เหตุเกิดจาก .. เช็คระยะช่วงต้นมกรา (ปกติ เช็คปีละครั้ง) ก็บอกช่างว่า ดูให้หน่อย มีเสียงดังเบาๆเวลาขึ้นลูกระนาด ฝั่งหน้าซ้าย ช่างยกขึ้นมา .. นี่ไงเพ่ แขนแร็คหลวม เอามือโยกก็ดังแล้ว อ้าววว
แน่นอน ทางเลือกไม่มีครับ เพราะยุคก่อนตอน CR-V G3 ที่พังกันเยอะๆนั้น ส่งซ่อมกัน 9 พัน อู่ดัง ก็ไม่จบ ใช้ได้ปีเดียวก็ดังอีก (ยกเว้น จะย้อมเพื่อขายรถก็อีกเรื่อง)
ดังนั้น ยังไงก็ต้องสั่ง .. แต่ประเด็นคือ ไม่มีของ ไม่มีอะไหล่ครับ เป็น Part คนละตัวกับรุ่นปกติครับ ก็ให้อู่สั่งไป (อู่ก็สั่งศูนย์นิสสัน อีกทอดนึง) ของเข้ามาราวๆกลางกุมภา ครับ
................
เมื่อวานนี้ (26 กุมภา) ก็เลยได้ฤกษ์ไปจัดการสักที .. ข้อดีของการเข้าอู่ก็คือ พวกเปิดวันอาทิตย์ แหละ
และแน่นอน ไปอู่ไหน ร้านไหน จะไปรอก่อนเค้าเปิดทุกทีแหละ จะได้ ได้ทำเลย คิวแรก

อู่ที่ทำก็ อู่ช่างหวาน แถวสรรพาวุธ ครับ
จริงๆอู่นิสสัน เยอะนะครับ แทบทุกมุมเมือง ก็แล้วแต่สะดวก หรือ สนิทกับใครแหละ ส่วนผม เข้าอู่นี้ตั้งแต่ออกรถละ .. เหตุผล ตอนนั้นที่เลือก เพราะ ทัก chat ไปแล้วเค้าตอบ และทนความเยอะของผมได้ 55+

การรื้อ ก็ ถอดชุดแพหน้าลงมาทั้งหมดครับ รื้อเยอะพอสมควร แต่ช่างเค้ารื้อบ่อยละ เพราะไม่เกินแสนกม. pulsar/ sylphy ได้เปลี่ยนแพหน้าแทบทุกคัน บู๊ชมันฉีกครับ (5 - 6 พันบาท)

ถอดลงมาก็เจอ ลูกหมากแขนแร็ค ด้านขวา ยางหุ้มขาดด้วย .. ทีแรกก็ตกใจ เพราะตอน CR-V อะไหล่ลูกหมากแขนแร็คต้องเบิกแยก แต่ Pulsar มาพร้อมกันกับแร็คครับ (ว่าแต่ ไหง ขาดเร็วจังฟะ)

อันนี้คือ ชุดแพหน้า ยกลงพร้อม แร็คพวงมาลัย / ปีกนก / เหล็กกันโคลง ครับ

แพหน้าเดิม ถอดมาล้างทำความสะอาด แล้ว ยกขึ้นครับ กินเวลาสัก 2 ช.ม. ถือว่า เร็วมาก

เช็คสภาพช่วงล่าง รายการอื่นยังแน่น ยังปกติครับ .. ก็จะมีเพิ่มเติมให้ช่างเปลี่ยนคือ ลูกปืนล้อคู่หน้า ครับ
อาการคือ .. ขับสัก 80 - 100 แล้วเบรคค่อนข้างแรง จะมีเสียง+สั่นฟืดๆๆๆๆมาจากหน้ารถ ลองถอดผ้าเบรคมาทำความสะอาดในรอบก่อนแล้ว ไม่หายครับ ดังนั้น เหลือแต่ลูกปืนล้อแหละ (วิ่งปกติไม่ดัง)

เบ็ดเสร็จ
1. ค่าใช้จ่าย
- แร็คพวงมาลัย + ค่าแรง 29,500 บาท
- ลูกปืนล้อ + ค่าแรง ซ้าย / ขวา 5,400 บาท
2. อาการเบรคแล้วดัง ฟืดๆๆๆ จากหน้ารถหายไปละ แต่ดันมีมาจากข้างหลังแทน .. ไว้ก่อนละกันเนอะ โดนไปเกือบแสนละ กับ รถคันนี้
3. ระยะเวลา .. เข้าซ่อมราวๆ 10 โมงเช้า เสร็จแถวๆ บ่ายโมง ครับ ช่างทำคนเดียว มีผู้ช่วยนิดหน่อยตอนยกชุดแพ กับ เจ้าของอู่ มา QC เช็คทอร์ค ทุกจุด ก่อนเอารถลงจากลิฟท์ ครับ
4. เหลือตั้งศูนย์ล้อใหม่ครับ วันนี้ร้านปิด
- อาการตอนขับ รู้สึกชัดเจนว่า ช่วงล่างแน่นขึ้น กระชับขึ้น (ทั้งที่ก่อนหน้า ก็ไม่ได้รู้สึกว่า ช่วงล่างมีปัญหานะ)
......................
ซ่อมจอวิทยุด่าง
เป็นเจ้า JVC AVX-44 ที่ติดมาตอนออกรถใหม่ๆ และ ตอนหลังได้ Clarion HX-D2 เลยปลดระวางเจ้านี่ มาไว้เป็นจอดูตอนถอยหลัง (จอ 3 นิ้วในตัว) หลังๆ จอมันด่างๆ (แต่ยังมองเห็นภาพนะ) ซึ่งว่าไม่ได้ เพราะนับอายุที่มันผลิตก็เกิน 20 ปีนะ

จัดการให้ พี่เต้า Mock Up ถอดส่งซ่อมครับ มีร้านรับซ่อมอยู่ (ถ้าส่งศูนย์ก็เปลี่ยนทั้งจอ ซึ่งไม่น่ามีอะไหล่แล้ว) รอซ่อมสัก 2 อาทิตย์ ก็กลับไปใส่ ก็ใช้งานได้ปกติครับ แถมรู้สึกชัดกว่าเดิมด้วย (หรือมันเสื่อมมาแต่แรกก็ไม่รู้) เพราะปกติ กล้องติดรถรุ่นนี้ ภาพมันแย่มาก
ภาพข้างล่าง ตอนถอยรถเข้าบ้าน ไม่ได้เปิดไฟที่จอดรถนะครับ มืดสนิท ได้มาขนาดนี้ ถือว่า แจ๋ว ละ

เผื่อเป็นไอเดีย ใครมี front แล้วจอมันด่าง สามารถซ่อมได้แล้วนะครับ
ปล. ปกติ CR-V ไม่มีกล้อง ไม่มีเซนเซอร์ ก็ขับได้ จอดที่แคบ จอดระหว่างคัน ก็ขับได้ .. แต่พอเป็น Pulsar ถอดกล้องออกปุ๊บ เหมือนคนตาบอด ความมั่นใจหายเลย ถอยทีต้องเปิดประตูชะโงกไปมอง หรือ บางที ดึงเบรคมือ แล้วลงไปดูท้ายด้วยซ้ำ
หมดละ หวังว่า จะไม่ต้องยุ่งอะไรกับรถอีกนะ
ปล. (อีกที) เมื่อวาน
พ่อโทร.มาถามว่า : รถซ่อมเสร็จยัง โดนไปเท่าไหร่
พอบอกไป
พ่อตอบกลับมาว่า : ถ้ามันพังอีก ก็ขายแม่มทิ้งเลย ไอรถคันนี้ (จริง พอเซ็ททุกอย่างลงตัว รถคันนี้ขับสนุกนะ ด้วยเครื่อง ด้วยช่วงล่าง)
เลยบอกไปว่า : ถ้าขาย Pulsar ก็ต้องเปลี่ยนเป็น BRZ / ถ้าขาย CRV ก็ต้องเปลี่ยนเป็น Outback .. แต่ตอนนี้ ไม่มีสักบาท ใช้ไปก่อนละกัน 55+
อ้อ .. มีเรื่องแป้นเบรคแข็ง หลังจอดแค่ 20 นาที ถ้า ผญ ขับ ไม่น่าจะกดเบรค เพื่อสตาร์ทรถได้ อันนี้ก็ปัญหาคลาสสิค เป็นยัน X-Trail หม้อลมเบรคยกลูกก็ 2 หมื่นกว่า ยังไม่หนักเท่า Pulsar DIG รื้อยากมาก ถามช่าง ช่างร้องเลย (บอกตัว 1.8 ยังยากเลยเพ่ กว่าจะเอาออกมาได้ ถ้า DIG น่าจะติดเทอร์โบอีก) งั้น รอจนทนไม่ไหวก่อนละกัน
* * * พารถ Pulsar DIG วิ่ง 58,XXX กม. เปลี่ยนแร็ค ราคาเกือบ 30,000 บาท มา ครับ * * *
แน่นอน ทางเลือกไม่มีครับ เพราะยุคก่อนตอน CR-V G3 ที่พังกันเยอะๆนั้น ส่งซ่อมกัน 9 พัน อู่ดัง ก็ไม่จบ ใช้ได้ปีเดียวก็ดังอีก (ยกเว้น จะย้อมเพื่อขายรถก็อีกเรื่อง)
ดังนั้น ยังไงก็ต้องสั่ง .. แต่ประเด็นคือ ไม่มีของ ไม่มีอะไหล่ครับ เป็น Part คนละตัวกับรุ่นปกติครับ ก็ให้อู่สั่งไป (อู่ก็สั่งศูนย์นิสสัน อีกทอดนึง) ของเข้ามาราวๆกลางกุมภา ครับ
................
เมื่อวานนี้ (26 กุมภา) ก็เลยได้ฤกษ์ไปจัดการสักที .. ข้อดีของการเข้าอู่ก็คือ พวกเปิดวันอาทิตย์ แหละ
และแน่นอน ไปอู่ไหน ร้านไหน จะไปรอก่อนเค้าเปิดทุกทีแหละ จะได้ ได้ทำเลย คิวแรก
อู่ที่ทำก็ อู่ช่างหวาน แถวสรรพาวุธ ครับ
จริงๆอู่นิสสัน เยอะนะครับ แทบทุกมุมเมือง ก็แล้วแต่สะดวก หรือ สนิทกับใครแหละ ส่วนผม เข้าอู่นี้ตั้งแต่ออกรถละ .. เหตุผล ตอนนั้นที่เลือก เพราะ ทัก chat ไปแล้วเค้าตอบ และทนความเยอะของผมได้ 55+
การรื้อ ก็ ถอดชุดแพหน้าลงมาทั้งหมดครับ รื้อเยอะพอสมควร แต่ช่างเค้ารื้อบ่อยละ เพราะไม่เกินแสนกม. pulsar/ sylphy ได้เปลี่ยนแพหน้าแทบทุกคัน บู๊ชมันฉีกครับ (5 - 6 พันบาท)
ถอดลงมาก็เจอ ลูกหมากแขนแร็ค ด้านขวา ยางหุ้มขาดด้วย .. ทีแรกก็ตกใจ เพราะตอน CR-V อะไหล่ลูกหมากแขนแร็คต้องเบิกแยก แต่ Pulsar มาพร้อมกันกับแร็คครับ (ว่าแต่ ไหง ขาดเร็วจังฟะ)
อันนี้คือ ชุดแพหน้า ยกลงพร้อม แร็คพวงมาลัย / ปีกนก / เหล็กกันโคลง ครับ
แพหน้าเดิม ถอดมาล้างทำความสะอาด แล้ว ยกขึ้นครับ กินเวลาสัก 2 ช.ม. ถือว่า เร็วมาก
เช็คสภาพช่วงล่าง รายการอื่นยังแน่น ยังปกติครับ .. ก็จะมีเพิ่มเติมให้ช่างเปลี่ยนคือ ลูกปืนล้อคู่หน้า ครับ
อาการคือ .. ขับสัก 80 - 100 แล้วเบรคค่อนข้างแรง จะมีเสียง+สั่นฟืดๆๆๆๆมาจากหน้ารถ ลองถอดผ้าเบรคมาทำความสะอาดในรอบก่อนแล้ว ไม่หายครับ ดังนั้น เหลือแต่ลูกปืนล้อแหละ (วิ่งปกติไม่ดัง)
เบ็ดเสร็จ
1. ค่าใช้จ่าย
- แร็คพวงมาลัย + ค่าแรง 29,500 บาท
- ลูกปืนล้อ + ค่าแรง ซ้าย / ขวา 5,400 บาท
2. อาการเบรคแล้วดัง ฟืดๆๆๆ จากหน้ารถหายไปละ แต่ดันมีมาจากข้างหลังแทน .. ไว้ก่อนละกันเนอะ โดนไปเกือบแสนละ กับ รถคันนี้
3. ระยะเวลา .. เข้าซ่อมราวๆ 10 โมงเช้า เสร็จแถวๆ บ่ายโมง ครับ ช่างทำคนเดียว มีผู้ช่วยนิดหน่อยตอนยกชุดแพ กับ เจ้าของอู่ มา QC เช็คทอร์ค ทุกจุด ก่อนเอารถลงจากลิฟท์ ครับ
4. เหลือตั้งศูนย์ล้อใหม่ครับ วันนี้ร้านปิด
- อาการตอนขับ รู้สึกชัดเจนว่า ช่วงล่างแน่นขึ้น กระชับขึ้น (ทั้งที่ก่อนหน้า ก็ไม่ได้รู้สึกว่า ช่วงล่างมีปัญหานะ)
......................
ซ่อมจอวิทยุด่าง
เป็นเจ้า JVC AVX-44 ที่ติดมาตอนออกรถใหม่ๆ และ ตอนหลังได้ Clarion HX-D2 เลยปลดระวางเจ้านี่ มาไว้เป็นจอดูตอนถอยหลัง (จอ 3 นิ้วในตัว) หลังๆ จอมันด่างๆ (แต่ยังมองเห็นภาพนะ) ซึ่งว่าไม่ได้ เพราะนับอายุที่มันผลิตก็เกิน 20 ปีนะ
จัดการให้ พี่เต้า Mock Up ถอดส่งซ่อมครับ มีร้านรับซ่อมอยู่ (ถ้าส่งศูนย์ก็เปลี่ยนทั้งจอ ซึ่งไม่น่ามีอะไหล่แล้ว) รอซ่อมสัก 2 อาทิตย์ ก็กลับไปใส่ ก็ใช้งานได้ปกติครับ แถมรู้สึกชัดกว่าเดิมด้วย (หรือมันเสื่อมมาแต่แรกก็ไม่รู้) เพราะปกติ กล้องติดรถรุ่นนี้ ภาพมันแย่มาก
ภาพข้างล่าง ตอนถอยรถเข้าบ้าน ไม่ได้เปิดไฟที่จอดรถนะครับ มืดสนิท ได้มาขนาดนี้ ถือว่า แจ๋ว ละ
เผื่อเป็นไอเดีย ใครมี front แล้วจอมันด่าง สามารถซ่อมได้แล้วนะครับ
ปล. ปกติ CR-V ไม่มีกล้อง ไม่มีเซนเซอร์ ก็ขับได้ จอดที่แคบ จอดระหว่างคัน ก็ขับได้ .. แต่พอเป็น Pulsar ถอดกล้องออกปุ๊บ เหมือนคนตาบอด ความมั่นใจหายเลย ถอยทีต้องเปิดประตูชะโงกไปมอง หรือ บางที ดึงเบรคมือ แล้วลงไปดูท้ายด้วยซ้ำ
หมดละ หวังว่า จะไม่ต้องยุ่งอะไรกับรถอีกนะ
ปล. (อีกที) เมื่อวาน
พ่อโทร.มาถามว่า : รถซ่อมเสร็จยัง โดนไปเท่าไหร่
พอบอกไป
พ่อตอบกลับมาว่า : ถ้ามันพังอีก ก็ขายแม่มทิ้งเลย ไอรถคันนี้ (จริง พอเซ็ททุกอย่างลงตัว รถคันนี้ขับสนุกนะ ด้วยเครื่อง ด้วยช่วงล่าง)
เลยบอกไปว่า : ถ้าขาย Pulsar ก็ต้องเปลี่ยนเป็น BRZ / ถ้าขาย CRV ก็ต้องเปลี่ยนเป็น Outback .. แต่ตอนนี้ ไม่มีสักบาท ใช้ไปก่อนละกัน 55+
อ้อ .. มีเรื่องแป้นเบรคแข็ง หลังจอดแค่ 20 นาที ถ้า ผญ ขับ ไม่น่าจะกดเบรค เพื่อสตาร์ทรถได้ อันนี้ก็ปัญหาคลาสสิค เป็นยัน X-Trail หม้อลมเบรคยกลูกก็ 2 หมื่นกว่า ยังไม่หนักเท่า Pulsar DIG รื้อยากมาก ถามช่าง ช่างร้องเลย (บอกตัว 1.8 ยังยากเลยเพ่ กว่าจะเอาออกมาได้ ถ้า DIG น่าจะติดเทอร์โบอีก) งั้น รอจนทนไม่ไหวก่อนละกัน