
.
โต้นัว ปมฝ่ายค้านลวงโลก หมออ๋อง ซัดยื้อเวลาไม่ซักฟอกลุง ดร.หญิงโต้ ไม่แตะเขากระโดง
.
จากกรณี พรรคประชาชน ได้ทำข้อตกลงร่วมกับ พรรคภูมิใจไทย เพื่อโหวต นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยพรรคประชาชนได้ยืนยันว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล และจะเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัว ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว ทำให้พรรคอื่นๆ โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาชาน จะเป็นฝ่ายค้านที่ตรวจสอบรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาเองอย่างนั้นหรือ ทำให้เกิดความคลางแคลงว่าอาจจะมีดีลลับ เนื่องจากมีคดีที่เป็นคาราคาซัง ทั้ง คดีเขากระโดง และ คดีฮั้ว ส.ว. ที่เป็นประเด็นที่สังคมจับตามองอยู่ หวั่นจะกลายเป็นฝ่ายค้านลวงโลกหรือไม่
.
ล่าสุด นาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯคนที่ 1 ได้ออกมาโพสต์ผ่านแอพพ์เอ็กซ์ เกี่ยวกับการเป็นฝ่ายค้านลวงโลกว่าก่อนหน้านี้ก็เคยเจอมาแล้ว
.
โดยระบุข้อความว่า
.
“
ผมรู้จักฝ่ายค้านลวงโลกตั้งแต่ปี 62 ละครับ ไม่ยอมให้อภิปรายลุงคนหนึ่ง ดึงเวลาจนหมด ในกมธ.งบ ต่อรอง ตบทรัพย์ เป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาล ในกมธ.ทั่วไป กินเล่นเที่ยว รับเบี้ยประชุม ไร้วาระในการผลักดัน สู้เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ พอตัวเองมีอำนาจ ไม่ทำ ขอให้ไปดีครับ”
.
ซึ่งต่อมา น.ส.
ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ได้โพสต์ตอบโต้ นาย
ปดิพัทธ์ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า
.
“ดิฉันก็ รู้จักฝ่ายค้านลวงโลกตอนปี 66
.
อภิปรายแต่นายกฯอิ๊งค์ ไม่แตะฮั้วส.ว. ไม่ยุ่งเขากระโดง แอบดีล แอบนัดกินข้าวกับสีน้ำเงิน ตกลงกันไปเป็นเดือนแล้ว แต่ลวงโลกว่าเพิ่งคุย
.
ยกมือตั้งนายกฯ แบกอนุรักษ์นิยม เป็นฝ่ายค้านแต่เป็นองค์ประชุมให้รัฐบาล เสียงตัวเองน้อยกว่าเขาแต่อ้างว่าคุมได้ อ้างจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่กล้าบอกน้ำเงินไปคุยกับส.ว.
.
MOA เละแล้วเละอีก ก็ไม่พูดอะไร ขอให้รักกันนานๆ ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดน้ำเงินค่ะ”
.
https://x.com/Padipat_Ong/status/1969581817058771271
.
https://x.com/Rinthipond_Ying/status/1969711003886874625
.
.
ภัทรพงษ์ แนะพท.ส่องกระจกก่อนอ้างเป็น ฝ่ายค้านอิสระ เคลมผ่านกม.ลำไย แต่ส.ส.อยู่โหวตไม่ถึงครึ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5377472
.
“ภัทรพงษ์” แนะเพื่อไทยส่องกระจกดูตัวเองก่อนอ้างเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ” เคลมใหญ่ผ่านกฎหมายลำไย ความจริง สส. อยู่โหวตไม่ถึงครึ่ง ชวนมาแข่งขันทำงานเพื่อประชาชน เลิกใช้คำพูดที่สวนทางการกระทำ
.
เมื่อวันที่ 22 กันยายน นาย
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระว่า ขอเตือนด้วยความหวังดีให้พรรคเพื่อไทยได้ตั้งสติแล้วส่องกระจกมองตนเองดี ๆ ก่อนจะยกตนเองเป็นฝ่ายค้านอิสระหรือฝ่ายค้านสุภาพบุรุษ ส่องกระจกมองตนเองให้ดีก่อนว่าที่ผ่านมาการกระทำมันขัดกับสิ่งที่พูดหรือเปล่า เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน หน้าที่ที่ ส.ส. ต้องทำคือการเข้าประชุมสภา มาพิจารณากฎหมายที่เป็นประโยชน์และแก้ปัญหาให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยเหมือนลืมไปว่านี่ต่างหากคือหน้าที่หลักของ ส.ส. ไม่ใช่การพ่นลมปากหรือโจมตีพรรคอื่นผ่านสื่อ
.
ร่าง พ.ร.บ.ลำไย ร่างที่พรรคเพื่อไทยเคลมนักหนา ร่างที่บอกว่าจะแก้ปัญหาให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวสวนลำไยภาคเหนือและพรรคเพื่อไทยเองก็เป็นประธานกรรมาธิการร่างกฎหมายนี้มาเสนอต่อสภาด้วย แต่กลับมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาลงมติเห็นชอบไม่ถึงครึ่งของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมด หรือร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ที่พรรคเพื่อไทยเองเป็นหนึ่งในผู้เสนอร่างด้วย แต่กลับมี ส.ส. เข้ามาลงมติในสภาไม่ถึงครึ่งของ ส.ส. ในพรรคอีกเช่นกัน
.
“
ผมอยากเตือนด้วยความหวังดี เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำ คือการยืนยันให้ประชาชนมั่นใจยิ่งขึ้นว่านี่คือพรรคที่คำพูดกับการกระทำสวนทางกันเสมอ หยุดพูดอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์แล้วมาแข่งกันทำงานในสภาที่เป็นประโยชน์กับประชาชนดีกว่าครับ ประชาชนตัดสินเองได้ อย่าให้การกระทำแบบนี้มาเปลี่ยนนิยามของคำว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ ให้เป็น ‘กลุ่มบุคคลที่ใช้วาจาให้ได้มาซึ่งความนิยมทางการเมือง แต่การกระทำนั้นสวนทาง ไม่ทำอะไรตามที่พูดไว้สักอย่างเดียว’ เลยครับ เพราะตอนนี้มันกำลังจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ” นาย
ภัทรพงษ์กล่าว
.
.
แก๊งแคร์รอตเขมรรวมตัวเคลื่อนไหวชายแดนสระแก้ว
.
เหลืองเต็มชายแดน ! “แก๊งแคร์รอตเขมร” ยังรวมถึงตัวประชิด บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ปักหลักอยู่ตามเพิงพัก จัดเวรยามผลัดเปลี่ยนสังเกตความเคลื่อนไหวฝั่งไทย
.
วันที่ 22 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลาประมาณ 07.00 น. บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว-หนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว บรรยากาศทั่วไปเงียบสงบ แต่ยังคงปรากฏกลุ่มชาวกัมพูชา ประมาณ 30–40 คน ปักหลักรวมตัวกันอยู่ตามเพิงพัก ใกล้แนวชายแดน บางส่วนมีการจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนสังเกตความเคลื่อนไหวฝั่งไทยอย่างไม่ลดละ แม้ผ่านมาหลายวันก็ยังไม่แสดงท่าทีจะสลายตัวออกจากพื้นที่
.
และในช่วงเย็นวันที่ 21 ก.ย68 ได้เกิดความเคลื่อนไหว เมื่อกลุ่มที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่า “แก๊งแครอท” ซึ่งเป็นมวลชนจากวัด และชุมชนใกล้เคียงฝั่งกัมพูชา เดินทางเข้ามายังรอบพื้นที่บ้านหนองจาน ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยการปรากฏตัวของกลุ่มดังกล่าว สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ไทย เนื่องจากอาจมีเป้าหมาย เพื่อรวมกำลัง หรือสร้างแรงกดดันเพิ่มเติม
.
ในขณะเดียวกันที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังคงมีมวลชนกัมพูชากลุ่มเดิม กระจายตัวเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณแนวรั้วลวดหนามของไทย หากมีการเพิ่มเติม หรือขยายแนวป้องกัน พวกเขาจะรีบรวบรวมข้อมูล และนำไปแจ้งผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่กัมพูชาทันที สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการติดตามและรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยอย่างเป็นระบบ
.
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่ เปิดเผยว่า การปักหลักอย่างต่อเนื่องของชาวเขมร รวมถึงการเสริมกำลังด้วย “แก๊งแครอท” จากวัดใกล้เคียง ถือเป็นพฤติกรรมที่น่าจับตา เนื่องจากอาจเป็นการจัดฉาก หรือใช้กลยุทธ์ “ประชาชนเดินนำหน้า ทหารเดินตามหลัง” เพื่อสร้างแรงกดดันเชิงจิตวิทยา และการทูต หากเกิดการกระทบกระทั่ง ก็อาจถูกขยายผลเป็นเหตุการณ์ระหว่างประเทศได้
.
อย่างไรก็ตาม กองกำลังบูรพาและฝ่ายปกครองอำเภอโคกสูง ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวน อย่างต่อเนื่อง และย้ำกับประชาชนในพื้นที่ ไม่ต้องตอบโต้หรือยั่วยุ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ที่อาจลุกลามบานปลาย โดยสถานการณ์ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน ยังคงอยู่ในสภาวะเปราะบาง ต้องจับตาการเคลื่อนไหวทุกระยะ ทั้งนี้หากมีการเพิ่มแนวรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เชื่อว่าจะเป็นชนวนที่ทำให้มวลชนกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหวกดดันมากขึ้นในอนาคตอันใกล้
JJNY : โต้นัว ปมฝ่ายค้านลวงโลก│ภัทรพงษ์ แนะพท.ส่องกระจก│แก๊งแคร์รอตเขมรรวมตัวเคลื่อนไหวชายแดน│คิมไม่ปิดประตูคุยสหรัฐ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5377493
.
โต้นัว ปมฝ่ายค้านลวงโลก หมออ๋อง ซัดยื้อเวลาไม่ซักฟอกลุง ดร.หญิงโต้ ไม่แตะเขากระโดง
.
จากกรณี พรรคประชาชน ได้ทำข้อตกลงร่วมกับ พรรคภูมิใจไทย เพื่อโหวต นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยพรรคประชาชนได้ยืนยันว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล และจะเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัว ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว ทำให้พรรคอื่นๆ โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาชาน จะเป็นฝ่ายค้านที่ตรวจสอบรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาเองอย่างนั้นหรือ ทำให้เกิดความคลางแคลงว่าอาจจะมีดีลลับ เนื่องจากมีคดีที่เป็นคาราคาซัง ทั้ง คดีเขากระโดง และ คดีฮั้ว ส.ว. ที่เป็นประเด็นที่สังคมจับตามองอยู่ หวั่นจะกลายเป็นฝ่ายค้านลวงโลกหรือไม่
.
ล่าสุด นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯคนที่ 1 ได้ออกมาโพสต์ผ่านแอพพ์เอ็กซ์ เกี่ยวกับการเป็นฝ่ายค้านลวงโลกว่าก่อนหน้านี้ก็เคยเจอมาแล้ว
.
โดยระบุข้อความว่า
.
“ผมรู้จักฝ่ายค้านลวงโลกตั้งแต่ปี 62 ละครับ ไม่ยอมให้อภิปรายลุงคนหนึ่ง ดึงเวลาจนหมด ในกมธ.งบ ต่อรอง ตบทรัพย์ เป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาล ในกมธ.ทั่วไป กินเล่นเที่ยว รับเบี้ยประชุม ไร้วาระในการผลักดัน สู้เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ พอตัวเองมีอำนาจ ไม่ทำ ขอให้ไปดีครับ”
.
ซึ่งต่อมา น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ได้โพสต์ตอบโต้ นายปดิพัทธ์ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า
.
“ดิฉันก็ รู้จักฝ่ายค้านลวงโลกตอนปี 66
.
อภิปรายแต่นายกฯอิ๊งค์ ไม่แตะฮั้วส.ว. ไม่ยุ่งเขากระโดง แอบดีล แอบนัดกินข้าวกับสีน้ำเงิน ตกลงกันไปเป็นเดือนแล้ว แต่ลวงโลกว่าเพิ่งคุย
.
ยกมือตั้งนายกฯ แบกอนุรักษ์นิยม เป็นฝ่ายค้านแต่เป็นองค์ประชุมให้รัฐบาล เสียงตัวเองน้อยกว่าเขาแต่อ้างว่าคุมได้ อ้างจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่กล้าบอกน้ำเงินไปคุยกับส.ว.
.
MOA เละแล้วเละอีก ก็ไม่พูดอะไร ขอให้รักกันนานๆ ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดน้ำเงินค่ะ”
.
https://x.com/Padipat_Ong/status/1969581817058771271
.
https://x.com/Rinthipond_Ying/status/1969711003886874625
.
.
ภัทรพงษ์ แนะพท.ส่องกระจกก่อนอ้างเป็น ฝ่ายค้านอิสระ เคลมผ่านกม.ลำไย แต่ส.ส.อยู่โหวตไม่ถึงครึ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5377472
.
“ภัทรพงษ์” แนะเพื่อไทยส่องกระจกดูตัวเองก่อนอ้างเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ” เคลมใหญ่ผ่านกฎหมายลำไย ความจริง สส. อยู่โหวตไม่ถึงครึ่ง ชวนมาแข่งขันทำงานเพื่อประชาชน เลิกใช้คำพูดที่สวนทางการกระทำ
.
เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระว่า ขอเตือนด้วยความหวังดีให้พรรคเพื่อไทยได้ตั้งสติแล้วส่องกระจกมองตนเองดี ๆ ก่อนจะยกตนเองเป็นฝ่ายค้านอิสระหรือฝ่ายค้านสุภาพบุรุษ ส่องกระจกมองตนเองให้ดีก่อนว่าที่ผ่านมาการกระทำมันขัดกับสิ่งที่พูดหรือเปล่า เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน หน้าที่ที่ ส.ส. ต้องทำคือการเข้าประชุมสภา มาพิจารณากฎหมายที่เป็นประโยชน์และแก้ปัญหาให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยเหมือนลืมไปว่านี่ต่างหากคือหน้าที่หลักของ ส.ส. ไม่ใช่การพ่นลมปากหรือโจมตีพรรคอื่นผ่านสื่อ
.
ร่าง พ.ร.บ.ลำไย ร่างที่พรรคเพื่อไทยเคลมนักหนา ร่างที่บอกว่าจะแก้ปัญหาให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวสวนลำไยภาคเหนือและพรรคเพื่อไทยเองก็เป็นประธานกรรมาธิการร่างกฎหมายนี้มาเสนอต่อสภาด้วย แต่กลับมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาลงมติเห็นชอบไม่ถึงครึ่งของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมด หรือร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ที่พรรคเพื่อไทยเองเป็นหนึ่งในผู้เสนอร่างด้วย แต่กลับมี ส.ส. เข้ามาลงมติในสภาไม่ถึงครึ่งของ ส.ส. ในพรรคอีกเช่นกัน
.
“ผมอยากเตือนด้วยความหวังดี เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำ คือการยืนยันให้ประชาชนมั่นใจยิ่งขึ้นว่านี่คือพรรคที่คำพูดกับการกระทำสวนทางกันเสมอ หยุดพูดอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์แล้วมาแข่งกันทำงานในสภาที่เป็นประโยชน์กับประชาชนดีกว่าครับ ประชาชนตัดสินเองได้ อย่าให้การกระทำแบบนี้มาเปลี่ยนนิยามของคำว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ ให้เป็น ‘กลุ่มบุคคลที่ใช้วาจาให้ได้มาซึ่งความนิยมทางการเมือง แต่การกระทำนั้นสวนทาง ไม่ทำอะไรตามที่พูดไว้สักอย่างเดียว’ เลยครับ เพราะตอนนี้มันกำลังจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ” นายภัทรพงษ์กล่าว
.
.
.
วันที่ 22 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลาประมาณ 07.00 น. บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว-หนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว บรรยากาศทั่วไปเงียบสงบ แต่ยังคงปรากฏกลุ่มชาวกัมพูชา ประมาณ 30–40 คน ปักหลักรวมตัวกันอยู่ตามเพิงพัก ใกล้แนวชายแดน บางส่วนมีการจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนสังเกตความเคลื่อนไหวฝั่งไทยอย่างไม่ลดละ แม้ผ่านมาหลายวันก็ยังไม่แสดงท่าทีจะสลายตัวออกจากพื้นที่
.
และในช่วงเย็นวันที่ 21 ก.ย68 ได้เกิดความเคลื่อนไหว เมื่อกลุ่มที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่า “แก๊งแครอท” ซึ่งเป็นมวลชนจากวัด และชุมชนใกล้เคียงฝั่งกัมพูชา เดินทางเข้ามายังรอบพื้นที่บ้านหนองจาน ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยการปรากฏตัวของกลุ่มดังกล่าว สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ไทย เนื่องจากอาจมีเป้าหมาย เพื่อรวมกำลัง หรือสร้างแรงกดดันเพิ่มเติม
.
ในขณะเดียวกันที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังคงมีมวลชนกัมพูชากลุ่มเดิม กระจายตัวเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณแนวรั้วลวดหนามของไทย หากมีการเพิ่มเติม หรือขยายแนวป้องกัน พวกเขาจะรีบรวบรวมข้อมูล และนำไปแจ้งผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่กัมพูชาทันที สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการติดตามและรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยอย่างเป็นระบบ
.
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่ เปิดเผยว่า การปักหลักอย่างต่อเนื่องของชาวเขมร รวมถึงการเสริมกำลังด้วย “แก๊งแครอท” จากวัดใกล้เคียง ถือเป็นพฤติกรรมที่น่าจับตา เนื่องจากอาจเป็นการจัดฉาก หรือใช้กลยุทธ์ “ประชาชนเดินนำหน้า ทหารเดินตามหลัง” เพื่อสร้างแรงกดดันเชิงจิตวิทยา และการทูต หากเกิดการกระทบกระทั่ง ก็อาจถูกขยายผลเป็นเหตุการณ์ระหว่างประเทศได้
.
อย่างไรก็ตาม กองกำลังบูรพาและฝ่ายปกครองอำเภอโคกสูง ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวน อย่างต่อเนื่อง และย้ำกับประชาชนในพื้นที่ ไม่ต้องตอบโต้หรือยั่วยุ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ที่อาจลุกลามบานปลาย โดยสถานการณ์ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน ยังคงอยู่ในสภาวะเปราะบาง ต้องจับตาการเคลื่อนไหวทุกระยะ ทั้งนี้หากมีการเพิ่มแนวรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เชื่อว่าจะเป็นชนวนที่ทำให้มวลชนกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหวกดดันมากขึ้นในอนาคตอันใกล้