ข้อมูลสถานการณ์ที่ทำให้ผมอยากลาออก
ตอนนี้รู้สึกเบื่อสภาพการเป็นอยู่ในที่ทำงาน และรู้สึกไม่อยากเปลี่ยนงาน ปัญหาหลายๆ อย่างเกิดจากบางเรื่องที่ผมเคยทำผิดในสมัยก่อน แต่มีอีกหลายๆ เรื่องมากๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เป็นการพูดต่อๆ กันไปเรื่อยๆ จริงบ้าง ไม่จริงบ้าน จริงเพียงเสี้ยวเดียวแล้วเอาไปพูดเสริมเติมแต่งหรือพูดแค่มุมที่ทำให้ตัวผมดูแย่แต่ความผิดของอีกฝ่ายจะเงียบๆ ไว้ไม่พูดถึง ทำให้ผมมีปัญหาในที่ทำงานหลายอย่าง
เพื่อนๆ น้องๆ ที่เคยคุยเล่นก็ค่อยๆ เฟดออกห่าง หรือแม้แต่เจ้าของบริษัท ก็ได้รับข้อมูลมาแบบที่ผมกล่าวไปข้างต้น แล้วก็ไม่เคยมาถามมาพูด แต่เอาเรื่องที่รับมา ไปพูดกับคนอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาผมรับรู้มาตลอด อาจจะไม่ครบทั้งหมด แต่หลายครั้งที่เรื่องมันมาเข้าถึงหูผม โดยที่ผมไม่มีโอกาสแก้ตัว หรือพูดอะไรเลย จนตอนหลังผมทนไม่ไหว เคยมีพูดบางเรื่องกับเจ้าของไป เค้าก็แปลกใจว่าเค้าก็ไม่เคยรับรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน แต่เค้าก็ไม่ได้แก้สิ่งที่เค้าเคยพูดกับคนอื่นๆ ไว้ และก็ไม่ได้ขอโทษอะไรผม ก็แค่ทำเนียนๆ คุยดีกับผมมากขึ้น แต่สังคมในที่ทำงานตอนนี้ผมก็แทบไม่เหลือใครที่คบกับผมแบบโอเคเหมือนเมื่อก่อน ส่วนมากจะเว้นระยะกับผมแทบทุกคน และหลายๆ อย่างก็จะไม่ชวนหรือเรียกผม ไปเที่ยวหรือแม้กระทั่งกินข้าวหลายๆ ครั้ง ก็จะไม่เรียกไม่ชวน
ตอนนี้คิดว่ามันอยู่ในจุดที่แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว และผมก็ไม่แคร์แล้วว่าใครจะมองผมแบบไหน จะเชื่ออะไรคนอื่นที่พูดถึงตัวผมว่าอย่างไร ผมแค่อยากลาออกแล้วไปอยู่เงียบๆ ของผม
เรื่องที่เสียดายทำให้ยังไม่ออก
1. งานของผมเป็นงานที่ตอนนี้เป็นที่ต้องการตลาดแรงงานค่อนข้างสูง รายได้ค่อนข้างดีประมาณนึง เกือบๆ 6 หลัก สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมเสียดายคิดจะออกแต่ก็เสียดายเงินเหมือนกัน
2. ส่งประกันสังคมใกล้ครบ 15 ปีซึ่งถ้าครบตอนอายุ 55 ผมจะได้บำนาญเดือนละ 3000 ไปตลอดชีวิต ผมส่งอีก 14 เดือน ผมก็จะครบแล้ว
ข้อมูลเรื่องการเงินส่วนตัวนอกจากเงินเดือน
1. ผมมีรายรับจากการลงทุนส่วนตัวของผมที่เป็นรายรับค่อนข้างแน่นอนไม่ผันผวนประมาณเดือนนึง 40k แต่เคยลดลงเหลือ 25k ช่วงนึงประมาณ 6 เดือน ตอนโควิดมาใหม่ๆ โดย 10 ปีที่ผ่านมา มีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวที่ลดลงเร็วและเยอะแบบนั้น ซึ่งเกือบจะเพียงพอกับรายจ่ายในแต่ละเดือน โดยถ้าผมออกจากงานผมหาเงินเพิ่มเดือนละ 7-10k ผมก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ติดลบ
2. ผมมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน ที่สามารถอยู่ได้โดยถ้าไม่มีรายรับอะไรเลยประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยจะอยู่ได้ประมาณ 2 ปี
แผนก่อนที่คิดจะลาออก
แผนเดิมผมจะทำงานไปอีกไม่เกิน 10 ปีผมก็จะเกษียณได้แบบสบายๆ ไม่ได้หรูแต่ก็ไม่ลำบาก
แผนที่คิดไว้หาลาออกตอนนี้
ไปค้าขายอะไรเล็กๆ น้อยๆ และรับงานมาทำที่บ้านในสายอาชีพที่ผมถนัด คาดว่าน่าจะทำได้ แต่อีกใจนึงก็กังวลเหมือนกัน เพราะผมไม่ได้รับงานเองมาประมาณ 10 ปีแล้วเหมือนกัน
ถ้าเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ จะตัดสินใจลาออกเลยมั้ยครับ หรือจะทนๆ ทำไปให้ครบตามแผน หรือมีแนวทางอื่นที่ผมอาจจะคิดไม่ถึงสามารถแนะนำได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
*** สรุปนะครับ
1. ถ้าออกตามแผนคืออีกเกือบ 10 ปี ชีวิตหลังเกษียณผมจะค่อนข้างสบาย รายรับจากเงินลงทุนของผมจะอยู่แถวๆ เดือนละ 60k คือสามารถใช้ชีวิตตาม lifestyle ของตัวเอง ได้แบบสบายๆ โดยเหลือเงินเก็บอีกประมาณ 10-20% ด้วย โดยจะทำงานเสริมหรือไม่ทำก็ได้ หรือจะทำงานอะไรที่อยากทำก็ได้ คือสามารถทำตามใจตัวเองไปได้ตลอดชีวิต จะเป็นชีวิตเกษียณที่ดีสุดๆ ในแบบที่ผมหวัง
2. ถ้าผมลาออกในอีก 14 เดือนข้างหน้า ตอนส่งประกันสังคมครบ 15 ปี รายได้จากเงินลงทุนคงไม่ได้ต่างจากเดิมซักเท่าไหร่ อย่างมากคงเพิ่มมาอีกเดือนละ 3-4 พัน ก็ยังไม่พอสำหรับใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ดี ต้องทำงานเพิ่มพอสมควรแต่ก็คิดว่าน่าจะทำได้แต่ก็กลัวคิดผิดเหมือนกัน แต่จะดีตอนอายุ 55 มีบำนาญเพิ่มมาอีกเดือนละ 3 พันไปตลอดชีวิต ถึงจะไม่เยอะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
3. ถ้าผมทนไม่ไหวลาออกภายใน 1-2 เดือนนี้ ชีวิตจะลำบากกว่ารอครบ 14 เดือนพอสมควร เพราะไม่มีเวลาเตรียมตัวเท่าไหร่ และอายุ 55 ก็ไม่ได้บำนาญ ได้แค่เงินก้อนจากประกันสังคมก้อนเดียว อย่างมากก็ประมาณ 1 แสนหน่อยๆ
ถามความเห็นเพื่อตัดสินใจลาออกจากงานครับ
ตอนนี้รู้สึกเบื่อสภาพการเป็นอยู่ในที่ทำงาน และรู้สึกไม่อยากเปลี่ยนงาน ปัญหาหลายๆ อย่างเกิดจากบางเรื่องที่ผมเคยทำผิดในสมัยก่อน แต่มีอีกหลายๆ เรื่องมากๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เป็นการพูดต่อๆ กันไปเรื่อยๆ จริงบ้าง ไม่จริงบ้าน จริงเพียงเสี้ยวเดียวแล้วเอาไปพูดเสริมเติมแต่งหรือพูดแค่มุมที่ทำให้ตัวผมดูแย่แต่ความผิดของอีกฝ่ายจะเงียบๆ ไว้ไม่พูดถึง ทำให้ผมมีปัญหาในที่ทำงานหลายอย่าง
เพื่อนๆ น้องๆ ที่เคยคุยเล่นก็ค่อยๆ เฟดออกห่าง หรือแม้แต่เจ้าของบริษัท ก็ได้รับข้อมูลมาแบบที่ผมกล่าวไปข้างต้น แล้วก็ไม่เคยมาถามมาพูด แต่เอาเรื่องที่รับมา ไปพูดกับคนอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาผมรับรู้มาตลอด อาจจะไม่ครบทั้งหมด แต่หลายครั้งที่เรื่องมันมาเข้าถึงหูผม โดยที่ผมไม่มีโอกาสแก้ตัว หรือพูดอะไรเลย จนตอนหลังผมทนไม่ไหว เคยมีพูดบางเรื่องกับเจ้าของไป เค้าก็แปลกใจว่าเค้าก็ไม่เคยรับรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน แต่เค้าก็ไม่ได้แก้สิ่งที่เค้าเคยพูดกับคนอื่นๆ ไว้ และก็ไม่ได้ขอโทษอะไรผม ก็แค่ทำเนียนๆ คุยดีกับผมมากขึ้น แต่สังคมในที่ทำงานตอนนี้ผมก็แทบไม่เหลือใครที่คบกับผมแบบโอเคเหมือนเมื่อก่อน ส่วนมากจะเว้นระยะกับผมแทบทุกคน และหลายๆ อย่างก็จะไม่ชวนหรือเรียกผม ไปเที่ยวหรือแม้กระทั่งกินข้าวหลายๆ ครั้ง ก็จะไม่เรียกไม่ชวน
ตอนนี้คิดว่ามันอยู่ในจุดที่แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว และผมก็ไม่แคร์แล้วว่าใครจะมองผมแบบไหน จะเชื่ออะไรคนอื่นที่พูดถึงตัวผมว่าอย่างไร ผมแค่อยากลาออกแล้วไปอยู่เงียบๆ ของผม
เรื่องที่เสียดายทำให้ยังไม่ออก
1. งานของผมเป็นงานที่ตอนนี้เป็นที่ต้องการตลาดแรงงานค่อนข้างสูง รายได้ค่อนข้างดีประมาณนึง เกือบๆ 6 หลัก สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมเสียดายคิดจะออกแต่ก็เสียดายเงินเหมือนกัน
2. ส่งประกันสังคมใกล้ครบ 15 ปีซึ่งถ้าครบตอนอายุ 55 ผมจะได้บำนาญเดือนละ 3000 ไปตลอดชีวิต ผมส่งอีก 14 เดือน ผมก็จะครบแล้ว
ข้อมูลเรื่องการเงินส่วนตัวนอกจากเงินเดือน
1. ผมมีรายรับจากการลงทุนส่วนตัวของผมที่เป็นรายรับค่อนข้างแน่นอนไม่ผันผวนประมาณเดือนนึง 40k แต่เคยลดลงเหลือ 25k ช่วงนึงประมาณ 6 เดือน ตอนโควิดมาใหม่ๆ โดย 10 ปีที่ผ่านมา มีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวที่ลดลงเร็วและเยอะแบบนั้น ซึ่งเกือบจะเพียงพอกับรายจ่ายในแต่ละเดือน โดยถ้าผมออกจากงานผมหาเงินเพิ่มเดือนละ 7-10k ผมก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ติดลบ
2. ผมมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน ที่สามารถอยู่ได้โดยถ้าไม่มีรายรับอะไรเลยประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยจะอยู่ได้ประมาณ 2 ปี
แผนก่อนที่คิดจะลาออก
แผนเดิมผมจะทำงานไปอีกไม่เกิน 10 ปีผมก็จะเกษียณได้แบบสบายๆ ไม่ได้หรูแต่ก็ไม่ลำบาก
แผนที่คิดไว้หาลาออกตอนนี้
ไปค้าขายอะไรเล็กๆ น้อยๆ และรับงานมาทำที่บ้านในสายอาชีพที่ผมถนัด คาดว่าน่าจะทำได้ แต่อีกใจนึงก็กังวลเหมือนกัน เพราะผมไม่ได้รับงานเองมาประมาณ 10 ปีแล้วเหมือนกัน
ถ้าเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ จะตัดสินใจลาออกเลยมั้ยครับ หรือจะทนๆ ทำไปให้ครบตามแผน หรือมีแนวทางอื่นที่ผมอาจจะคิดไม่ถึงสามารถแนะนำได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
*** สรุปนะครับ
1. ถ้าออกตามแผนคืออีกเกือบ 10 ปี ชีวิตหลังเกษียณผมจะค่อนข้างสบาย รายรับจากเงินลงทุนของผมจะอยู่แถวๆ เดือนละ 60k คือสามารถใช้ชีวิตตาม lifestyle ของตัวเอง ได้แบบสบายๆ โดยเหลือเงินเก็บอีกประมาณ 10-20% ด้วย โดยจะทำงานเสริมหรือไม่ทำก็ได้ หรือจะทำงานอะไรที่อยากทำก็ได้ คือสามารถทำตามใจตัวเองไปได้ตลอดชีวิต จะเป็นชีวิตเกษียณที่ดีสุดๆ ในแบบที่ผมหวัง
2. ถ้าผมลาออกในอีก 14 เดือนข้างหน้า ตอนส่งประกันสังคมครบ 15 ปี รายได้จากเงินลงทุนคงไม่ได้ต่างจากเดิมซักเท่าไหร่ อย่างมากคงเพิ่มมาอีกเดือนละ 3-4 พัน ก็ยังไม่พอสำหรับใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ดี ต้องทำงานเพิ่มพอสมควรแต่ก็คิดว่าน่าจะทำได้แต่ก็กลัวคิดผิดเหมือนกัน แต่จะดีตอนอายุ 55 มีบำนาญเพิ่มมาอีกเดือนละ 3 พันไปตลอดชีวิต ถึงจะไม่เยอะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
3. ถ้าผมทนไม่ไหวลาออกภายใน 1-2 เดือนนี้ ชีวิตจะลำบากกว่ารอครบ 14 เดือนพอสมควร เพราะไม่มีเวลาเตรียมตัวเท่าไหร่ และอายุ 55 ก็ไม่ได้บำนาญ ได้แค่เงินก้อนจากประกันสังคมก้อนเดียว อย่างมากก็ประมาณ 1 แสนหน่อยๆ