ตรรกะที่ว่าปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะให้ค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นมายาคติของชนชั้นกลางที่ไม่เคยเข้าใจชนชั้นแรงงาน

หลังโควิด ประเทศอื่นขึ้นค่าแรงกันอย่างน้อย 20-30 % บางประเทศทำชั่วโมงเดียวมากกว่า ประเทศไทยทั้งวัน แต่ราคาของกินของใช้ แพงกว่าอย่างมากก็ 2-3 เท่า ส่วนสินค้าอื่นๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ แทบจะเท่ากัน หรือ ถูกกว่า แปลว่า ประเทศไทยสามารถขึ้นค่าแรงได้มากกว่านี้สัก 2 เท่าตัวโดยที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจาก มันแพงเกินความเป็นจริงมานานแล้ว กำไรของนายทุนมากเกินไปแล้ว ความเหลื่อมล้ำถึงเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงหลังๆ  แต่สิ่งที่รัฐต้องทำคือ การใช้กลไกรัฐควบคุม ตรวจสอบ ตั้งเพดานราคา ทำให้ค่าแรงสัมพันธ์กับค่าครองชีพ อย่าให้ กลไก มือที่มองไม่เห็น ทำงานด้วยตัวของมันเอง เพราะคนตัวเล็กตัวน้อย มักเสียเปรียบเสมอ 

 
ค่าแรงขั้นต่ำไทยล่าสุด ขึ้นมา 5 % ซึ่งแทบไม่ได้ช่วยอะไร Real wage ตั้งแต่ขึ้นค่าแรงเป็น 300 น่าจะติดลบไปอย่างน้อยๆ 20 % สวนทางกับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ปี ละ 2-3 % ด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเอาเงินเฟ้อกับ GDP มาคำนวณ ค่าแรงที่แท้จริงตอนนี้ น่าจะราวๆ 600-700 บาท โดยที่ราคาสินค้าจะเท่าเดิม แต่ ความมั่งคั่งของคนรวยจะน้อยลง ตรงนี้ คือ โจทย์ที่รัฐบาลต้องแก้ไข คือทำยังไง ให้ คนรวย รวยน้อยลง ให้ ชนชั้นแรงงาน เกษตรกร ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ใช่คิดแต่ว่า กลัวนักลงทุนจะย้ายฐานหนี กลัวชนชั้นกลางจะไม่พอใจ ถ้าชนชั้นล่างขึ้นมาตีตัวเทียบเท่าตน แล้วก็ออกมาปิดถนนประท้วงเหมือนที่เคยทำอีก

ส่วนข้ออ้าง ที่ว่า เพราะประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยี  ไม่มีสินค้าส่งออกแพงๆเป็นของตัวเอง เลยทำให้ค่าแรงได้เท่านี้ ก็พอเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ค่าแรงตอนนี้ ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไร  แม้แต่ กับเศรษฐกิจที่ไม่มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ค่าแรงมันควรจะสูงกว่านี้ 

ประสบการ์ณจริง คือ เคยเจอ ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย แล้วสงสัยว่า ค่าห้องพักรีสอร์ท 5 ดาว คืนหลายหมื่น แต่ ลูกจ้างโรงแรม ต้องทำงานราวกับทาส แลกเงินเดือนหมื่นต้นๆ กินแค่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสลับเครื่องดื่มชูกำลัง  นี่คือจุดมืดบอดเล็กๆ ของสังคมไทย ที่ ชนชั้นกลางไทยส่วนใหญ่ เลือกที่จะเพิกเฉย ignorance และคิดว่า เป็นเรื่องที่ยอมรับได้  

แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
มันมีผลแน่ๆ
คิดง่ายๆผมเป็นพ่อค้า มีลูกจ้าง 2-3 คน พอขึ้นค่าแรงทีนึง ผมก็ต้องขึ้นให้ลูกน้อง กำไรผมก็ลดลง ผมก็ต้องไปขึ้นราคาขาย
คนมาซื้อของผม ก็ต้องจ่ายเพิ่ม ยังงี้ไม่เรียกค่าครองชีพเพิ่มเหรอ

ไอ้ตัวอย่างพนักงานโรงแรมที่บอกเงินเดือนน้อย เขาน้อยจริง แต่เขามีเซอร์วิสชาร์จกินด้วย
คุณหยิบยกแต่ตัวอย่างด้านเดียว ผมก็ยกตัวอย่างบ้าง
เดือนที่แล้วข่าวที่โรงแรมภูเก็ตจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จให้พนักงานคนละเกือบ 8 หมื่นในเดือนเดียวล่ะ คืออะไร ?
ความคิดเห็นที่ 1
แปลว่า ประเทศไทยสามารถขึ้นค่าแรงได้มากกว่านี้สัก 2 เท่าตัวโดยที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก .... จริงเหรอครับ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่