สวัสดีค่า เราเพิ่งเคยโพสต์ใน pantip เป็นครั้งแรกนะคะ
มีทั้งเรื่องอยากระบายความอึดอัด และอยากขอคำปรึกษาเพื่อนๆค่ะ
ขอเริ่มจากเล่าเรื่องคร่าวๆก่อนแล้วกันนะคะ จะเรียกว่าระบายความในใจก็ได้ค่ะ
เราเรียนจบสายวิทย์สุขภาพมา ทำงานอยู่นานหลายปีจนมั่นใจว่าเจอสาขาที่ชอบ ก็เลยเลือกมาเรียนต่อเฉพาะทางค่ะ
สำหรับเราๆว่าการเรียนต่อในสายวิทย์สุขภาพ ไม่ว่าจะเลือกเรียนต่อที่ไหน สุดท้ายหลักสูตรฝึกอบรมของทุกที่ก็น่าจะทำให้เราจบไปทำงานในระดับที่specialist ควรทำได้ (จบจากคนละที่ อาจจะไม่เหมือนกัน100% แต่อย่างน้อยทุกที่ก็น่าจะทำให้คนที่จบไป มีความรู้ความสามารถ ทำในสิ่งที่specialist ควรจะทำได้) ส่วนการที่แต่ละคนจะไปต่อยอดความชำนาญ ความเก่ง ขึ้นไปอีก ก็อยู่ที่การไปพัฒนากันเองหลังจากกลับไปทำงาน
แต่หลังจากที่เราอยู่ในเทรนนิ่งหลายปีจนใกล้จะจบ เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะว่าที่เราเคยคิดมันจริงมั้ย ตอนนี้เรารู้สึกว่ายังไม่มีทั้งความรู้ ทักษะ หรือประสบการณ์พอที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นspecialistค่ะ สาขาที่เราเทรนอยู่ นอกจากความรู้ด้านทฤษฎีแล้วต้องอาศัยการเข้าเคสทำเคสที่ค่อนข้างเยอะค่ะถึงจะทำงานได้จริง เพราะมันเป็นoperation เกือบทั้งหมด
สิ่งที่เรารู้สึกขาดอย่างแรกคือ ที่ๆเราเทรนอยู่ไม่มีacademic activity (กิจกรรมทางวิชาการ) หลายอย่างที่สถาบันอื่นๆจัดกันเป็นปกติค่ะ
เราเคยคุยกับเพื่อนๆจากสถาบันอื่นๆ รู้มาว่าที่อื่นจะจัดให้มีactivity วิชาการเป็นกิจวัตรค่ะ อย่างเช่น JC เพราะเค้ามองว่ามันจำเป็น คือactivityพวกนี้มันช่วยทำให้ทุกคนที่เข้ามาเทรนอย่างน้อยจะมีความรู้พื้นฐานที่must knowติดตัว มีความรู้ที่updateเสมอ อ่านงานวิจัยเป็น และสามารถอัพเดทความรู้ด้วยตัวเองต่อไปได้ในอนาคตค่ะ แล้วพอเรามาดูตัวเองที่ไม่ได้ผ่านactivity พวกนี้มา เราคิดว่าความรู้เราพอมีนะคะ เพราะได้ฟังlecture อยู่บ้าง แต่มันไม่แน่นเลย และไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบ หรือเรียกใช้เวลาเจอเคสได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนคนที่เค้าผ่านactivity พวกนี้มาต่อเนื่องและได้ฝึกกระบวนการต่างๆจนเกิดความเคยชินค่ะ
เรื่องการเข้าเคสเป็นสิ่งที่เรากังวลมากกว่าประเด็นแรกอีกค่ะ ที่ๆเราเทรนอยู่จัดเวลาส่วนนี้ให้น้อยมากค่ะ หัตถการหลายๆอย่างที่เราคิดว่าคนจะจบเป็นspecialist ควรได้ฝึกได้ทำตอนเทรนนิ่งเพราะควรจะมีstaff cover เรากับเพื่อนก็ไม่เคยได้ทำเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนที่เราคุยกับเพื่อนจากสถาบันอื่นๆ เพื่อนๆก็ตกใจว่า ทำไมเราไม่ได้ทำหลายอย่าง สถาบันอื่นๆไม่ใช่แค่ได้ทำ แต่มีกำหนดไว้ว่าต้องได้ทำอย่างน้อยกี่ครั้ง เพราะว่าจบกลับไปทำงานได้เจอแน่ ไม่ว่าจะทำงานรัฐหรือเอกชน
ที่ๆเราเทรนมี job อื่นๆที่ให้พวกเราช่วยงาน โดยที่มันไม่ได้เกี่ยวกับการพัฒนาความรู้หรือทักษะเฉพาะทางที่พวกเราตั้งใจมาฝึกค่ะ(สถาบันอื่นๆไม่มี) เราเองไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตรงนั้น ก็คือเหมือนแค่เป็นการช่วยงานเลย เราก็พยายามมองแง่ดีว่าช่วยๆกันไปค่ะ แต่มาคิดดูแล้วก็รู้สึกน้อยใจนะคะ ว่าเรามาเทรนเพื่อให้มีความรู้ มีทักษะมากขึ้น ให้มั่นใจ ทำงานได้ แต่กลายเป็นว่า นอกจากสถาบันฝึกอบรมจะไม่สามารถให้ส่วนนั้นได้อย่างเพียงพอแล้ว ยังให้ job อื่นๆมาในช่วงเวลาที่จริงๆพวกเราควรจะได้ฝึกอบรมกันอีก
เรื่องวิจัยก็ขอไม่พูดเยอะค่ะ คงเป็นยาขมที่เจอกันทุกคนอยู่แล้ว แต่พอมารวมกับความรู้สึกว่าไม่ค่อยได้อะไรจากการเทรนนิ่ง แต่ต้องมาทำวิจัยที่ก็ไม่ได้ง่ายซะด้วย ....... มันก็หดหู่อยู่ค่ะ
เราทราบมาว่าสมัยก่อน เทรนนิ่งของที่นี่ไม่ได้เป็นแบบนี้ (บังเอิญได้คุยกับรุ่นพี่ที่จบที่นี่ค่ะ เค้าเล่าว่าได้เข้าเคสไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเราฟังแล้วก็สับสนว่า พี่คะ นี่เราจบที่เดียวกันจริงๆหรือเปล่าคะ) ก็ไม่แน่ใจว่าด้วยปัญหา หรือสถานการณ์อะไร ที่ทำให้ทุกอย่างมันกลายเป็นอย่างที่เราเล่าไปค่ะ
ทีแรกก็คิดว่าเรารู้สึกไปคนเดียวรึเปล่านะ แต่พอถามเพื่อนๆที่เทรนด้วยกัน ทุกคนก็พรั่งพรูความรู้สึกออกมาว่าคิดเหมือนกันหมดค่ะ
เราว่ามันhurt นะคะกับการที่ตั้งใจมาเรียนด้วยไฟที่อยากเรียนรู้ ใช้เวลาในชีวิต หายหน้าหายตาไปก็หลายปี เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ว่าดันไปเหนื่อยกับอะไรก็ไม่รู้ แล้วสุดท้ายได้ชื่อว่าเรียนจบมา แต่ทำอะไรที่เฉพาะทางคนอื่นเค้าทำไม่ได้ตั้งหลายอย่าง (มันทำให้คิดว่าจะมาเรียนทำไมนะ) เราว่าเรายอมเทรนเหนื่อยๆแต่จบมาแล้วทำงานได้สมกับเวลาที่เสียไปและสมกับที่คนอื่นเค้าเรียกเราว่าเฉพาะทางค่ะ ที่พูดมานี่ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรใครนะคะ คิดว่าทุกคนก็คงทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่แล้ว และมีเจตนาดีกันทั้งนั้น บางทีระบบอะไรหลายๆอย่างมันคงบีบให้ทุกอย่างออกมาเป็นแบบนี้ เพียงแต่คิดแล้วเศร้าค่ะ
จบการระบายแล้วค่ะ
สิ่งที่เราอยากปรึกษาคือ ในเมื่อเราเข้ามาเรียนจนจะจบแล้ว จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขก็คงไม่ได้
เลยมีความคิดว่าหลังจากจบ training ที่นี่ อยากจะสมัคร training ที่อื่นต่อในสาขาเดิมค่ะ รู้ว่าเป็นแนวคิดที่แปลกนะคะแต่ถ้าจะให้เรากลับไปทำงานสภาพนี้เลยคงไม่ได้จริงๆค่ะ คนอื่นอาจจะงงว่านี่เรียนมาจริงรึเปล่า
แต่ถ้าจะทำแบบนี้จริงๆ ก็คงต้องจ่ายหนี้เดิม และไปเป็น free training เอาค่ะ เพราะที่ทำงานไม่น่าจะอนุญาตให้มาเรียนแล้วเรียนอีก สาขาเดิมอีกต่างหาก
ตอนแรกก็กะว่าจะหาความรู้และฝึกฝนด้วยตัวเองอยู่ค่ะ แต่มาคิดๆดูแล้วสิ่งที่เรายังขาดมันค่อนข้างเยอะเลย การฝึกด้วยตัวเองมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น และเราว่าการทำงานบางอย่างครั้งแรก ควรทำใน setting ที่มีอาจารย์cover ดีกว่าค่ะ ก็เลยมองว่า เทรนใหม่ไปเลยจบๆค่ะ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็นยังไงกันบ้างคะ แล้วมีใครเคยเจอปัญหาคล้ายๆกันมั้ย แล้วหาทางออกกันยังไงเหรอคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่า
ปรึกษาปัญหาการเรียนต่อเฉพาะทาง(สายวิทย์สุขภาพ)ค่ะ
มีทั้งเรื่องอยากระบายความอึดอัด และอยากขอคำปรึกษาเพื่อนๆค่ะ
ขอเริ่มจากเล่าเรื่องคร่าวๆก่อนแล้วกันนะคะ จะเรียกว่าระบายความในใจก็ได้ค่ะ
เราเรียนจบสายวิทย์สุขภาพมา ทำงานอยู่นานหลายปีจนมั่นใจว่าเจอสาขาที่ชอบ ก็เลยเลือกมาเรียนต่อเฉพาะทางค่ะ
สำหรับเราๆว่าการเรียนต่อในสายวิทย์สุขภาพ ไม่ว่าจะเลือกเรียนต่อที่ไหน สุดท้ายหลักสูตรฝึกอบรมของทุกที่ก็น่าจะทำให้เราจบไปทำงานในระดับที่specialist ควรทำได้ (จบจากคนละที่ อาจจะไม่เหมือนกัน100% แต่อย่างน้อยทุกที่ก็น่าจะทำให้คนที่จบไป มีความรู้ความสามารถ ทำในสิ่งที่specialist ควรจะทำได้) ส่วนการที่แต่ละคนจะไปต่อยอดความชำนาญ ความเก่ง ขึ้นไปอีก ก็อยู่ที่การไปพัฒนากันเองหลังจากกลับไปทำงาน
แต่หลังจากที่เราอยู่ในเทรนนิ่งหลายปีจนใกล้จะจบ เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะว่าที่เราเคยคิดมันจริงมั้ย ตอนนี้เรารู้สึกว่ายังไม่มีทั้งความรู้ ทักษะ หรือประสบการณ์พอที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นspecialistค่ะ สาขาที่เราเทรนอยู่ นอกจากความรู้ด้านทฤษฎีแล้วต้องอาศัยการเข้าเคสทำเคสที่ค่อนข้างเยอะค่ะถึงจะทำงานได้จริง เพราะมันเป็นoperation เกือบทั้งหมด
สิ่งที่เรารู้สึกขาดอย่างแรกคือ ที่ๆเราเทรนอยู่ไม่มีacademic activity (กิจกรรมทางวิชาการ) หลายอย่างที่สถาบันอื่นๆจัดกันเป็นปกติค่ะ
เราเคยคุยกับเพื่อนๆจากสถาบันอื่นๆ รู้มาว่าที่อื่นจะจัดให้มีactivity วิชาการเป็นกิจวัตรค่ะ อย่างเช่น JC เพราะเค้ามองว่ามันจำเป็น คือactivityพวกนี้มันช่วยทำให้ทุกคนที่เข้ามาเทรนอย่างน้อยจะมีความรู้พื้นฐานที่must knowติดตัว มีความรู้ที่updateเสมอ อ่านงานวิจัยเป็น และสามารถอัพเดทความรู้ด้วยตัวเองต่อไปได้ในอนาคตค่ะ แล้วพอเรามาดูตัวเองที่ไม่ได้ผ่านactivity พวกนี้มา เราคิดว่าความรู้เราพอมีนะคะ เพราะได้ฟังlecture อยู่บ้าง แต่มันไม่แน่นเลย และไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบ หรือเรียกใช้เวลาเจอเคสได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนคนที่เค้าผ่านactivity พวกนี้มาต่อเนื่องและได้ฝึกกระบวนการต่างๆจนเกิดความเคยชินค่ะ
เรื่องการเข้าเคสเป็นสิ่งที่เรากังวลมากกว่าประเด็นแรกอีกค่ะ ที่ๆเราเทรนอยู่จัดเวลาส่วนนี้ให้น้อยมากค่ะ หัตถการหลายๆอย่างที่เราคิดว่าคนจะจบเป็นspecialist ควรได้ฝึกได้ทำตอนเทรนนิ่งเพราะควรจะมีstaff cover เรากับเพื่อนก็ไม่เคยได้ทำเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนที่เราคุยกับเพื่อนจากสถาบันอื่นๆ เพื่อนๆก็ตกใจว่า ทำไมเราไม่ได้ทำหลายอย่าง สถาบันอื่นๆไม่ใช่แค่ได้ทำ แต่มีกำหนดไว้ว่าต้องได้ทำอย่างน้อยกี่ครั้ง เพราะว่าจบกลับไปทำงานได้เจอแน่ ไม่ว่าจะทำงานรัฐหรือเอกชน
ที่ๆเราเทรนมี job อื่นๆที่ให้พวกเราช่วยงาน โดยที่มันไม่ได้เกี่ยวกับการพัฒนาความรู้หรือทักษะเฉพาะทางที่พวกเราตั้งใจมาฝึกค่ะ(สถาบันอื่นๆไม่มี) เราเองไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตรงนั้น ก็คือเหมือนแค่เป็นการช่วยงานเลย เราก็พยายามมองแง่ดีว่าช่วยๆกันไปค่ะ แต่มาคิดดูแล้วก็รู้สึกน้อยใจนะคะ ว่าเรามาเทรนเพื่อให้มีความรู้ มีทักษะมากขึ้น ให้มั่นใจ ทำงานได้ แต่กลายเป็นว่า นอกจากสถาบันฝึกอบรมจะไม่สามารถให้ส่วนนั้นได้อย่างเพียงพอแล้ว ยังให้ job อื่นๆมาในช่วงเวลาที่จริงๆพวกเราควรจะได้ฝึกอบรมกันอีก
เรื่องวิจัยก็ขอไม่พูดเยอะค่ะ คงเป็นยาขมที่เจอกันทุกคนอยู่แล้ว แต่พอมารวมกับความรู้สึกว่าไม่ค่อยได้อะไรจากการเทรนนิ่ง แต่ต้องมาทำวิจัยที่ก็ไม่ได้ง่ายซะด้วย ....... มันก็หดหู่อยู่ค่ะ
เราทราบมาว่าสมัยก่อน เทรนนิ่งของที่นี่ไม่ได้เป็นแบบนี้ (บังเอิญได้คุยกับรุ่นพี่ที่จบที่นี่ค่ะ เค้าเล่าว่าได้เข้าเคสไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเราฟังแล้วก็สับสนว่า พี่คะ นี่เราจบที่เดียวกันจริงๆหรือเปล่าคะ) ก็ไม่แน่ใจว่าด้วยปัญหา หรือสถานการณ์อะไร ที่ทำให้ทุกอย่างมันกลายเป็นอย่างที่เราเล่าไปค่ะ
ทีแรกก็คิดว่าเรารู้สึกไปคนเดียวรึเปล่านะ แต่พอถามเพื่อนๆที่เทรนด้วยกัน ทุกคนก็พรั่งพรูความรู้สึกออกมาว่าคิดเหมือนกันหมดค่ะ
เราว่ามันhurt นะคะกับการที่ตั้งใจมาเรียนด้วยไฟที่อยากเรียนรู้ ใช้เวลาในชีวิต หายหน้าหายตาไปก็หลายปี เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ว่าดันไปเหนื่อยกับอะไรก็ไม่รู้ แล้วสุดท้ายได้ชื่อว่าเรียนจบมา แต่ทำอะไรที่เฉพาะทางคนอื่นเค้าทำไม่ได้ตั้งหลายอย่าง (มันทำให้คิดว่าจะมาเรียนทำไมนะ) เราว่าเรายอมเทรนเหนื่อยๆแต่จบมาแล้วทำงานได้สมกับเวลาที่เสียไปและสมกับที่คนอื่นเค้าเรียกเราว่าเฉพาะทางค่ะ ที่พูดมานี่ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรใครนะคะ คิดว่าทุกคนก็คงทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่แล้ว และมีเจตนาดีกันทั้งนั้น บางทีระบบอะไรหลายๆอย่างมันคงบีบให้ทุกอย่างออกมาเป็นแบบนี้ เพียงแต่คิดแล้วเศร้าค่ะ
จบการระบายแล้วค่ะ
สิ่งที่เราอยากปรึกษาคือ ในเมื่อเราเข้ามาเรียนจนจะจบแล้ว จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขก็คงไม่ได้
เลยมีความคิดว่าหลังจากจบ training ที่นี่ อยากจะสมัคร training ที่อื่นต่อในสาขาเดิมค่ะ รู้ว่าเป็นแนวคิดที่แปลกนะคะแต่ถ้าจะให้เรากลับไปทำงานสภาพนี้เลยคงไม่ได้จริงๆค่ะ คนอื่นอาจจะงงว่านี่เรียนมาจริงรึเปล่า
แต่ถ้าจะทำแบบนี้จริงๆ ก็คงต้องจ่ายหนี้เดิม และไปเป็น free training เอาค่ะ เพราะที่ทำงานไม่น่าจะอนุญาตให้มาเรียนแล้วเรียนอีก สาขาเดิมอีกต่างหาก
ตอนแรกก็กะว่าจะหาความรู้และฝึกฝนด้วยตัวเองอยู่ค่ะ แต่มาคิดๆดูแล้วสิ่งที่เรายังขาดมันค่อนข้างเยอะเลย การฝึกด้วยตัวเองมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น และเราว่าการทำงานบางอย่างครั้งแรก ควรทำใน setting ที่มีอาจารย์cover ดีกว่าค่ะ ก็เลยมองว่า เทรนใหม่ไปเลยจบๆค่ะ
อยากรู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็นยังไงกันบ้างคะ แล้วมีใครเคยเจอปัญหาคล้ายๆกันมั้ย แล้วหาทางออกกันยังไงเหรอคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่า