สัปเหร่อ (2023) - สำรวจความตายและการจากลาผ่านมุมมองไทบ้าน

สัปเหร่อ: The Undertaker

"การจากลา คือ สัจธรรมของโลก แต่ที่ยากกว่า คือ การรับมือการจากลา... หลายครั้ง เราไม่มีทางรู้เลยว่า มันจะเกิดขึ้นเมื่อใด"


กำกับโดย ต้องเต ธิติ ศรีนวล

สวัสดีครับ ! ในปีนี้ไม่มีเรื่องไหนที่เป็นกระแสไปมากกว่า "สัปเหร่อ (2023)" 

หลังจากที่รอกระแสเริ่มซา เราก็มีโอกาสได้เข้าไปชม ต้องบอกว่า "ไม่ผิดหวัง" นี่เป็นหนังแห่งปีจริง ๆ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สัปเหร่อ - Official Trailer

ความรู้สึกหลังชม

- จุดแรกที่ประทับใจ ขอยกนิ้วให้ "ความน่าสนใจของพล็อตและบทภาพยนตร์" 

ในช่วงที่ผ่านมา "ไทบ้าน" มีหนังหลายเรื่องด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์ เช่น

-- "รักหนูมั้ย (2020)" - สามหนุ่มพลาดทำผู้หญิงท้อง จึงต้องร่วมกันเลี้ยงดูเด็กระหว่างรอผล DNA

-- "เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่ (2023)" - ภารกิจพาเพื่อนไปเห็นทะเลก่อนจะตาบอด 

มาจนถึง "สัปเหร่อ" นับว่าพล็อตน่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างการพุ่งประเด็นไปที่ "ความตาย การจากลา และการปล่อยวาง" ที่ถูกสำรวจผ่านวิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวอีสานเกี่ยวกับความตาย ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นหนังไทยที่เล่าในมุมนี้มากเท่าไร


- หนังดำเนิน 2 เส้นเรื่องพร้อมกัน 

เส้นเรื่องแรก คือ เรื่องราวของ "เซียง" (ชาติชาย ชินศรี) ชายหนุ่มที่ยังปล่อยวางไม่ได้จาก "ใบข้าว" (สุธิดา บัวติก) อดีตแฟนที่เสียชีวิตไปแล้ว และพยายามหาวิธีต่าง ๆ เพื่อติดต่อกับแฟนสาวตามความเชื่อโลกหลังความตาย

เส้นเรื่องที่สอง กล่าวถึง ชีวิตของ "เจิด" (นฤพล ใยยิ้ม) บัณฑิตจบใหม่ที่กลับมาบ้าน รอสอบทนาย แต่จับพลัดจับผลูมารับช่วงงานสัปเหร่อต่อจาก "พ่อ" (อัจฉริยะ ศรีทา) ที่เริ่มแก่ชราและมีสภาพร่างกายไม่ค่อยดี

ต้องชมว่า หนังดำเนินพล็อตทั้งสองเส้นได้น่าประทับใจ ทั้งประเด็นการปล่อยวางไม่ได้ของเซียง และเรื่องความรักความผูกพันระหว่างเจิดและพ่อ

ทั้งยังสร้างบทสรุปอันทรงพลังด้วยข้อคิดที่ว่า 

"การจากลาเป็นเรื่องธรรมดาของโลก ยามมีชีวิตอยู่ จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียดายภายหลัง"


- หนังมีโครงสร้างที่แข็งแรง และผสานองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ค่อนข้างลงตัว ทั้งรสโรแมนติก คอมเมดี้ สยองขวัญ 

อย่างไรก็ตาม รู้สึกเซอร์ไพร์สเป็นพิเศษ กับ "รสชาติความแฟนตาซี" ที่แทรกเข้ามา เช่น การเกริ่น (ปนแซว) ในช่วงแรกเกี่ยวกับไอเดียมัลติเวิร์ส หลังจากนั้น หนังพาผู้ชมเข้าสู่ความแฟนตาซีมากขึ้น ผ่านการทะลุไปอีกมิติด้วยไอเดียแบบไทบ้าน

ตรงนี้ทั้งจิกกัดกระแสมัลติเวิร์สและนำไอเดียมาใช้ได้เป็นประโยชน์มาก

- ชอบบรรยากาศในเรื่อง เช่น บทสนทนา แอ็คติ้งการแสดง มุกตลก อาจจะไม่ได้มืออาชีพไปทั้งหมด แต่เรียลและจริงใจ ฟีลลิ่งเหมือนเราอยู่ในวงเพื่อนจริง ๆ

- อีกส่วนที่ไม่ชมไม่ได้ คือ เพลงประกอบ เช่น เพลง "ยื้อ" ของ คุณปรีชา ปัดภัย เพลงซึ้งประเภทถ้าอินกับหนัง ก็ฟังแล้วน้ำตาซึมได้ไม่ยาก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ยื้อ - ปรีชา ปัดภัย : เซิ้ง|Music Ost. สัปเหร่อ Story จักรวาลไทบ้าน

- ข้อเสียหนังก็พอมี อาจจะมีความดิบและบางส่วนที่ยังขัดเกลาไม่ดี 

เช่น ความน่ากลัวและการ Jump Scare ในพาร์ทสยองขวัญที่ยังตรงและทื่อไปบ้าง, การขยี้ปมบางจุดที่คมได้มากกว่านี้, มิติตัวละครผู้หญิงที่ค่อนข้างแบนและโฟกัสกับตัวละครชายเป็นหลัก

ตรงนี้มองว่า อยู่ที่ประสบการณ์ผู้กำกับและทีมงาน ถ้าเก็บชั่วโมงบินมากขึ้นเรื่อย ๆ ฝึกปรือขัดเกลา อุดรูโหว่ ผลงานจะละเอียดและประณีตขึ้นเอง

ถามว่าจำเป็นต้องดูภาคก่อนมาก่อนหรือเปล่า:  ส่วนตัวไม่ได้ดูไทบ้าน 2.1-2.2 มาก่อน แต่ยังดูรู้เรื่องปกติ เรื่องราวก่อนหน้ามีเกริ่นให้ในสัปเหร่อคร่ว ๆ แล้ว และเข้าใจได้ไม่ยาก


สรุป

โดยรวมถือว่า "ประทับใจ" เป็นหนังอีกเรื่องที่ชอบในปีนี้ "สัปเหร่อ" อาจไม่ใช่หนังที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังไทยที่ตอบโจทย์ผู้ชมได้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง และมีศักยภาพในการต่อยอดได้อีกไกล

ที่สำคัญ หนังแสดงให้เห็นว่า บทและพล็อตที่ดีสำคัญกว่า Production ถ้าให้นิยามหนังเรื่องนี้ ก็นึกถึงภาพยนตร์ที่ดีตามคอนเซ็ปต์ของ "Mel Gibson" นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง ว่า

ภาพยนตร์ที่ดีควรให้ 3 อย่าง ได้แก่ "Entertain (ความบันเทิง), Educate (ให้ความรู้และมุมมอง), Elevate (ยกระดับความคิดจิตใจ)" 

ดังนั้น เชื่อว่าผู้ชมได้อะไรหลาย ๆ อย่างจากเรื่องนี้มากทีเดียว

ใครสนใจรับชมได้โรงภาพยนตร์ ส่วนในอนาคต คาดว่าน่าจะเข้า Netflix!

____________________________________

ป.ล. ใครสนใจหนังไทบ้านเพิ่มเติม ขอแนะนำเรื่อง "รักหนูมั้ย" บน Netflix ดีเช่นกัน ส่วนเรื่องอื่น ๆ ไว้ตามเก็บแล้วจะมาเล่านะครับ


ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผมนะครับ

   
IG: benjireview
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่