เรียนจบแล้วแม่บอกว่าเอาเงินเดือนมาเลี้ยงแม่ที่เป็นบุคคลที่ทำร้ายจิตใจเรามาตลอด!?

เริ่มกันเลยนะคะทุกๆอย่างมันเกิดจากต้นตอนี้เมื่อ20กว่าปีก่อน เรื่องมีอยู่ว่าในวันนี้แม่บอกว่า"เเม่รอเรียนจบ เอาเงินเดือนมาเลี้ยงแม่อยู่"  เหตุผลที่แม่พูดคำนี้มาจากความขัดแย้งครอบครัวของเราค่ะ แม่และย่าไม่ค่อยถูกคอกันตั้งแต่งานแต่งของ"พ่อและแม่" แต่เหตุผลที่พ่อของเราต้องแต่งงานกับแม่ เนื่องจากยายติดคุกค่ะ พ่อสงสารที่แม่ต้องอยู่คนเดียว ปู่และย่าไม่ค่อยชอบครอบครัวของแม่ เพราะมีนิสัยลักขโมยชอบกลั่นแกล้ง ในขณะที่แม่เป็นสะใภ้ของบ้านที่ไม่ค่อยถูกใจ ย่าและปู่จึงให้แม่ทำงานบ้านอย่างหนักมาตลอด จนมีเราที่เกิดออกมาในปี46 แม่มีเรื่องฉาวที่แอบมีกิ๊กจากคนที่มาทำถนนหน้าบ้านของเราในขณะที่เราอายุได้ประมาณ 1 ขวบ แม่ถูกขับออกจากบ้านและไปทำงานที่หัวหิน เราอยู่กับ พ่อ ย่า ปู่ มาตั้งแต่ตอนนั้น จนแม่กลับมาตอนที่เราจำความได้ซึ่งเราจำไม่ได้ว่าอายุประมาณเท่าไหร่ แม่ท้องและมีน้องชาย 1 คน เกิดในปี52  สักพักต่อมาแม่นำยาเบื่อหยอดใส่ขวดน้ำประจำให้ย่ากิน จนย่าเข้าเข้าโรงพยาบาลป่วยหนักเป็นระยะเวลายาวนาน เราเห็นมันกับตา ย่าพยายามบอกคนในบ้านว่า"แม่คือคนที่เอายาเบื่อใส่ให้กิน" แม่พยายามปฏิเสธมาตลอดและบอกว่า"ย่ามันชอบยิ้ม ชอบสร้างเรื่อง" ย่าจึงปลูกบ้านอีกหลังแยกออกมา แม่และย่ายังไม่ค่อยถูกกัน ต่อหน้าทำดีให้กัน ลับหลังแม่ชอบด่า พ่อ ย่า และปู่ พ่อเป็นคนที่ขยันขันแข็ง ส่งลูกเรียนเอกชนและโรงเรียนประจำจังหวัด ทำอาชีพเกษตรกรและเลี้ยงวัวพันธุ์ส่งลูกทั้งสองคนเรียน ส่วนแม่ช่วยพ่อทำงานแต่มักจะบอกกับเราเสมอว่า"กูไม่อยากอยู่บ้านนี้ รำคาน กูทำ ยิ้มไรก็ไม่เคยให้กูเลย ไม่แบ่งกูเลย ไร่ก็ไม่เคยแบ่งให้ โธ่ไอ ยิ้ม" พ่อเป็นคนที่อาวุโสกว่า อายุห่างกันมาก แต่ใช้และกูแทนนคำเรียกในลับหลัง เราเคยไม่คุยกับแม่ประมาณ 1 ปีค่ะ เพราะเราถูกแม่ตบหน้าหลายครั้งในขณะที่เขาไม่พอใจในบางการกระทำของเรา เรามองว่ามันคือเหตุที่เกินไปเราสามารถพูดคุยกันได้ เคยโดยขอนไม้มะม่วงฟาดจนปากแตกในตอนเด็ก คนที่มาห้ามและโอ๋เราทุกๆครั้งคือ พ่อ พ่อเป็นคนที่จิตวิทยาสูงมาก ไม่เคยใช้กำลังแต่สอนให้เรา"คิด" พ่อคือที่ใส่ใจในการเรียนต่อ ความฝัน อาชีพของลูก ตอนนี้ที่เขียนเราเรียนมหาลัยแล้วค่ะ(ปี 2) แม่จะยิ่งชอบพูดว่า เรียนจบแล้วเลี้ยงแม่ด้วย เอาแม่ไปอยู่ด้วย แม่อยากได้บ้านแบบนี้ แม่อยากทำร้านขายของ" ขอเพิ่มเติมนะคะ แม่ของเรารักลูกไม่เท่ากันค่ะ แม่จะรักน้องชายมากๆพอเรายิ่งโต เราเรียนเก่ง เรียนมหาวิทยาดีๆ แม่ยิ่งทำดีกับเรา ชอบพูดถึงเรื่องเงินเดือน เราไม่ติดสัตวแพทย์แม่ก็จะพูดว่า"นึกว่าจะมีลูกเรียนหมอ"และพูดประโยคหนึ่งเสมอ"กูจะทิ้งพ่อ กับปู่ให้ตายงอมคาบ้านนี้แหละ" ซึ่งต่างจากพ่อที่คอยถามว่า "เรียนเป็นไงบ้าง หนูวางแผนไว้หรือยัง เรียนต่อโทมั้ย" จริงๆแล้วพ่อก็อยากจะเลิกกับแม่นี้แหละค่ะ แต่มันติดตรงที่น้องชายยังเรียนอยู่+ติดแม่ และพ่อคือคนที่ส่งเรียน เราสามารถจัดการความรู้สึกของตัวเองได้ค่ะ ไม่เครียดเรื่องความขัดแย้งที่บ้าน เพราะเราท่องเสมอว่าเราต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อยากจะขอคำเเนะนำว่า เราควรจะทำยังไงดีเมื่อถึงตอนเรียนจบ+มีงานทำแล้ว เกิดเหตุการณ์ที่แม่จะพยายามให้เราออกจากบ้านแล้วมาเลี้ยงเขาคนเดียว เรายังมีเป้าหมายในชีวิตอื่นๆค่ะ เรารู้สึกว่าปัญหานี้มันกวนใจอยู่ เรายืนยัดที่ขะอยู่กับพ่อค่ะ แต่เราจะจัดการเรื่องนี้ยังดี
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
คุณ ก็ไม่ต้องสนใจ หรือใส่ใจแม่ให้มาก แม่จะพูดอะไรเพื่อผูกมันคุณ คุณก็ตอบกลับไปว่า ไม่ไหวมั๊ง หนูไม่ไหวหรอก ประมาณแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่หักดิบ แต่ไม่ตอบรับ แถไปเรื่อยๆ แล้วรีบตัดบนหนีไป และจบการสนทนา

จนคุณเรียนจบก็ใช้ชีวิตของคุณไป ตอบแทนบุญคุณคนที่เลี้ยงดูเรามา ปู่ย่าพ่อ ก็พอ แม่ ถ้าจะเห็นใจก็แค่ส่งเสียเป็นเงินพอประมาณ ทำตัวเว้นระยะไว้ ไม่งั้นจะเป็นภัย

เพราะถ้าคุณพูดจริงว่า เห็นกับตาว่าแม่วางยาย่า คุณยังกล้าจะอยู่กับเขาอีกเหรอ เป็นผมก็ไม่อยู่ด้วย และไม่อยู่ใกล้ด้วยครับ จริงอยู่แม่ก็คือแม่ แต่ถ้าแม่ไม่ได้เลี้ยงดู และ ทำตังเป็นภับ ก็เป็นแม่แต่ตำแหน่งก็พอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่