คือมีอยู่ว่าเราอาศัยกับสามี และเขาก็เป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง พอวันหนึ่งเรามีเงินก้อนหนึ่ง และตกลงกับพี่ชายของเราว่าจะเอาเงินนั้นทำธุรกิจบางอย่าง แต่ก่อนที่พี่ชายเราจะเริ่มทำธุรกิจให้เราและสามี เราก็ทำงานง้กๆ ส่งเสียที่บ้านให้พ่อแม่ จนบางทีเราไม่มีเวลาเรียนกันเลยทีเดียว จนตอนนี้พอพี่ชายเริ่มทำเงินให้เราจากธุรกิจ จนทำให้เราไม่ต้องไปทำงานง้กๆอีกแล้ว และทำให้เรากับสามีมีเงินมากขึ้น จากเมื่อก่อนเราอยู่กันสองคน แต่มันก็มีเหตุผลบางอย่างทำให้ เราและสามีกับครอบครัวเขา (พ่อ แม่ และน้องชาย) ต้องมาอยู่รวมกัน พ่อแม่เขาดีค่ะ แต่บางครั้งเราก็ไม่ชิน แบบเราอยากอยู่เป็นส่วนตัวกับสามี จนบางครั้งมันทำให้เราไม่มีความสุข สามีเป็นคนรักแม่มาก จนบางครั้งยอมทำทุกอย่าง จนบางทีเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน และตอนนี้เรากับสามีอยากย้ายไปอยู่ที่แห่งหนึ่งซึ่งมันแพงมาก และพาครอบครัวเขาไปด้วย ซึ่งสามีอยากไห้เงินที่พี่ชายทำธุรกิจมาให้ อยากเอาเงินตรงนั้นมาใช้จ่ายค่าเช่า ค่าต่างๆที่จะใช้สำหรับที่อยู่ใหม่ ซึ่งพูดตรงๆเลยค่ะ ว่าเราอยากให้เงินที่มาจากการทำธุรกิจเป็นของเราบางส่วนค่ะ จนวันนี้สามีพูดขึ้นมาว่า เราควรที่จะโฟกัสแต่เรื่องเรียน และเหมือนว่าเราไม่ควรมีส่วนได้อะไรเลยจากเงินที่มาจากธุรกิจ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรเลย ในความคิดเราคือ เงินนั้นมาจากการทำธุรกิจ ที่พี่ชายเราเป็นคนจัดการทำทุกอย่าง มันเลยทำให้เราคิดว่าเงินนั้นมันสมควรเป็นของเราส่วนหนึ่ง จนสามีพูดขึ้นมาวันนี้ว่าเราไม่ควรที่จะมีส่วนตรงนี้ด้วยซ้ำ ตั้งใจเรียน และรอวันที่เราเรียนจบมีการงานทำ จนถึงวันนั้นเราค่อยมีเงิน ตอนเขาเรียนเขาก็ไม่มีเงิน ทำไมเราถึงต้องมีเงิน เราเลยบอกว่าเราไม่อยากซื้อไรทีก็ต้องขอเขา เราอยากมีเงินเป็นของตัวเอง พอแม่เขาไม่มีเงิน เขาจะทำทุกอย่าง เพื่อให้แม่เขาสบายใจ เพราะแม่เขาจะสบายใจเมื่อมีเงิน มันทำให้เรารู้สึกด้อยค่า รู้สึกว่าเขารักเราไม่มากพอ จนเราอยากทิ้งทุกอย่างตรงนี้ และออกไปทำงาน ไปเรียน ไปพึ่งตัวเอง แม้จะลำบากหน่อย แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องมามีใครมาขีดเส้นว่าเราควรอยู่จุดไหน หรือเราควรทำความเข้าใจว่าเงินนี้มันไม่ใช่ของเรา มันคือของสามี เงินสามีไม่ใช่เงินเรา เราไม่มีส่วน ตั้งใจเรียนต่อไปเพื่ออนาคต อดทนต่อไป
ไปไม่ถูก ไม่รู้ว่าเราเข้าใจผิด หรือเข้าใจถูก สมควรจะไปต่อยังไงดี