เรื่องมันมีอยู่ว่า (วันหนึ่งผมได้ตื่นขึ้นจากบนเตียงนอนของผม เป็นวันที่แสนสุดทรหดจิตใจอยากมาก เพราะด้วยเวลานั้นผมพึ่งได้เข้ามัธยมปลายมาใหม่ๆ แทนที่ผมจะได้ตื่นขึ้นมาตอนเช้าไปโรงเรียนแล้วไปใช้ชีวิตในแบบที่นักเรียนนั้นควรจะเป็น กลับกลายเป็นว่าผมตื่นขึ้นมาต้องพบเจอกับโรคระบาดครั้งใหญ่ที่แพร่กระจายอยู่ภายนอกนับไม่ถ้วนตลอดทุกๆวัน แล้วในช่วงนั้นผมอยู่ในช่วงสภาวะหมดหวังอย่างสุดขีด ผมเลยในช่วงนั้นคิดว่าผมจะต้องอยู่แบบนี้ตลอดไป ผมเลยหมดอารมณ์ที่จะต้องลุกขึ้นมาหาอะไรทำซักอย่าง จนผมในช่วงนั้นตลอดทุกๆวัน สภาพของผมนั้นไม่ต่างจากเด็กตาดำๆ ที่ในแววตานั้นดำมืดสนิท ความหวังและความอดทนในชีวิตของผมแทบจะริบหรี่ลงทุกที ผมกำลังจัหรี่ตาลงแล้วปิดตาลงอย่างช้า เพื่อที่ผมนั้นจะได้ไปอยู่ห้วงลึกของความฝันอีกครั้ง ผมจะได้ไม่ต้องมาเจอกับโลกที่โหดร้ายแบบนี้อีก ทันใดนั้นเอง แสงตอนเช้าที่ผ่านมาทางหน้าตาในห้องนอนผมนั้นเริ่มสว่างจ้ามากขึ้นแปลกๆ จนผมในตอนนั้น ผมพยายามปิดตานอนหลับให้สนิทก็ทำไม่ลง แล้วผมก็ได้ยินเสียงบางอย่างผ่านทางหน้าต่างผม แล้วเสียงนั้นที่ผมได้ยิน มันคือเสียงพูด มันพูดกับผมว่า "เจ้าต้องการที่จะเป็นอิสรภาพไปพร้อมกับข้าแล้วรึยังหล่ะ" ในตอนนั้นผมกลัวจนตัวสั่นจนไม่กล้าที่ลืมตาหรือตื่นขึ้นมาวิ่งหนี ผมทำได้แค่นอนตัวสั่นขวันผวาไปกับสิ่งที่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทันใดนั้น มันก็เข้ามาหาผมแล้วจับสัมผัสมือของผมอย่างนุ่มนวล แล้วมันก็พูดว่า "เจ้าไม่ต้องมาทำเป็นแกรงกลัวข้านักหรอก ตอนนี้เจ้ามีผู้คอยอยู่เคียงข้างเจ้าแล้ว" ในตอนนั้นน้ำตาของผมก็ไหลออกมา ผมรู้สึกทราบซึ้งอย่างมากกับบางสิ่งที่ปลอบเร้าอารมณ์ของผมอยู่ มันก็ชวนผมลุกขึ้นออกจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วนำพาผมไปแสงสว่างอันบริสุทธิ์ ผมได้มาถึงจุดที่แสงสว่างนั้นล้อมรอบตัวผมอยู่ มีลมพัดมาอย่างสดชื่นอย่างที่ผมนั้นไม่เคยรู้สึกมานาน และเสียงนกที่บินอยู่ทั่วท้องฟ้า รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างบอกไม่ถูก ผมในตอนนั้นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ผมกำลังจะได้รับหลังจากนี้ แล้วบางอย่างนั้นก็ทำการจับมือของผมอย่างนุ่มนวลแล้วนำพาผมไปอย่างช้าๆ "เจ้าได้มาถึงจุดหมายแล้วหละ" มันพูดกับผม ผมถามมันกลับไปว่า "แล้วผมจะเป็นยังไงหลังนี้หละ" (ตอบด้วยเสียงสั่นๆ) มันได้ทำการสัมผัสไปตงแก้มของผมทั้งสองข้าง แล้วมันก็พูดว่า "โอ๋ๆ เจ้าหนูน้อยผู้น่าสงสารของข้า เจ้ามีอะไรที่ตามรังควาญใจเจ้าอยู่อีกหรือ" ผมได้ร้องให้กับบางสิ่งที่ทำความเข้าใจตัวผมและควารู้สึกของผมอยู่ มันก็ได้ทำการปาดน้ำตาไปตงแก้มของผมอย่างช้าๆและนุ่มนวล "เจ้าหนะไม่ต้องเป็นกังวลอะไรมากแล้วหละ สิ่งที่เจ้าจะได้รับหนะ มันจะทำให้เจ้ารู้สึกผ่อนคลายและเป็นอิสระอย่างที่เจ้าไม่เคยรับมาก่อนแน่ เจ้าพร้อมที่มาด้วยกันกับข้าไหม" มันได้พูดกล่าวกับผมอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ผมมิอาจปฏิเสธกับสิ่งที่ใส่ใจผมขนาดนี้ได้ แล้วผมก็ได้เดินทางไปยังแสงสว่างพร้อมเสียงที่ค่อยเรียกผมอย่างอ่อนโยน และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น แต่ยังไงก็ตาม ผมได้สิ่งที่เรียกว่าอิสรภาพที่ผมต้องการ...) จบ
เรื่องเล่าที่ #1 ยามเช้าตะวันรุ่ง (ฉบับ Test D edition)