อยากจะชวนเพื่อนๆไปอาบป่า (Forest Bathing) หรือใช้ธรรมชาติบำบัด (Nature Therapy) กันค่ะ 🏕️🌾🌱🌻

📅 เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ 17-18 ธันวาคมที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ปร่วมกิจกรรม Being Nature 🌱🏕️ 💚 ซึ่งเป็นการอาบป่า (Forest Bathing) หรือใช้ธรรมชาติบำบัด (Nature Therapy) มานะคะ
ซึ่งเป็นการใช้ผัสสะทั้ง 5 (ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส) เป็นตัวเชื่อมโยงในการดื่มด่ำกับธรรมชาติ ของเรายังพ่วง Social Media Detox มาด้วย ไม่ใช่แค่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ เราก็ไม่คิดจะหยิบขึ้นมาดูมาไถหรืออะไรใดๆ ยกเว้นนำมาถ่ายภาพบางอย่างที่อยากเก็บไว้ในทริปนี้ 📸🌾🌻






พี่ๆกระบวนกรทั้ง 4 คน จะเป็นผู้กล่าวนำ และสอนในเรื่องต่างๆ ในการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นการเปิดประสาทสัมผัสรับการบำบัดจากพลังของธรรมชาติ

🌞 ขอสารภาพว่า ก่อนการเข้าร่วมกิจกรรม ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แค่อยากมาเปิดใจลองทำอะไรใหม่ๆที่แตกต่างจากสิ่งที่ทำอยู่เดิม เหมือนมารับประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งไม่ใช่คนที่เลิฟธรรมชาติมาก หรือคลั่งไคล้พืชพรรณไม้ใดๆ เป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่ได้คิดจะทำลายธรรมชาติ เช่น เด็ดดอกไม้ หรือใบไม้มาชื่นชม ถ้ามีอะไรที่สามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ก็ยินดีที่จะทำอย่างเต็มใจ

การมาครั้งนี้ถามว่าได้อะไรบ้าง เราได้ฝึกการอยู่กับปัจจุบัน และสิ่งที่ดำรงชีวิตตรงหน้าโดยไม่มีการตัดสินใดๆ พร้อมเปิดรับที่จะเป็นส่วนหนึ่งในที่แห่งนั้น 🙂
ภายในกิจกรรม เค้าจะหาที่ให้เราได้อาบป่าเป็นเวลา 1 ชม. (เท่ากับไป 2 วัน เราได้อาบป่าวันละ 1 ชม.) บางคนอาจรู้สึกว่าแป๊บเดียว บางคนก็อาจรู้สึกว่านาน พอได้เข้าไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ เราได้เรียนรู้การที่จะเป็นส่วนหนึ่งโดยไม่พยายามจะเข้าไป โดยการนั่งมองสิ่งที่ดำรงอยู่ เราได้ปลดปล่อยความเครียดจากการทำงาน จากเรื่องส่วนตัว จาก routine ที่ทำอยู่ทุกวัน
เนื่องจากเราเป็นคนที่มีตารางเวลาใน 1 วันที่เยอะมาก เพราะด้วยความคิดที่ว่าเวลามีค่า ต้องมีความ Productive ตลอดเวลา การนั่งอยู่เฉยๆ มองสายน้ำ ปลาตัวเล็กๆที่แหวกว่าย แมลงต่างๆ ก็รู้สึกย้อนแย้งภายในตัวเองใน 15 นาทีแรก แถมความหงุดหงิดความนั่งเฉยๆแบบนั้น 55 และบางทีก็กลัวผึ้งที่มาตอมหน้าตอมขา แมงมุม 🕷️ ที่มีใยอยู่ใกล้ๆประมาณ 10 ตัว
หลังจากนั้นเราก็ปล่อยตัวปล่อยใจท่ามกลางธรรมชาติตรงหน้า ฟังเสียงป่า ดมกลิ่นหญ้า ลมเย็นๆที่พัดเอากลิ่นความชุ่มชื้นของต้นไม้ใบหญ้ามาแตะหน้า เอาเท้าจุ่มน้ำ ระหว่างนั้นก็มีผีเสื้อบินมาหยุดที่เท้าเรา เหมือนทั้งเราและเค้าได้อยู่ร่วมกันแบบมีความรู้สึกปลอดภัยทั้งเค้าและเรา
เราเลยรับรู้ด้วยตัวเองว่า ธรรมชาติมีคุณค่ามากต่อสมองและจิตใจ โดยสะท้อนออกมาเป็นความรู้สึกที่มีความสุขและความผ่อนคลายเมื่อเราได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติจริงๆ ในปัจจุบันขณะอย่างแท้จริง โดยไม่สนใจเรื่องภายนอกอีกเลย ทิ้งความ productive ทั้งหมด เลิกวิตกกังวล ปล่อยใจให้ว่าง และดื่มด่ำธรรมชาติรอบตัวให้มากที่สุด






🌻 พอกลับมาจากทริป เรามาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องการได้กลิ่น
__
การได้กลิ่น กลิ่นที่มาจากธรรมชาติมีสารสำคัญที่เรียกว่า ไฟทอนไซด์ (Phytoncides) คือน้ำมันหอมระเหยที่พืชปล่อยออกมาเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อรา เชื้อโรค และแมลง แต่สำหรับมนุษย์สารจากน้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้เราผ่อนคลายและสร้างภูมิคุ้มกันได้ เช่น ช่วยสร้างเซลล์กำจัดมะเร็ง (Nature Killer cell) ฟทอนไซด์จากพืชประเภทต้นโอ๊กช่วยลดปริมาณเชิงจุลินทรีย์ในอากาศได้ถึง 250 เท่าต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร ซึ่งเป็นการช่วยทางออกในการปรับปรุงปอดและระบบหายใจ ไฟทอนไซด์จากพืชประเภทปาล์ม มะนาว และออริกาโนยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้หลับสนิท สภาพจิตใจเป็นปกติ และไฟทอนไซด์จากพืชประเภทสะระแหน่ยังมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวกระตุกอีกด้วย
Source: https://citycracker.co/city-environment/shinrin-yoku/










🙏🏼 ขอบคุณทีมงาน Being Nature ที่จัดกิจกรรมแบบนี้ และพี่ปู เจ้าของบ้านสวนมีกินให้เราได้มีที่กางเต๊นท์ สถานที่ทำกิจกรรมและดูหมู่มวลดาวที่ชัดมากที่สุดในชีวิตที่เคยเห็นแล้วค่ะ มีที่ชงชากาแฟให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้เอ็นจอยบรรยากาศตอนเช้าและได้ยิ้มและหัวเราะไปด้วยกัน
#Beingnature
#Forestbathing
#Shinrinyoku
#Naturetherapy
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่