ยึดอำนาจไม่มีครั้งสุดท้าย ตราบใดนักลากตั้งยังเลว ผ่าประเด็นร้อน แนวหน้าออนไลน์ ...../sao..เหลือ..noi

กระทู้สนทนา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ตอบคำถามนักข่าวอย่างมีเชิงและไม่ผูกมัดตัวเอง เมื่อถูกถามว่าการรัฐประหารโดยคสช.
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งสุดท้ายแล้วใช่หรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ตอบ
เลี่ยงว่า อย่าไปสนใจว่าจะมีรัฐประหารอีกหรือไม่ แต่ควรจะคิดว่าทำอย่างไรประเทศชาติ
ถึงไม่มีความวุ่นวาย เมื่อมันไม่มีเหตุก็ไม่มีใครหาเหตุที่จะเข้ามาแก้ปัญหา ทั้งนี้ไม่ว่ารัฐบาล
ไหนก็ตามเข้ามาบริหารประเทศต้องมีธรรมาภิบาล ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น โปร่งใส

อีกคำถามหนึ่งนักข่าวบางสำนักพยายามตั้งคำถามแบบยั่วอารมณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยการ
ถามว่าคสช.และรัฐบาลเป็นเผด็จการหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบแบบย้อนถามว่าคำว่า
เผด็จการหมายถึงอะไร ถ้าเผด็จการหมายถึงการยึดอำนาจโดยคสช. ก็อยากถามว่าการที่
บ้านเมืองกลายเป็นรัฐล้มเหลวในทุกด้าน ทุกอย่างหยุดชะงักทั้งเศรษฐกิจการเมืองแล้วคสช.
ตัดสินใจเข้าควบคุมการบริหารประเทศถือเป็นเผด็จการหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ ยังสอนมวยนักข่าวคนที่ถามว่า เผด็จการนั้นมันมี 2 อย่าง อย่างหนึ่งคือ
เผด็จการโดยทหารที่ยึดอำนาจเพื่อตัวเอง แต่รัฐประหารโดยคสช.ไม่ได้ทำเพื่อแสวงหา
อำนาจและผลประโยชน์แม้แต่สลึงเดียว แต่เพื่อปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่าง
แท้จริงเพื่อบ้านเมืองสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน และอีกอย่างหนึ่งคือเผด็จการ
ในระบบรัฐสภาหรือเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมโดยพรรคและ
นักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ผูกมัดว่าอนาคตจะไม่เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกถือว่าสอดคล้องกับ
สถานการณ์ที่เป็นจริง ซึ่งที่ผ่านมานักลากตั้งมักพูดกันตลอดว่าเมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการ
เลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยหรือมีประชาธิปไตยที่อ้างว่าเต็มใบหรือมีรัฐธรรมนูญฉบับ
ประชาชนแล้วถือว่าหมดยุครัฐประหารที่ล้าสมัยเต็มที

แต่ขณะที่นักลากตั้งในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมมักจะอ้างถึงอุดมการณ์ในระบอบ
ประชาธิปไตยและชี้ว่ารัฐประหารล้าสมัย แต่ตัวเองกลับประพฤติตัวเลวทรามต่ำช้าตรงกัน
ข้ามกับหลักประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง ทั้งซื้อเสียงมองการเป็นธุรกิจที่ต้องทุ่มลงทุนเพื่อ
ให้ได้เป็นรัฐบาลแล้วถอนทุนบวกกำไรมหาศาลด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติปล้น
แผ่นดินอย่างไม่ละอายโดยไม่คำนึงว่าจะสร้างความยิ้มล่มจมให้ชาติบ้านเมือง และ
พยายามผูกขาดอำนาจทำตัวเป็นเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยลุแก่อำนาจ
ทำอะไรตามใจชอบไม่ต่างอะไรจากพรรคนาซีของอดีตจอมเผด็จการทรราช อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
ของเยอรมนี ซึ่งมาจากการเลือกตั้งเช่นกัน

ทั้งๆ ที่คสช.เข้ามาบริหารประเทศจากการยึดอำนาจ แต่ผลงานการบริหารประเทศ 6 เดือน
ที่ผ่านมา กลับได้รับการยอมรับจากประชาชนอย่างท่วมท้นเสียยิ่งกว่ารัฐบาลประชาธิปไตย
จอมปลอม ซึ่งสะท้อนจากผลการสำรวจของโพลล์สำนักต่างๆ ที่ชี้ว่าประชาชนส่วนใหญ่
ทั่วประเทศพอใจที่คสช.ใช้มาตรการที่เด็ดขาดจริงจังเข้ามาจัดระเบียบบ้านเมืองจนเกิดความ
สงบเรียบร้อยและมุ่งปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่มี
ทางเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดหากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และหากคสช.ไม่เข้ามาควบคุม
อำนาจการปกครองประเทศป่านนี้บ้านเมืองคงพินาศย่อยยับด้วยน้ำมือบริหารประเทศที่
เหลวแหลกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ที่บงการชักใยโดย พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก ผู้เป็นพี่ชาย

เพราะฉะนั้นตราบใดที่ระบอบทรราชธุรกิจการเมืองทุนสามานย์เผด็จการเสียงข้างมากในคราบ
ประชาธิปไตยยังดำรงอยู่ และนักลากตั้งทั้งหลายยังไม่เลิกพฤติกรรมเลวทรามโกงบ้านกินเมือง
จนเป็นชนวนการลุกฮือออกมาขับไล่ของมวลมหาประชาชน ตราบนั้นการรัฐประหารยังจะเกิด
ขี้นอีกอย่างไม่ต้องสงสัยภายใต้สัจธรรมที่ว่าเมื่อมีเหตุย่อมมีผลตามมา

ทีมข่าวการเมือง

http://www.naewna.com/creative/132938

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่