เมื่อสองสามปีก่อนผมเคยจอดรถในลานจอดของห้างแห่งหนึ่งแล้วโดนคู่กรณีถอยรถมาชนประตูบุบเสียหายแล้วคู่กรณีก็ขับรถออกจากห้างไป ผมมาเห็นทีหลังว่ารถเสียหายจึงไปขอทางห้างดูกล้องวงจรปิด และก็ขอคลิปวิดีโอมาเพื่อให้กับทางประกัน โดยในคลิปเห็นเหตุการณ์ที่รถคู่กรณีมาชนอย่างชัดเจน รวมถึงมีคลิปจากกล้องที่ป้อมทางออกห้างสามารถถ่ายติดทะเบียนรถของคู่กรณีตอนวิ่งออกจากห้างอย่างชัดเจน ผมจึงได้นัดประกันไปพบกันที่สถานีตำรวจเพื่อทำการแจ้งเคลมและลงบันทึกประจำวันไว้พร้อมๆกัน จริงๆต้องการแจ้งความคดีชนแล้วหนี แต่ตำรวจแจ้งว่าเหตุเกิดในลานจอดเอกชนไม่ใช่ถนนหลวง ไม่เข้าข่ายความผิดชนแล้วหนีเพราะ พรบ.จราจรไม่บังคับใช้ในที่ส่วนบุคคล ตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถออกหมายเรียกตัวเจ้าของรถมาได้เพราะไม่เข้าข่ายข้อหาใดๆ ทำได้แค่ให้ชื่อและที่อยู่ของเจ้าของรถตามป้ายทะเบียนมาเพื่อให้ประกันไปติดต่อเรียกค่าเสียหายเอาเอง
พอหลังจากลงบันทึกเสร็จก็มาถึงขั้นตอนการแจ้งเคลมโดย จนท ประกันก็ออกใบเคลมให้ตามปกติ แต่ในช่องผลคดีเค้าลงไว้ว่า"รอผลคดี" ซึ่งโดยปกติถ้าเราเป็นฝ่ายถูกเค้าจะต้องลงว่า"เคลมเรียกร้อง" หรือถ้าเราเป็นฝ่ายผิดจะลงว่า " รถประกันเป็นฝ่ายผิด" เลยถาม จนท ประกันก็ได้คำตอบว่ากรณีนี้ทางประกันต้องไปตามหาตัวเจ้าของรถเพื่อให้เค้ายอมรับผิดยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ก่อน การเคลมของเราถึงจะเป็นการเคลมเรียกร้อง แต่หากทางประกันติดต่อคู่กรณีไม่ได้ หรือเค้าปฏิเสธไม่ยอมรับความผิดหรือประกันเรียกเก็บค่าเสียหายไม่ได้ ประกันจะถือว่าการเคลมของเราเป็นการเคลมโดยที่เราเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี เราสามารถนำรถเข้าซ่อมรถได้ปกติแต่จะมีผลกับประวัติและการปรับเบี้ยในปีต่อไป ซึ่งผมมองว่ามันไม่แฟร์เลย ในเมื่อเราสามารถหาตัวคู่กรณีให้ได้แล้ว และมีหลักฐานยืนยันได้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าประกันไม่มีความสามารถในการติดตามตัวคู่กรณีหรือไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้เองทำไมถึงยังต้องให้ลูกค้าของตัวเองกลายเป็นฝ่ายรับผิดชอบโดยการโดนเบี้ยเพิ่มหรือไม่ได้ส่วนลดประวัติดีในปีต่อๆไปอีกครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานแล้วเลยมา edit แจ้งผลสรุปให้ทราบกันครับ
ผมตามตัวคู่กรณีเจอตั้งแต่วันที่ไปแจ้งความเลยครับ คือพอหลังจากที่ จนท ประกันแจ้งว่าถ้าเค้าเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีไม่ได้ก็จะต้องเคลมโดยที่ผมเป็นฝ่ายผิดแทน ผมเลยแจ้งกับ จนท ไปเลยว่าผมไม่โอเคที่จะต้องมารอลุ้นผลแบบนี้ ประกันจะไปติดตามคู่กรณีจริงหรือเปล่าแล้วผลจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ พอดีชื่อที่อยู่ของเจ้าของรถที่ตำรวจให้มาคืออยู่ในท้องที่แถวๆนั้นพอดี ผมเลยขอให้ จนท ประกันตามไปหาตัวคู่กรณีที่บ้านด้วยกันเลยครับ ซึ่งไปถึงก็ไม่เจอตัวคนเจ้าของรถและคนขับ เจอแต่น้องสาวเค้าอยู่บ้าน (ชื่อเจ้าของรถเป็นของพี่ชาย แต่รถคันนี้ให้พ่ออายุ 60-70 ขับ) ก็เลยเอาบันทึกประจำวันกับเอกสารหลักฐานและคลิปให้น้องสาวเค้าดู เค้าถึงได้โทรบอกพ่อว่าขับรถชนรถผมแล้วผมไปแจ้งความ พอดีพ่อกับพี่ชายเค้าเอารถไปเช็คระยะที่ศูนย์พอดี เลยให้นัดประกันของเค้ามาเจอกันที่ศูนย์บริการเพื่อเคลียร์กับประกันของผมครับ ก็ถือว่าจบแต่โดยดีครับ คนขับยอมรับผิดและขอโทษผมโดยแจ้งว่าเค้าไม่รู้ตัวว่าขับชนรถผมเลยขับออกมาจากห้างเลยไม่ได้อยู่รับผิดชอบ (พ่อกับพี่ชายพูดดีมากครับ แต่น้องสาวที่ผมไปเจอที่บ้านตอนแรกพูดไม่ดีเท่าไหร่ มีบ่นๆ ต่อว่าผมว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องถึงกับไปแจ้งความด้วย นิดเดียวเอง ซึ่งรถผมบุบเยอะมากตั้งแต่แผ่นตัวถังข้างแก้มยันบานประตู แบบนี้ไม่นิดหน่อยนะ)
ผมมาตั้งกระทู้ถามหลังจากผ่านไปหลายปีเพราะว่าพอดีนั่งคุยกับเพื่อนถึงเหตุการณ์ที่เค้าโดนมอเตอร์ไซค์ชนกระจกข้างแล้วหนี(แต่ตามตัวไม่ได้) เลยนึกถึงเคสตัวเองขึ้นมา
รถมีประกันชั้น 1 หากโดนชนแล้วหนีโดยไม่ผิด และหาหลักฐานยืนยันตัวคู่กรณีมาให้ประกันได้ชัดเจน ทำไมถึงยังต้องรอลุ้นผลคดีครับ
พอหลังจากลงบันทึกเสร็จก็มาถึงขั้นตอนการแจ้งเคลมโดย จนท ประกันก็ออกใบเคลมให้ตามปกติ แต่ในช่องผลคดีเค้าลงไว้ว่า"รอผลคดี" ซึ่งโดยปกติถ้าเราเป็นฝ่ายถูกเค้าจะต้องลงว่า"เคลมเรียกร้อง" หรือถ้าเราเป็นฝ่ายผิดจะลงว่า " รถประกันเป็นฝ่ายผิด" เลยถาม จนท ประกันก็ได้คำตอบว่ากรณีนี้ทางประกันต้องไปตามหาตัวเจ้าของรถเพื่อให้เค้ายอมรับผิดยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ก่อน การเคลมของเราถึงจะเป็นการเคลมเรียกร้อง แต่หากทางประกันติดต่อคู่กรณีไม่ได้ หรือเค้าปฏิเสธไม่ยอมรับความผิดหรือประกันเรียกเก็บค่าเสียหายไม่ได้ ประกันจะถือว่าการเคลมของเราเป็นการเคลมโดยที่เราเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี เราสามารถนำรถเข้าซ่อมรถได้ปกติแต่จะมีผลกับประวัติและการปรับเบี้ยในปีต่อไป ซึ่งผมมองว่ามันไม่แฟร์เลย ในเมื่อเราสามารถหาตัวคู่กรณีให้ได้แล้ว และมีหลักฐานยืนยันได้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าประกันไม่มีความสามารถในการติดตามตัวคู่กรณีหรือไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้เองทำไมถึงยังต้องให้ลูกค้าของตัวเองกลายเป็นฝ่ายรับผิดชอบโดยการโดนเบี้ยเพิ่มหรือไม่ได้ส่วนลดประวัติดีในปีต่อๆไปอีกครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานแล้วเลยมา edit แจ้งผลสรุปให้ทราบกันครับ
ผมตามตัวคู่กรณีเจอตั้งแต่วันที่ไปแจ้งความเลยครับ คือพอหลังจากที่ จนท ประกันแจ้งว่าถ้าเค้าเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีไม่ได้ก็จะต้องเคลมโดยที่ผมเป็นฝ่ายผิดแทน ผมเลยแจ้งกับ จนท ไปเลยว่าผมไม่โอเคที่จะต้องมารอลุ้นผลแบบนี้ ประกันจะไปติดตามคู่กรณีจริงหรือเปล่าแล้วผลจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ พอดีชื่อที่อยู่ของเจ้าของรถที่ตำรวจให้มาคืออยู่ในท้องที่แถวๆนั้นพอดี ผมเลยขอให้ จนท ประกันตามไปหาตัวคู่กรณีที่บ้านด้วยกันเลยครับ ซึ่งไปถึงก็ไม่เจอตัวคนเจ้าของรถและคนขับ เจอแต่น้องสาวเค้าอยู่บ้าน (ชื่อเจ้าของรถเป็นของพี่ชาย แต่รถคันนี้ให้พ่ออายุ 60-70 ขับ) ก็เลยเอาบันทึกประจำวันกับเอกสารหลักฐานและคลิปให้น้องสาวเค้าดู เค้าถึงได้โทรบอกพ่อว่าขับรถชนรถผมแล้วผมไปแจ้งความ พอดีพ่อกับพี่ชายเค้าเอารถไปเช็คระยะที่ศูนย์พอดี เลยให้นัดประกันของเค้ามาเจอกันที่ศูนย์บริการเพื่อเคลียร์กับประกันของผมครับ ก็ถือว่าจบแต่โดยดีครับ คนขับยอมรับผิดและขอโทษผมโดยแจ้งว่าเค้าไม่รู้ตัวว่าขับชนรถผมเลยขับออกมาจากห้างเลยไม่ได้อยู่รับผิดชอบ (พ่อกับพี่ชายพูดดีมากครับ แต่น้องสาวที่ผมไปเจอที่บ้านตอนแรกพูดไม่ดีเท่าไหร่ มีบ่นๆ ต่อว่าผมว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องถึงกับไปแจ้งความด้วย นิดเดียวเอง ซึ่งรถผมบุบเยอะมากตั้งแต่แผ่นตัวถังข้างแก้มยันบานประตู แบบนี้ไม่นิดหน่อยนะ)
ผมมาตั้งกระทู้ถามหลังจากผ่านไปหลายปีเพราะว่าพอดีนั่งคุยกับเพื่อนถึงเหตุการณ์ที่เค้าโดนมอเตอร์ไซค์ชนกระจกข้างแล้วหนี(แต่ตามตัวไม่ได้) เลยนึกถึงเคสตัวเองขึ้นมา