Freelance : การเมือง...อืม!ช่างแ_งเหอะ อย่าไปอินนักเลย (No Spoiled)



ต่อจาก ดเวยน์ "เดอะร็อก" จอห์นสัน กับ เดฟ บาติสต้า ก็น่าจะเป็น จอห์น ซีน่า นี่ละครับที่ผันตัวจากนักมวยปล้ำมาเป็นนักแสดงแล้วมีผลงานมากขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อหลายปีก่อนยังเล่นหนังเกรดรองๆ เน้นฉายลงแผ่น ตอนนี้ได้ไปแจมแบบเด่นๆ ในหนังฟอร์มยักษ์ รวมถึงงานที่ตัวเองแสดงนำก็ได้โปรโมทสำหรับฉายโรงหรือสตรีมมิ่งเจ้าดังๆ กระแสหลักมากขึ้น รวมถึงกับงานล่าสุดอย่าง Freelance ที่เข้าฉายในไทยตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา

Freelance ฉบับฮอลลีวู้ด ( ที่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับหมอสาวที่เจอกับคนไข้หนุ่มที่ป่วยเพราะทำงานหนักแบบไม่หลับไม่นอน ) จะว่าด้วยอดีตทหารหน่วยรบพิเศษที่ออกจากกองทัพแล้วไปใช้ชีวิตแบบพลเรือน มีเมียสวย มีลูกสาวน่ารัก ชีวิตครอบครัวก็อบอุ่นดี แต่เหมือนรู้สึกว่า "นี่มันไม่ใช่ชีวิตเรา" ตัวเอกนั้นจบกฎหมาย สอบตั๋วทนายได้ แต่มันไม่ใช่ทาง กระทั่งเพื่อนเก่าในกองทัพมาหาแล้วบอกว่ามีงานให้ทำ คือช่วยเป็นบอดี้การ์ดให้นักข่าวสาวที่กำลังจะเดินทางไปสัมภาษณ์ประธานาธิบดีในประเทศสมมติแห่งหนึ่งในแถบลาตินอเมริกา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเผด็จการตัวเอ้ของโลก ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีอะไร แต่ดันโชคไม่ดี ไปถึงปุ๊บก็เจอเหตุการณ์รัฐประหารทันที ตัวเอกเลยต้องพาทั้งนักข่าวสาวและประธานาธิบดีที่ถูกยึดอำนาจหนีการตามล่า

บอกได้เลยว่าฮาจริง นอกจากจอห์น ซีน่า แล้ว อลิสัน บรี ในบทนักข่าวสาว และ ฮวน พาโบล ราบา ในบท ปธน. จอมเผด็จการที่จู่ๆ ก็ถูกยึดอำนาจ รับ-ส่งมุกกันแบบไหลลื่น ( ผมดู Soundtrack ยังฮา ไม่รู้พากย์ไทยทีมไหน แต่ถ้าเป็นพันธมิตรน่าจะฮาขึ้นได้อีกแน่ๆ ) แต่ในความฮานั้นสิ่งแทรกมาในบท มันคือเรื่องของการเมืองทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ที่แบบจิกกัดนี่ละครับ ทำเอาต้องคิดว่า เออ..คนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้อยู่วงในศูนย์กลางอำนาจ ควรจะอินกับการเมืองหรือเปล่าไม่ว่าพรรคไหนกลุ่มใดก็ตาม และแม้บริบทจะเป็นประเทศสมติที่จำลองบริบทจากประเภทแถบลาตินอเมริกา แต่การเมืองมันก็คือการเมืองแหละ ดูหนังเรื่องนี้ฮาไปแล้วก็คิดไปว่า บางทีมุกต่างๆ ที่ใส่เข้ามา มันอาจะมีมูลความจริงบ้างไม่มากก็น้อยละมั้ง

ถือว่าดูได้เพลินๆ ครับ 

TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่