[CR] * * * หนึ่งวันวุ่นๆกับการทำรถ Nissan Pulsar เคาะบุบ / เคลมประกัน / ฟิล์ม * * *

เช็คระยะ ที่ไม่น่าจะมีอะไร .. แต่มี

เริ่มมาจาก อุบัติเหตุ ตอนปีใหม่ .. สัปดาห์ที่แล้ว ก็เอารถเข้าอู่นอกนิสสัน (อู่ช่างหวาน)
- ถ่ายน้ำมันเครื่อง (น้ำมันเครื่อง กับ กรอง หิ้วไปเอง)
- เช็ค เสียงดัง จากล้อหน้าขวา ตอนเบรค (คาดว่า ลูกปืนล้อ)
- เช็ค เสียงดังบางครั้ง เวลาขึ้นลูกระนาด ทางหน้าซ้าย


พอเอารถขึ้นลิฟท์ได้ ช่างก็ยิ้มเลย พร้อมหันมาผม "พี่ครับ แร็คดังครับ" .. พร้อมกับโยกให้ดู เป็นแขนแร็คหน้าซ้าย แกนด้านในสึก ที่สำคัญคือ "รุ่นเทอร์โบ ใช้แร็ค คนละตัวกับรุ่นปกติครับ พี่จำ sylphy turbo คันที่คว่ำ ตอนพี่มาปีที่แล้วได้ไหม ? ป่านนี้ยังไม่ได้แร็คเลยครับ" .. แถมยังบอกให้ใจชื้นอีกว่า "พวก Juke นี่ก็พังประจำ 3 หมื่น ไม่มีของเหมือนกันครับพี่" อืมมม

อ้ายยย เวรรรร ... ได้แต่บอก เจ้าของอู่ว่า เช็คให้ก่อนละกัน ไม่มีของอยู่แล้วล่ะ แต่ให้สั่งเลย ติด back order ไว้ แล้วแจ้งหน่อยว่า ของจะเข้าเมื่อไหร่ ? (ล่าสุด ได้รับแจ้งว่า ประมาณกุมภา แต่ยังไม่เฟิร์มราคา)

พอเจอแร็ค จากที่จะให้เปลี่ยนลูกปืนล้อเลย ก็ขอเบรค เพราะขี้เกียจตั้งศูนย์หลายรอบ .. ให้ช่างช่วยกันปั่นล้อ ช่างก็บอกว่า ฟังไม่ชัด เอางี้ ทำความสะอาดเบรคไปก่อนไหม ? ถ้าไม่หาย ก็ค่อยกลับมาเปลี่ยนพร้อมแร็ค จะได้ตั้งศูนย์ครั้งเดียว (ยังไงรถมันไปไหนไกลไม่ได้อยู่ละ) .. ก็ตามนั้น

ทำเสร็จแบบงงๆ กับค่าแรง 450 บาท 55+

แต่ตามคาด เสียงดังตอนเบรค ไม่หายครับ .. พอเบรคแรงหน่อย หน้าทิ่ม มันจะมีเสียงลูกปืนล้อแตก หึ่งๆๆๆ ดังขึ้นมาแหละ .. อาการนี้ CR-V เป็นมาก่อนครับ (รายนั้นศูนย์ HONDA ก็ไม่เจอ แต่ผมสั่งเปลี่ยนแล้วจบ)

รถ 5.7 หมื่นกม. .. แร็คพวงมาลัยหลวม / ฝาบนหม้อน้ำเปลี่ยนสีหมดสภาพ / ลูกปืนล้อแตก .. รถดีครับ รถดี .. สำคัญคือ มีเงิน ก็ไม่มีอะไหล่ให้ซื้อครับ จอดไปยาวๆ

...................
เคาะบุบ กับ ไสวมือเทพ
จากอุบัติเหตุ เมื่อตอนปีใหม่ เลยนัดวันไปให้ช่างจัดการให้หน่อย .. วันเสาร์ ช่างอยู่ที่ Car Magic แบริ่ง ครับ ไปถึงก่อนช่างตามเคย สักพักช่างมา มองประตูแล้วก็ร้องโอ้โห !!!

ช่างบอกว่า .. มันบุบเป็นคลื่นทั้งบาน แถมดันด้านล่างปูด  ถ้าจะเคาะก็ .. ขอเวลา 4 - 5 ช.ม. ที่ไม่ใช่วันเสาร์ (เพราะลูกค้าเยอะ) ต้องถอดแผงประตู เคาะไล่ ซึ่งก็จะได้ประมาณ 90% ช่างบอกให้ลองพิจารณาดูว่า จะซ่อม หรือ เคลมประกัน


งั้น ที่เหลือว่าไปก่อนละกัน แก้มหน้าซ้าย / ประตูหลังซ้าย และ แถมหลังคา ที่โดนกิ่งไม้หล่นใส่ด้วย ครับ

บังโคลนหน้าซ้าย .. เริ่มได้ (มองผ่านๆคิดว่า นิดเดียว พอไฟส่อง ดันเยอะ เป็นชิ้นที่งัดนานที่สุด)

ทำเสร็จ ก็จะกริ๊บๆแบบนี้แหละ

ต่อด้วย ประตูหลังซ้าย .. อันนี้ ช่างบอก สบายๆ สอดเครื่องมือ เข้าทางรูสายไฟครับ

สุดท้าย บอกช่าง ดูหลังคาให้หน่อย .. นึกว่า ต้องรื้อเยอะ แบบ CR-V (รายนั้น ผมยกตู้ไปกระแทกเอง รื้อเยอะเลย) ช่างมองแล้ว บอก .. อันนี้ แผลผิวๆ เดี๋ยวเคาะไล่เอา ไม่ต้องรื้อ

เอิ่มมม 5 นาทีเสร็จ .. ผมยืนงงตรงนั้นแหละ ส่องแล้ว ส่องอีก มันหายจริงๆนะ


เบ็ดเสร็จ จบภายในสัก 30 - 40 นาทีครับ 3 ชิ้น กับ ค่าใช้จ่าย 2,000 บาท คุ้มกว่าทำสีแยะ (ราคาแล้วแต่ความยากง่ายนะครับ เพราะตอน CR-V หลังคาชิ้นเดียวก็ 3,500 บาทนะ .. อันนั้นรื้อเยอะ)

....................
ทิ้งใบเคลม SMT ศรีนครินทร์

- รถผม ปีนี้ปีแรก ที่เป็นซ่อมอู่ แต่ยังรักที่จะเข้าศูนย์ครับ ไม่รู้สิ ตอนใช้ Mazda 2 / Optra อู่ไหนที่เค้าว่าดี ซ่อมออกมา ไม่ได้ครึ่งของศูนย์เลยครับ .. ก็เอาใบเคลมไปทิ้งไว้ก่อน

- ทีแรก พี่ที่มารับเรื่อง มองประตูหน้า แล้วบอกว่า .. เคาะได้สบายมาก .. เลยบอกพี่เล็งดีๆ พอเล็งปุ๊บ เค้าบอก "โอเค เปลี่ยนประตู เคาะไม่ได้" ซึ่งก็ไปลุ้นเอาว่า จะมีอะไหล่ให้เบิกไหม ?

แต่ใจผม ไม่อยากซ่อมสี หรือ เปลี่ยนประตูหรอก เพราะถ้าทำ ผมต้องรื้อลำโพง รื้อสายลำโพงทั้งหมด ยังไม่รวมเปลี่ยนประตูเสร็จ รถผม damp นอก damp ใน และเจาะประตูเลื่อนตำแหน่งลำโพงด้วยนะ งานช้างสุรินทร์เลย ค่าใช้จ่ายบานอีก

แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทิ้งไว้ก่อน แล้วค่อยมาคิดอีกทีว่า จะเคาะบุบ หรือ เปลี่ยนประตูดี เพราะผมว่า ค่าใช้จ่ายเคาะบุบที่จ่ายเอง น่าจะถูกกว่า ยังไง เดือนนี้ ไม่มีคิวเอา pulsar ลง กทม แล้วล่ะ รอไป กุมภา / มีนา นู่นเลย

...................
เปลี่ยนฟิล์มใหม่ รอบที่สาม

- คันนี้ เป็นรถที่เปลี่ยนฟิล์มบ่อยมา รถ 5 ปี เปลี่ยนฟิล์มรอบนี้รอบที่ 3 ละ

รอบแรก .. Huper Optik H30 / H20 .. สายตาผม ไม่ไหวครับ มืดไป วิ่งแถวประจวบกลางดึก มองไม่เห็นทาง

รอบสอง .. 3M Crystalline C50 / C40 .. ใส เคลียร์ แต่ทำไมมันกันร้อนสู้ CR-V ที่ติดรุ่นเดียวกันไม่ได้ กลายเป็นว่า จ่ายเพิ่มจาก Huper 2 เท่า แต่กันร้อนดีกว่า Huper สัก 10% เอง 
- ที่สำคัญ คนที่บ้าน นั่ง Pulsar กลางวันทีไร บ่นทุกทีว่า ร้อนขา

รอบสาม .. รอบนี้แหละ จองไว้ตอน Motor Expo ปลายปี กะเอา ช้อปดีมีคืน แหละ (ซึ่งจริงๆจะบอกว่า ถ้าไม่ได้จองเปลี่ยนฟิล์มไว้ .. เผลอๆผมขายรถคันนี้ทิ้งนะ รำคาญมาก)

- เลือกเบอร์เดียวกับ CR-V นั่นคือ บานหน้า VK40 ใสๆ รอบคัน VK10 ที่ลองใน CR-V มาหลายรอบแล้วว่า แม้ถนนไม่มีไฟ ไม่มีรถบนถนนเลย ผมก็มองกระจกมองข้างเห็น และมันก็กันร้อนดีกว่า VK30 ใน City อีกนิดนึง

- รอบนี้ ย้ายจาก VK สนญ. มาที่ T4 BKK ใกล้ๆกัน ย้ายตามคนขายแหละ


- ส่วนไล่ฝ้า แม้เปลี่ยนฟิล์มรอบที่สาม ก็ยังมีชีวิตรอดครับ

- ติดเสร็จ ถ่ายรูปในห้องติด .. มันก็จะดำๆดุๆ แบบนี้แหละ .. แต่จริงๆ ออกแดด บานข้างก็ยังมองทะลุนะครับ

สนนราคา 30,500 บาท (ถ้าไม่ใช่ VK10 ก็จะถูกกว่า 2,500 บาท)

- ช่างแอบบ่นว่า กระจกหน้า Pulsar ติดยาก เพราะมันโค้งเยอะ (ซึ่งก็ยืนดูเค้าไล่อยู่นานมากแหละ)

เรื่องการใช้งาน
- ก็คุ้นเคยจากใน CR-V อยู่ละ ไม่มีปัญหา เนื้อฟิล์มใส เคลียร์ ตามราคาของมัน (ยังมีคราบน้ำเหลือพอสมควร ต้องตากแดดเยอะๆ)
- ขับออกมา ตอนบ่ายสี่ เย็นกว่าขาเข้ามาตอนสิบโมงเช้าเสียอีก
- กลับมาปราจีน จับจอดตากแดดหน้าบ้าน เพื่ออัพ FW เอ๊ยย เพื่อให้ฟิล์มแห้ง ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง บ่ายโมง เปิดประตูเข้าไป สบายๆ เย็นกว่า 2 ตัวที่ติดมาชัดเจน

................

อาทิตย์หน้า จะพา Tein Endurapro ใน CR-V G3 ไปซ่อมที่ ATP ครับ อายุสั้นจุง (2 ปีกว่า เกือบๆ 5 หมื่นกม.เอง ข้างหลังเด้งเป็น Vigo เลย)

ปล. Forester ที่ใส่สปริง RS*R (สูงเท่าเดิม) กับโช้ค Tein Endurapro Plus ปรับ 6 - 6 ฟิลลิ่งดี๊ดีๆ นุ่ม กระชับ ไม่กระด้าง ไม่บอกก็ไม่รู้ว่า ใส่โช้คสปริงแต่ง สายพ่อบ้านน่าจะถูกใจ
ชื่อสินค้า:   V-Kool VK10
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่