เราฝึกสมาธิมาได้ระยะนึง เพื่อให้จิตมีความมั่นคง แน่วแน่ เป็นกลาง ฝึกแล้วก็มีความแน่วแน่เพิ่มขึ้น แต่ความแนบแน่นมีไม่ต่อเนื่องเลยค่ะ เพราะเราฝึกแล้วไม่เคยได้รับความอิ่มใจในสมาธิ จิตจึงหลบไปสู่กามคุณบ่อยๆ และเวลาฝึกมันจะมีอารมณ์ที่ตั้งมั่น รวบตึงแน่นอยู่บริเวณกลางอกเยอะ ทำให้ต้องงอตัวอยู่เรื่อย บริกรรมไปซักพักก็บริกรรมต่อไม่ออก ต้อหายใจลึกๆยาวๆและคอยประคองสติไว้ไม่ให้จิตหนีไปคิดเรื่องอื่น แต่ก็ช่วยไม่ค่อยได้นัก ก็พยายามบริกรรมต่อ ถึงตรงนี้เราไม่รู้ว่าจะต้องแก้ไขยังไงค่ะ
เวลาฝึกสมถะบางครั้ง(ก่อนนี้ฝึกมองรูปพระและบริกรรมบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ฝึกบริกรรมและฝึกรู้ไอร้อนในกายอย่างเดียว) เราจะรับรู้ถึงสนามพลัง ไม่รู้เรียกอย่างนี้รึเปล่า ที่บริเวณลำตัวช่วงบนและตรงพื้นที่ว่างที่ติดต่อกัน บางทีมันมีเพิ่มมีลด ครั้งนึงเราบริกรรมจนจิตตั้งมั่นมีสมาธิต่อเนื่องเอง แล้วเรามาฝึกรู้ลม จิตละเอียดมากเลยรู้ลมได้ละเอียดมาก แล้วหูก็ดับอย่างแรงแต่กลับได้ยินเสียงพัดลมอยู่ เราไม่รู้ต้องตั้งสติกับอะไรต่อก็เลยจะหยุดฝึก แต่พอจะลืมตากลับลืมยาก ต้องรวบรวมกำลังเพื่อจะลืมตาขึ้นมา ตั้งแต่นั้นมาในชีวิตประจำวันเวลามีสมาธิในการทำอะไรหูจะเริ่มอื้อเพิ่มขึ้นๆ เหมือนคนเอาหัวมุดลงน้ำลึกลงๆ พอหูหายอื้อจะเย็นในหัว บางวันแน่นตึงกลางอกมาก บางวันมีลืมตายาก แล้วบางทีเราขับรถหูก็เริ่มอื้อ เราก็พยายามขับสบายๆไม่เพ่ง คิดโน่นคิดนี่ไม่ให้มีสมาธิมาก มันก็ช่วยได้อยู่ แต่ก็กังวลถ้าต้องขับรถทางไกลหรือทางที่ไม่เคยขับแล้วต้องมีสมาธิมาก ตรงนี้เกิดจากควบคุมกำลังสมาธิไม่ได้หรือเปล่าคะ ต้องฝึกสติเพิ่มหรือต้องทำยังไงคะ
เราคิดว่ามันเป็นสมาธิ แต่ไม่รู้เรียกว่าฌานรึเปล่า แต่เราไม่เคยจิตรวมเข้ารูเข็มอะไรแบบนั้นค่ะ คิดว่าน่าจะอยู่ที่อุปจาระ เราอยากจะฝึกสมถะแต่เราไม่สามารถให้จิตอยู่กับอารมณ์เดียวได้ต่อเนื่อง ถ้าเป็นอย่างนี้จะฝึกไม่ถึงฌานหรือเปล่าคะ หรือมันคือฌานแล้วรึเปล่า อยากทราบว่าอยู่จุดไหน จะได้ไปหาศึกษาต่อยอดให้เป็นระบบได้ค่ะ
แล้วอารมณ์ที่ตั้งมั่นที่อก สามารถนำมาเป็นวิตกวิจารณ์ได้รึเปล่าคะ หรือควรจะตั้งสติอยู่กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างเดียวพอ
เราเริ่มคุ้นเคยในการเข้าสมาธิ คือยกจิตมาสู่ความตั้งมั่นแน่วแน่ที่ระดับนึงได้เร็ว แต่จะหลุดบ่อย แต่ก็กลับมาที่เดิมได้อีก เราเคยอ่านเรื่องวสีบ้าง คิดว่ามันคือวสี แต่ถ้าฝึกไม่ถึงฌานไม่รู้มันคือวสีรึเปล่า แต่วสีมันต้องควบคุมได้ แต่บางทีมันมีสมาธิเอง ดูจากจิตที่ตั้งมั่นและหูเริ่มอื้อเองในชีวิตประจำวัน แม้จะไม่ตั้งสติคือมีสมาธิกับการอ่านนิดๆหรืออยู่ลอยๆไม่ค่อยคิดอะไร คือถ้าวสีเราต้องสามารถที่จะให้สมาธิอยู่ที่ระดับที่เราต้องการได้หรือเปล่าคะ แล้วการออกจากอารมณ์สมาธิได้เร็วได้นานมีวิธีการฝึกยังไงคะ
แล้วจะฝึกสมถะต้องหยุดการฝึกสติปัฏฐานไปก่อนรึเปล่าคะ เพราะสมถะต้องเพ่งอารมณ์ ให้เกิดเอกัคคตา พอจะฝึกสติเหมือนมันจะหลุดเข้าไปเพ่ง ต้องคอยประคองให้มันพอดีๆ มันเหมือนกับฉุดรั้งกันอยู่ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าค่ะ
สอบถามเกี่ยวกับการฝึกสมาธิค่ะ
เวลาฝึกสมถะบางครั้ง(ก่อนนี้ฝึกมองรูปพระและบริกรรมบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ฝึกบริกรรมและฝึกรู้ไอร้อนในกายอย่างเดียว) เราจะรับรู้ถึงสนามพลัง ไม่รู้เรียกอย่างนี้รึเปล่า ที่บริเวณลำตัวช่วงบนและตรงพื้นที่ว่างที่ติดต่อกัน บางทีมันมีเพิ่มมีลด ครั้งนึงเราบริกรรมจนจิตตั้งมั่นมีสมาธิต่อเนื่องเอง แล้วเรามาฝึกรู้ลม จิตละเอียดมากเลยรู้ลมได้ละเอียดมาก แล้วหูก็ดับอย่างแรงแต่กลับได้ยินเสียงพัดลมอยู่ เราไม่รู้ต้องตั้งสติกับอะไรต่อก็เลยจะหยุดฝึก แต่พอจะลืมตากลับลืมยาก ต้องรวบรวมกำลังเพื่อจะลืมตาขึ้นมา ตั้งแต่นั้นมาในชีวิตประจำวันเวลามีสมาธิในการทำอะไรหูจะเริ่มอื้อเพิ่มขึ้นๆ เหมือนคนเอาหัวมุดลงน้ำลึกลงๆ พอหูหายอื้อจะเย็นในหัว บางวันแน่นตึงกลางอกมาก บางวันมีลืมตายาก แล้วบางทีเราขับรถหูก็เริ่มอื้อ เราก็พยายามขับสบายๆไม่เพ่ง คิดโน่นคิดนี่ไม่ให้มีสมาธิมาก มันก็ช่วยได้อยู่ แต่ก็กังวลถ้าต้องขับรถทางไกลหรือทางที่ไม่เคยขับแล้วต้องมีสมาธิมาก ตรงนี้เกิดจากควบคุมกำลังสมาธิไม่ได้หรือเปล่าคะ ต้องฝึกสติเพิ่มหรือต้องทำยังไงคะ
เราคิดว่ามันเป็นสมาธิ แต่ไม่รู้เรียกว่าฌานรึเปล่า แต่เราไม่เคยจิตรวมเข้ารูเข็มอะไรแบบนั้นค่ะ คิดว่าน่าจะอยู่ที่อุปจาระ เราอยากจะฝึกสมถะแต่เราไม่สามารถให้จิตอยู่กับอารมณ์เดียวได้ต่อเนื่อง ถ้าเป็นอย่างนี้จะฝึกไม่ถึงฌานหรือเปล่าคะ หรือมันคือฌานแล้วรึเปล่า อยากทราบว่าอยู่จุดไหน จะได้ไปหาศึกษาต่อยอดให้เป็นระบบได้ค่ะ
แล้วอารมณ์ที่ตั้งมั่นที่อก สามารถนำมาเป็นวิตกวิจารณ์ได้รึเปล่าคะ หรือควรจะตั้งสติอยู่กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างเดียวพอ
เราเริ่มคุ้นเคยในการเข้าสมาธิ คือยกจิตมาสู่ความตั้งมั่นแน่วแน่ที่ระดับนึงได้เร็ว แต่จะหลุดบ่อย แต่ก็กลับมาที่เดิมได้อีก เราเคยอ่านเรื่องวสีบ้าง คิดว่ามันคือวสี แต่ถ้าฝึกไม่ถึงฌานไม่รู้มันคือวสีรึเปล่า แต่วสีมันต้องควบคุมได้ แต่บางทีมันมีสมาธิเอง ดูจากจิตที่ตั้งมั่นและหูเริ่มอื้อเองในชีวิตประจำวัน แม้จะไม่ตั้งสติคือมีสมาธิกับการอ่านนิดๆหรืออยู่ลอยๆไม่ค่อยคิดอะไร คือถ้าวสีเราต้องสามารถที่จะให้สมาธิอยู่ที่ระดับที่เราต้องการได้หรือเปล่าคะ แล้วการออกจากอารมณ์สมาธิได้เร็วได้นานมีวิธีการฝึกยังไงคะ
แล้วจะฝึกสมถะต้องหยุดการฝึกสติปัฏฐานไปก่อนรึเปล่าคะ เพราะสมถะต้องเพ่งอารมณ์ ให้เกิดเอกัคคตา พอจะฝึกสติเหมือนมันจะหลุดเข้าไปเพ่ง ต้องคอยประคองให้มันพอดีๆ มันเหมือนกับฉุดรั้งกันอยู่ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าค่ะ