ตามหัวข้อเลยครับ ช่วงนี้ผมรู้สึกไม่ดีมากๆ ทั้งกับการเรียนต่อ ชีวิต ครอบครัว รวมถึงแฟนสาวที่คุยๆกัน แฟนกับผมห่างกัน 7 ปีครับ ยังไม่คบจริงจังมากแต่ก็คอยคุยคอยซัพพอร์ทกันไป อ่อ และปัจจุบันผมอายุ 18 แล้วนะครับ อีกอย่าง ผมกับแฟนก็เป็นรักทางไกล เจอหน้าแค่ตอนคอลแต่ก็ไม่ได้มานัดเจอจริงหน่ะครับ
แต่ปัญหาของทุกอย่างคือตัวผมเองช่วงนี้รู้สึกเหงา หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ หรือถึงขั้นไม่อยากคุยกับใครหรือใกล้ใครเลย ทำงานอดิเรกที่ชอบก็ไม่อยากทำ กอนข้าวก็กินบ้าง ไม่ก็กินจนแน่นไปเลย บางคืนก็นอนไม่หลับ บางทีก็ง่วงตลอดเวลา บางครั้งก็ตรงกันข้ามกับทุกอย่างอยากจะพูดคุย อยากจะหาอะไรทำเพิ่มความสนิทสนม
ผมนั่งคิดและปรับความคิดทุกวันนะครับ ว่าพ่อแม่ก็ทำงาน ส่วนแฟนก็เช่นกัน คงไม่มีเวลาให้ผมมากขนาดนั้น หาโน่นนี้ทำ พยายามจัดการบริหารชีวิตในอนาคต แต่อย่างว่าละครับ เหมือนอยู่ตัวคนเดียวทุกวัน พ่อแม่ที่ขนาดอยู่ด้วยตลอด ผมก็แทบจะไม่ปริปากพูดคุย เพราะงั้นเวลาไม่สบายใจเลยแทบไม่ได้ปรึกษาใครเลย เนื่องจากจะโดนสวนกลับมาว่าให้ผมอดทนอยู่เสมอ ดุด่าเมื่ออ่อนแอ และไม่ปลอบผมเลยหน่ะครับ ส่วนแฟนสาวที่ทำงาน ผมก็จัเป็นฝ่ายปลอบตลอด ถามไถ่เสมอ กลับกันเค้าดูไม่ค่อยห่วงผมเท่าไหร่ เรื่องจริงจังเค้าก็มักจะเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยเหตุผลว่าไม่อยากให้เครียด หรือไม่ผมเป็นอะไรเค้าก็ไม่ค่อยเต็มใจสนใจเท่าไหร่ บางทีพอบอกให้เค้าสนใจกันบ้างเค้าก็จะร้องไห้ขอโทษแต่ก็ไม่เปลี่ยนอะไร
ปัญหาอีกอย่างคือพ่อผมป่วยอดๆแอดๆ อยากจะไปหาหมออย่างเดียว พอตรวจก็ไม่ได้เป็นอะไร บางทีผมก็คิดว่าเค้าแสร้งป่วยไม่ก็เพราะวัยทอง ก็พยายามเข้าใจแหละครับ แต่ก็กลายเป็นว่าแม่ก็ห่วงพ่ออย่างเดียว และพ่อผมเป็นประเภทที่ชอบสั่งสอน ใครเถียงไม่ได้ เคยมีครั้งนึงเค้าพูดเรื่องคลุมถุงชน ผมก็เลยบอกว่าให้ผมอยู่คนเดียวก็ได้ จู่ๆพ่อผมก็ตระหวาดใส่บอกว่าพูดเล่นๆ ผมก็ตอบไปอีกครับว่า "ก็พูดเล่นเหมือนกันไม่ได้อะไรเลย" แต่พ่อผมก็ด่าผมว่า "เก่งนักหรอ เก่งมากก็ทำไป"อะไรแบบนั้นแบบ งงๆดี
ครอบครัวผมค่อนข้างไปทางหัวโบราณ ผมที่ได้คะแนนถึงสัตวะกับเภสัทเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม่ผมที่บอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ดูจะยังคาดหวังแล้วหงุดหงิดใส่ผมตามเคย เอาแต่บอกแต่ย้ำว่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ปีหน้าเอาใหม่ ตอนนี้ก็บังคับให้ผมลงวิศวะคอมครับ เพราะบอกว่าคณะอื่นไม่ดีโน่นนี้
ผมรู้สึกว่าผมพยายามเข้าใจทุกคนนะครับ อดทนมาตลอด พอจะระบายก็จะโดนผู้ใหญ่สั่งสอนซ้ำเติมให้ผมต้องเงียบปากไปอีก อย่าบอกว่าผมไม่เคยคุยกับพวกเค้านะครับ ผมคุยจนผมท้อแล้ว ท้อมากๆ ท้อจนผมต้องปลอบตัวเองว่าปัญหาผมมันนิดเดียว คนอื่นมันหนักกว่า ยิ่งผมเป็นฝ่ายรับฟัง มันก็ยิ่งย้ำว่าผมไม่ควรระบายกับใครเพราะผมมันปัญหาเล็กๆ
.
.
.
.
.
จริงๆมันมีรายละเอียดมากกว่านี้ครับ แต่ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะผมอยากได้วิธีจัดการอารมณ์ความรู้สึกตัวเองมากๆ ผมเชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่บางท่านมาอ่านก็จะบอกว่า ควรเข้าใจพ่อแม่ ท่านทำงานหนักเผื่อผม ท่านแก่แล้ว หรืออะไรก็ตามที่จะบอกว่ากตัญญูพ่อแม่ หรือไม่ก็อาจจะบอกว่าลองโตมาทำงานเองแล้วจะรู้ ส่วนบางท่านก็อาจจะมองว่าผมก็แค่เด็กที่อ่อนแอ อาจจะใช้คำซ้ำเติม หรือพิมพ์อะไรแบบไม่คิด
หากผมพิมพ์อะไรไม่ดีที่ทำให้บางท่างรู้สึกหงุดหงิด ได้โปรดอย่าพิมพ์ด่าลงมาเลยครับ ผมขอคนที่อยสกแชร์ทางแก้เรื่องความรู้สึกอารมณ์จริงๆ ถ้ามีใครพิมพ์ว่าไปตาย ผมก็อยากจะไปตามที่พิมพ์ครับ แต่ผมก็อยาหจะได้ทางออกที่ดีกว่านี้ ผมอยากใช้ชีวิตมีความสุขกว่านี้
ขอบคุณสำหรับท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ
จัดหารความรู้สึกยังไงดีครับ?
แต่ปัญหาของทุกอย่างคือตัวผมเองช่วงนี้รู้สึกเหงา หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ หรือถึงขั้นไม่อยากคุยกับใครหรือใกล้ใครเลย ทำงานอดิเรกที่ชอบก็ไม่อยากทำ กอนข้าวก็กินบ้าง ไม่ก็กินจนแน่นไปเลย บางคืนก็นอนไม่หลับ บางทีก็ง่วงตลอดเวลา บางครั้งก็ตรงกันข้ามกับทุกอย่างอยากจะพูดคุย อยากจะหาอะไรทำเพิ่มความสนิทสนม
ผมนั่งคิดและปรับความคิดทุกวันนะครับ ว่าพ่อแม่ก็ทำงาน ส่วนแฟนก็เช่นกัน คงไม่มีเวลาให้ผมมากขนาดนั้น หาโน่นนี้ทำ พยายามจัดการบริหารชีวิตในอนาคต แต่อย่างว่าละครับ เหมือนอยู่ตัวคนเดียวทุกวัน พ่อแม่ที่ขนาดอยู่ด้วยตลอด ผมก็แทบจะไม่ปริปากพูดคุย เพราะงั้นเวลาไม่สบายใจเลยแทบไม่ได้ปรึกษาใครเลย เนื่องจากจะโดนสวนกลับมาว่าให้ผมอดทนอยู่เสมอ ดุด่าเมื่ออ่อนแอ และไม่ปลอบผมเลยหน่ะครับ ส่วนแฟนสาวที่ทำงาน ผมก็จัเป็นฝ่ายปลอบตลอด ถามไถ่เสมอ กลับกันเค้าดูไม่ค่อยห่วงผมเท่าไหร่ เรื่องจริงจังเค้าก็มักจะเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยเหตุผลว่าไม่อยากให้เครียด หรือไม่ผมเป็นอะไรเค้าก็ไม่ค่อยเต็มใจสนใจเท่าไหร่ บางทีพอบอกให้เค้าสนใจกันบ้างเค้าก็จะร้องไห้ขอโทษแต่ก็ไม่เปลี่ยนอะไร
ปัญหาอีกอย่างคือพ่อผมป่วยอดๆแอดๆ อยากจะไปหาหมออย่างเดียว พอตรวจก็ไม่ได้เป็นอะไร บางทีผมก็คิดว่าเค้าแสร้งป่วยไม่ก็เพราะวัยทอง ก็พยายามเข้าใจแหละครับ แต่ก็กลายเป็นว่าแม่ก็ห่วงพ่ออย่างเดียว และพ่อผมเป็นประเภทที่ชอบสั่งสอน ใครเถียงไม่ได้ เคยมีครั้งนึงเค้าพูดเรื่องคลุมถุงชน ผมก็เลยบอกว่าให้ผมอยู่คนเดียวก็ได้ จู่ๆพ่อผมก็ตระหวาดใส่บอกว่าพูดเล่นๆ ผมก็ตอบไปอีกครับว่า "ก็พูดเล่นเหมือนกันไม่ได้อะไรเลย" แต่พ่อผมก็ด่าผมว่า "เก่งนักหรอ เก่งมากก็ทำไป"อะไรแบบนั้นแบบ งงๆดี
ครอบครัวผมค่อนข้างไปทางหัวโบราณ ผมที่ได้คะแนนถึงสัตวะกับเภสัทเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม่ผมที่บอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ดูจะยังคาดหวังแล้วหงุดหงิดใส่ผมตามเคย เอาแต่บอกแต่ย้ำว่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ปีหน้าเอาใหม่ ตอนนี้ก็บังคับให้ผมลงวิศวะคอมครับ เพราะบอกว่าคณะอื่นไม่ดีโน่นนี้
ผมรู้สึกว่าผมพยายามเข้าใจทุกคนนะครับ อดทนมาตลอด พอจะระบายก็จะโดนผู้ใหญ่สั่งสอนซ้ำเติมให้ผมต้องเงียบปากไปอีก อย่าบอกว่าผมไม่เคยคุยกับพวกเค้านะครับ ผมคุยจนผมท้อแล้ว ท้อมากๆ ท้อจนผมต้องปลอบตัวเองว่าปัญหาผมมันนิดเดียว คนอื่นมันหนักกว่า ยิ่งผมเป็นฝ่ายรับฟัง มันก็ยิ่งย้ำว่าผมไม่ควรระบายกับใครเพราะผมมันปัญหาเล็กๆ
.
.
.
.
.
จริงๆมันมีรายละเอียดมากกว่านี้ครับ แต่ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะผมอยากได้วิธีจัดการอารมณ์ความรู้สึกตัวเองมากๆ ผมเชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่บางท่านมาอ่านก็จะบอกว่า ควรเข้าใจพ่อแม่ ท่านทำงานหนักเผื่อผม ท่านแก่แล้ว หรืออะไรก็ตามที่จะบอกว่ากตัญญูพ่อแม่ หรือไม่ก็อาจจะบอกว่าลองโตมาทำงานเองแล้วจะรู้ ส่วนบางท่านก็อาจจะมองว่าผมก็แค่เด็กที่อ่อนแอ อาจจะใช้คำซ้ำเติม หรือพิมพ์อะไรแบบไม่คิด
หากผมพิมพ์อะไรไม่ดีที่ทำให้บางท่างรู้สึกหงุดหงิด ได้โปรดอย่าพิมพ์ด่าลงมาเลยครับ ผมขอคนที่อยสกแชร์ทางแก้เรื่องความรู้สึกอารมณ์จริงๆ ถ้ามีใครพิมพ์ว่าไปตาย ผมก็อยากจะไปตามที่พิมพ์ครับ แต่ผมก็อยาหจะได้ทางออกที่ดีกว่านี้ ผมอยากใช้ชีวิตมีความสุขกว่านี้
ขอบคุณสำหรับท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ