กัลยาณมิตรที่เลิศ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อ. สุจินต์ : "ความเป็นมิตรที่ดี กัลยาณมิตรที่เลิศ ก็คือเพื่อประโยชน์ของผู้ที่เราเป็นมิตรด้วย
เพราะฉะนั้น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นกัลยาณมิตรที่ประเสริฐที่สุด
เพราะว่าทรงพระมหากรุณาทุกอย่างที่ทำเพื่อประโยชน์ของผู้ที่ได้พบทั้งนั้น..."
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 22
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ความคับแค้นใจของ จขกท..ก็เป็นทุกข์
ความคิดเห็นที่ 20
คลิปพวกนี้น่าสนใจกว่า และตรงกว่าครับ

https://www.youtube.com/watch?v=ubXkjoPD-C0

https://www.youtube.com/watch?v=jggqN8H3LdM

https://www.youtube.com/watch?v=aYODlkev7BQ

https://www.youtube.com/watch?v=oYYX21fQCus
ความคิดเห็นที่ 17
ดีๆ  ว่าแต่ใครจะเป็นกัลยาณมิตร
ให้ อ.สุจินต์ นำออกจากวังวนความเห็นผิด
หยุดชักชวนคนเลิกปฏิบัติธรรม
แล้วหันมาเร่งความเพียรชวนสาวก
เจริญสติ เห็นตามความเป็นจริง
ปล่อยวางได้ ใจสงบเย็น
ยิ้ม

https://m.pantip.com/topic/37487612?
ความคิดเห็นที่ 16
ความยึดมั่น ถ้าหากเรา กระทำกรรมลงไป ไปยั่วยุ
จะเข้าข่าย ส่อเสียด จะผิดศีลข้อที่ 4

เพราะว่า แต่ละคน ผัสสะกระทบ อาศัยกันและกันในร่างกายนี้ต่างกันไป ไปสู่ขบวนการ การคิดนึก กิริยาต่างๆ


             [๒๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาวาจาของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ
เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความงด ความเว้น
ความเว้นขาด เจตนางดเว้น จากวจีทุจริตทั้ง ๔ ของภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึก มีจิต
หาอาสวะมิได้ พรั่งพร้อมด้วยอริยมรรค เจริญอริยมรรคอยู่ นี้แล สัมมาวาจา
ของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค ฯ
             ภิกษุย่อมพยายามเพื่อละมิจฉาวาจา เพื่อบรรลุสัมมาวาจาอยู่ ความ
พยายามของเธอนั้น เป็นสัมมาวายามะ ฯ
             ภิกษุนั้นมีสติละมิจฉาวาจาได้ มีสติบรรลุสัมมาวาจาอยู่ สติของเธอนั้น
เป็นสัมมาสติ ฯ
             ด้วยอาการนี้ ธรรม ๓ ประการนี้ คือ สัมมาทิฐิ สัมมาวายามะ
สัมมาสติ ย่อมห้อมล้อม เป็นไปตามสัมมาวาจาของภิกษุนั้น ฯ


สัมมาทิฏฐิ คือ การกำหนดทุกข์อริยสัจความเป็นภพได้ละ
จึงเกิดความเพียรชอบสัมมาวายามะ
สัมมาสติคือการระลึกต่อสภาพธรรมที่มากระทบถูก
จึงเกิด สัมมาวาจา ขึ้นมาต่อสภาพธรรมนั้น มีธรรมอันเป็นเหตุ เป็นที่ตั้ง

  แต่เพราะเราไม่รู้ทุกข์ จึงไม่เกิดสัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ  สัมมาสติ  สัมมาวาจา
ความคิดเห็นที่ 14
ทุกข์เพราะมีภพ ต่างๆ

ความยึดมั่น คือการการกระทำของเรา
มีธรรมอันเป็นเหตุ ที่ตั้ง ของแต่ละคน สัญญาแต่ละคน
และผัสสะ ของแต่ละคนต่างกัน

คือ อาศัย การประชุมลง อาศัยกันและกัน

และมีผัสสะกระทบ

  ธรรมสัมมาสัมพุทธ ไม่ได้มีเพียง อนัตตาอย่างเดียว

https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=7520&Z=7533

อุปปาทสูตร
             [๕๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติ
ขึ้นก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา
ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้น
ก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้ง
อยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ครั้นแล้ว
จึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า สังขาร
ทั้งปวงเป็นทุกข์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้นก็ตาม
ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่าง
นั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ครั้นแล้วจึง
บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า ธรรม
ทั้งปวงเป็นอนัตตา ฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่