เราก็คิดว่าเป็นคนไทยเหมือนกันก็เลยคุยด้วยคุยได้ประมาณ 1 อาทิตย์นี่แหละ ก็คงจะเป็นพวกสแกมเมอร์ประมาณว่ามาจีบแล้วชวนลงทุนพวกคลิปโตอะไรพวกนี้ แต่เราก็ไม่สนใจที่จะลงทุนหรอกนะก็เลยบอกไปตรงๆว่าเป็นเพื่อนคุยเป็นอะไรแบบนี้โอเคแต่ไม่สนใจที่จะลงทุนเนาะ เขาก็พูดชักแม่น้ำทั้งห้าลงทุนแล้วได้กำไรแบบนี้ไปดาวน์โหลด app มาจะสอนอะไรแบบนี้น่ะ แถมยังมีการว่าให้เราด้วยนะว่าจะทำงานหนักงกๆแบบนี้ไปจนตายเหรอ เราก็เลยบอกว่าถึงแม้ว่าเราจะทำงานหนักแต่ว่าเราก็เห็นเงินเนาะ หลังจากนั้นเราก็เลิกคุยไปเลย ผ่านไปดีกว่า ปีนี้ก็เลยคิดที่ว่าจะเปิดใจอีกครั้ง แต่ก็บังเอิญมีคนทักเข้ามาทาง facebook อีกครั้ง ไม่รู้เป็นไงกับคนนี้ ปกติก็มีคนมาขอเป็นเพื่อนและทักมาเยอะแต่ว่าเราไม่คุยกับใครเลย แต่กับคนนี้เราคุยด้วยและเริ่มเปิดใจอีกครั้งและรู้สึกว่าครั้งนี้มันเหมือนฝัน ก็คนเราเนาะไกลบ้านมา 10 กว่าปีทำงานหนักและเลี้ยงลูกมาโดยลำพังมันก็เหนื่อยนะ พอมีใครสักคนเข้ามาคุยด้วยมันก็คลายเหงาคลายเครียด มันก็เกิดความผูกพันธ์นะทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน แต่เรากลับรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เราเฝ้ารอมานานความรู้สึกมันบอกอย่างนั้น ตอนที่คุยกันใหม่ๆถึงขั้นว่านอนไม่หลับไป 3 คืนเลยนะ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอคนแบบนี้ ลักษณะคำพูดมันดูอบอุ่นมันเหมือนแบบผู้ชายในฝันที่เราต้องการน่ะดูเหมือนว่าเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบเราตื่นเต้นมากเลยนะ ถึงขั้นไปคุยกับลูกว่าเราเจอคนที่ใช่แล้ว เรากับลูกไม่มีความลับต่อกัน แล้วลูกก็ยอมรับในการตัดสินใจของเรา พอคุยกับผู้ชายคนนี้มาได้ 1 เดือนสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นก็คือมาแบบเดิมคือพูดแต่เรื่องลงทุนคริปโต แล้วพูดบอกว่าไปดาวน์โหลด app มาแล้วจะสอนให้ โหตอนนั้นนะเหมือนโลกมันหยุดหมุนเลย มันไปไม่เป็น มันหายใจไม่ออก มันเศร้า เสียใจ ทำไมเราผูกพันกับคนคนหนึ่งซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนแค่เขียนคุยกันทุกวันมันก็ทำให้สุขใจแล้วนะ มันมาช๊อกทีหลังตรงที่มาชวนลงทุนนี่แหละ เราก็เลยตัดสินใจ video call ไป แต่เขาก็ไม่ยอมรับ video call นะแถมยังบอกว่าเราไม่ไว้ใจเขาไม่เชื่อใจเขาอีก ยิ่งทำให้เรามั่นใจเลยว่าใช่พี่แสกม แน่ๆเฮ้อ!!! เนาะ กรรม  ใครเป็นเหมือนเราบ้างที่ไม่เคยสมหวังกับเรื่องความรักเลย คิดไปคิดมา ว่า มันจะมีคนที่ตามหาความรักจริงๆ คนที่จริงใจ มันจะมีอีกไหมในโลกนี้ เคยคิดมาตลอดนะว่าคนที่ใช่จะมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ว่าเนาะ ถ้าเจอมันก็คือโชคดี แต่ถ้าไม่เจอก็อยู่กันไปอย่างนี้แหละเนาะเลี้ยงลูกคนเดียวไป มีลูกเป็นเพื่อนมีเพื่อนเป็นลูกไป ก็เข้ามาเป็นสมาชิก pantip นานแล้วนะแต่ไม่เคยได้เขียนกระทู้เลย เมื่อวานเพิ่งเข้ามาเขียนกระทู้เป็นครั้งแรก ก็เขียนมาซะยาวเลย ถือเป็นการระบายความในใจออกมาเนาะ เก็บไว้คนเดียวมันก็อึดอัดนะ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ทุกคนในที่นี้นะคะหวังว่าในนี้คงไม่มีสแกมเมอร์นะ😂
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่