พรรคก้าวไกล มติเอกฉันท์ ขับ “ปูอัด ไชยามพวาน” พ้นพรรค


พรรคก้าวไกล มีมติขับ ปูอัด-ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ พ้นพรรค หลังไม่แสดงความรับผิด-ขอโทษอย่างจริงใจ ปมคุกคามทางเพศ
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 จากกรณีที่คณะกรรมการบริหาร พรรคก้าวไกล มีมติว่านายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล 
กระทำการฝ่าฝืนวินัยสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง กรณีแสดงออกในทางตรงข้ามกับอุดมการณ์อันเป็นค่านิยมที่สําคัญของพรรค 
และกระทําการล่วงเกิน คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนรําคาญทางเพศต่อบุคคลอื่นนั้น
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงผลการลงมติขับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พ้นสมาชิกพรรค 
ว่าทางพรรคได้ประชุมกันแล้ว แม้นายไชยามพวานจะพูดว่าน้อมรับมติของพรรค แต่โดยเนื้อหาสาระแล้ว
กลับนำข้อมูลของผู้เสียหายบางส่วนมาแก้ข้อกล่าวหาอีกรอบหนึ่ง ว่าตนเองยังมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้เสียหาย
บอกเป็นนัยว่าไม่ได้มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ
 
ซ้ำร้ายการแถลงบางส่วนยังเป็นการเปิดเผยตัวตน เพื่อเชื่อมโยงผู้เสียหายว่าเป็นใคร เช่น แสดงข้อความแล้วยังกล่าวว่า
เสื้อสูทและเนกไทได้รับจากพ่อของผู้เสียหาย ทำนองว่าตนเองและครอบครัวผู้เสียมีความสัมพันธ์อันดีเรื่อยมา 
ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เห็นว่าการแถลงของนายไชยามพวานไม่เป็นไปตามมติพรรค
นำมาสู่การประชุมในวันนี้ หลังจากนายไชยามพวานเปิดตัวตนของผู้เสียหาย ทำให้ครอบครัวรู้ว่าลูกสาวของตนเองเป็นผู้เสียหาย 
ตนได้เข้าพบครอบครัว เพื่อขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้น
พ่อของผู้เสียหายยืนยันว่าการซื้อสูทและเนกไท ไม่ได้แสดงถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณ์ที่นายไชยามพวานต้องการสื่อ 
เขาเป็นผู้สนับสนุนพรรคตั้งแต่อนาคตใหม่ ครอบครัวรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมได้คุยหลายเรื่องกับครอบครัว และเพิ่งทราบว่า
ผู้เสียหายคือใคร ตนได้พูดคุยเรื่องการช่วยต่อสู้ทางการกฎหมายด้วย
“สำหรับผลประชุม กก.บห. และ สส. มีผู้ร่วมประชุมรวม 128 คน โดยมี สส.บางคนติดโควิด ติดงาน กมธ.ไปต่างจังหวัด 
มติที่ประชุมเห็นตรงกันเอกฉันท์ว่าการแถลงและการกระทำของนายไชยามพวานขัดต่อมติพรรค สาระสำคัญคือ 
เห็นว่าไม่ได้แสดงความรับผิดและขอโทษอย่างจริงใจ ซ้ำร้ายยังสร้างความเสียหายซ้ำกับผู้เสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม 
มติเอกฉันท์ให้พ้นจากสมาชิกพรรคตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” นายชัยธวัชกล่าว

ย้อนมติก่อนถูกขับพ้นพรรค
สำหรับการประชุมที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้น ย้อนกลับไปเมื่อการประชุมร่วมกันระหว่าง สส.และกรรมการบริหารพรรค
เมื่อวันพุธที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีมติให้ลงโทษด้วยการตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค และกำหนดเงื่อนไขให้ดำเนินการ
ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขกำหนดว่า ต้องแถลงยอมรับผิดและขอโทษในทางสาธารณะ
ต่อสังคมกับผู้เสียหายทั้งสามราย อย่างจริงใจต่อการกระทําผิดทางวินัยดังกล่าว โดยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน
วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายนนี้ พร้อมทั้งให้ยุติการก่อความเสียหายต่อผู้เสียหายทั้งสามราย โดยทางตรงและทางอ้อมโดยพลัน
นับแต่ได้รับแจ้งคำสั่ง
และเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 กก.บห.พรรคได้นัดประชุมและลงความเห็นว่า
การแถลงข่าวของนายไชยามพวานเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการสำนึก หรือยอมรับว่าพฤติการณ์ของตนเข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศ อีกทั้งยังไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ ตลอดจนยังได้กระทำการก่อความเสียหายต่อผู้เสียหาย
โดยการเปิดเผยข้อมูลของผู้เสียหายด้วย
กรรมการบริหารจึงมีมติว่า ให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณ เพื่อดำเนินกระบวนการวินัยสมาชิกพรรคต่อไป 
ตามข้อบังคับพรรค โดยมีบทลงโทษขั้นสูงสุด คือการพิจารณาขับพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ในที่ประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส. และ กก.บห.
 ขอบคุณข้อมูลจาก  https://www.prachachat.net/politics/news-1431535
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่