JJNY : 5in1 สายดื่มร้องจ๊าก!| ‘สมคิด’ ชี้ 2 ป.หันหน้าคนละทาง| ก้าวไกลปรับแผน| ปวิน ขวางเหรียญทอง| จีนหนาว! ติดโควิดพุ่ง

สายดื่มร้องจ๊าก! “ช้าง” จ่อปรับขึ้นราคาส่งอีกลังละ 18 บาท
https://www.dailynews.co.th/news/1676545/
 
สายดื่ม ร้องจ๊าก! เหล้า-เบียร์ ปรับขึ้นราคาอีกแล้ว เผย 28 พ.ย. นี้ “ช้าง” จ่อขึ้นราคาส่งอีกลังละ 18 บาท ส่วนเหล้าแสงโสม-เมอริเดียน ขึ้นมาแล้วตั้งแต่ต้นเดือน
 
 
นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้บริหารห้างค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี ร้านตั้งงี่สุน เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 พ.ย. 65 ทางผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มเบียร์ช้าง แจ้งว่า จะขอปรับขึ้นราคาเบียร์ช้างใหม่อีกลังละ 18 บาท ทำให้ราคาขายส่งจากเดิมอยู่ที่ 592 บาท เพิ่มเป็น 610 บาท ซึ่งสาเหตุของการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นเพราะราคาต้นทุนที่สูงขึ้นและปรับขึ้นรับช่วงเทศกาลสังสรรค์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งในปีก่อนหน้า ได้มีการปรับขึ้นในช่วงดังกล่าวมาบ้างแล้ว 
 
ทั้งนี้ ช่วงต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ยังได้มีการปรับขึ้นราคาสุราบางยี่ห้อไปบ้างแล้ว อาทิ ยี่ห้อแสงโสม ขนาด 1 ลิตร ราคาขายส่งจากลังละ 4,892 บาท เพิ่มเป็น 5,012 บาท, ขนาด 700 มล. เพิ่มจากลังละ 3,333 บาท เพิ่มเป็น 3,453 บาท หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้นขวดละ 10 บาท นอกจากนี้บรั่นดียี่ห้อเมอริเดียน ได้ปรับขึ้นราคาขายส่งขนาด 700 มล. ปรับจากลังละ 5,291 บาท เพิ่มเป็น 5,651 บาท และขนาด 350 มล. ปรับจากลังละ 2,496 บาท เพิ่มเป็น 2,649 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีร้านจำหน่ายเบียร์ในบางพื้นที่ เริ่มกักเก็บเบียร์สต๊อกเก่าไว้เพื่อเก็งกำไรรอจำหน่ายในช่วงการปรับขึ้นราคาใหม่ ทำให้คอเบียร์เสียอารมณ์ต้องใช้เวลาในการเสาะแสวงหาซื้อมากกว่า 1 ร้านค้า และจากการสอบถามร้านค้าขายปลีกเหล้าแสงโสมในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น พบว่า ขนาด 1 ลิตร ได้ปรับขึ้นราคาจาก 430 บาท เพิ่มเป็น 469 บาท ส่วนขนาด 700 มล. ปรับราคาจาก 286 บาท เพิ่มเป็น 315 บาท หรือเฉลี่ยประมาณ 30 บาท
 

 
‘สมคิด’ ชี้ 2 ป.หันหน้าคนละทาง เชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ยอม ‘บิ๊กตู่’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พปชร.ร่วม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3669952
  
‘สมคิด’ ชี้ 2 ป.หันหน้าคนละทาง สร้างดาวคนละดวง เชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ยอม ‘บิ๊กตู่’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พปชร.ร่วม
 
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะอยู่ได้ถึงเอเปคแน่ๆ ส่วนหลังจากงานเอเปคจบลงแล้ว เหตุการณ์ยุบสภาอาจเกิดขึ้นได้จาก 2 กรณี คือ 
1. ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มองหน้ากันไม่ติด 
และ 2. พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เริ่มหันหน้าคนละทาง สร้างดาวคนละดวง หวังช่วงชิงตำแหน่งนายกฯ หลังการเลือกตั้ง
 
ปัญหาของรัฐบาลเหล่านี้จะนำไปสู่ปัญหาในสภา โดยเฉพาะกรณีที่ต้องโหวตเสียงผ่านกฎหมายสำคัญๆ ซึ่งประชาชนจะได้เห็นภาพสภาล่มบ่อยขึ้น ต้องตามลุ้นกันว่ารัฐบาลจะดันทุรังไปต่ออย่างไร
 
เห็นที่ พล.อ.ประวิตรพูดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่หรือไปก็ไม่มีปัญหานั้น ก็ชัดเจนแล้วว่าทางใครทางมัน ต่อหน้าก็สร้างภาพบอกรักกัน ไม่ทิ้งกัน ลับหลังอาจถือมีดกันคนละเล่ม งานนี้ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ย้ายไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ กับพรรค ปชป.สาขา 2 หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แน่นอน เพราะพรรคอื่นไม่เอา ได้ยินมาว่า ส.ส.ปชป.จำนวนหนึ่งก็เตรียมจะย้ายไปอยู่พรรค รทสช.เพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ แม้จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ได้แค่สองปี แต่คนมันอยากจะเป็น ไม่ยอมถอย ใครก็ห้ามไม่ได้ แต่ต้องฝาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้นับเลขดีๆ เพราะจะถูกเสนอชื่อได้ ต้องมี ส.ส. 25 คนขึ้นไป ส่วน พล.อ.ประวิตรก็ชัดเจนว่านั่งเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.แน่นอน คงไม่มีทางยอมให้น้องมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ร่วมด้วย” นายสมคิดกล่าว
  


ก้าวไกลปรับแผนเปิดอภิปรายนายกฯ เดือน ม.ค. มุ่งดักทางรัฐบาลโปรยเงินหวังผลเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3669822

‘ก้าวไกล’ เฟ้นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคืบหน้าเกือบ 100% คาดฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก ม.152 ช่วงปีใหม่ ดักทางรัฐบาลโปรยงบทำโครงการซื้อคะแนนนิยม แล้วยุบสภา
 
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และการเปิดตัวนโยบายพรรค ก.ก.ว่า พรรค ก.ก.ทยอยเปิดนโยบายเดือนละ 1 เรื่อง แต่ต่อจากนี้จะเปิดเดือนละ 2-3 เรื่อง โดยนโยบายที่เปิดไปแล้ว คือ นโยบายการเมืองไทยก้าวหน้า นโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้า ต่อไปจะเปิดนโยบายราชการไทยก้าวหน้า เพื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และจะเปิดตัวจนครบนโยบาย 9 เสาหลัก ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2566
 
นายณัฐชากล่าวต่อว่า ส่วนการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 400 เขต พรรค ก.ก.คัดเลือกตัวได้คืบหน้ากว่า 95 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าต้นเดือนธันวาคมจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน และจะไล่เปิดตัวทีละจังหวัด สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน มีผู้สนใจสมัครหลายพันคน โดยเราเริ่มกระบวนการคัดเลือกตามประเด็นที่สนใจ และความถนัดเพื่อให้เกาะติดประเด็นนั้น และขับเคลื่อนผ่านเครือข่ายมวลชน เช่น ด้านแรงงาน ด้านสิทธิเสรีภาพ ด้าน LGBTQ ด้านเศรษฐกิจ และด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ขณะนี้เราคัดกรองผ่านเข้ารอบมาประมาณ​ 100 กว่าคน และจะต้องคัดให้เหลือ 70 คน เพราะยังมี ส.ส.บัญชีรายชื่อเดิมอีก 30 คน โดยกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะพิจารณาว่าเครือข่ายไหนและใครอยู่ลำดับบัญชีรายชื่อที่เท่าไหร่
 
เมื่อการถึงยื่นญัตติอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อใด และมีประเด็นหลักๆ อะไรบ้าง นายณัฐชากล่าวว่า เรื่องกำหนดการยื่นญัตติจะต้องหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าช่วงเวลาเหมาะสมในการยื่นญัตติคือช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2566 เพื่อชิงพื้นที่หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หาเสียงผ่านกลไกอำนาจรัฐ เช่น การแจกของขวัญปีใหม่ การจัดถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากนั้นอาจจะยุบสภาในเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงอาจจะยื่นญัตติในช่วงปีใหม่ เพื่อดักไว้ก่อน เพราะรัฐบาลจะมีการใช้กลไกอำนาจรัฐและงบประมาณ เพื่อเอื้อให้กับพวกพ้องและพรรคการเมืองที่เตรียมเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลในนามของตัวเองในสมัยหน้าด้วย
 
นายณัฐชากล่าวว่า สำหรับประเด็นหลักที่จะใช้อภิปรายคือ การเร่งใช้งบประมาณไปในทางที่จูงใจและเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคฝ่ายรัฐบาล การทุจริตคอร์รัปชั่น การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่มีเสถียรภาพ และมีปัญหาภายในจนทำให้ไม่มีเวลาแก้ปัญหาของชาติ และพี่น้องประชาชน ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งภายในได้



ปวิน ขวางเหรียญทอง ใช้วัยเกษียณออสเตรเลีย เจ้าตัวไม่สน เผด็จการอย่างผม เขาต้อนรับ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3669717

‘ปวิน’ ประกาศขอเป็นอุปสรรค ขวาง ‘เหรียญทอง’ ไปใช้วัยเกษียณที่ออสเตรเลีย ด้าน เจ้าตัวไม่หวั่น บอก “เผด็จการอย่างผม รบ.เขาต้อนรับ” 
 
จากกรณี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ออกมาประกาศเตรียมไปใช้ชีวิตเกษียณเป็นตาแป๊ะ ที่เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย หลังลูกๆ ทั้ง 3 คนเรียนจบ และกำลังจะเข้ามา บริหาร บริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด (มหาชน) ในอนาคตอันใกล้นี้นั้น
 
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ขำ นพ.เหรียญทอง รักเมืองไทย แต่หนีไปเกษียณที่ออสเตรเลีย
 
“เยาะเย้ยถากถางดิชั้นว่ากลับบ้านไม่ได้ ไม่ได้กลับมาตายบนผืนแผ่นดินไทย แต่คนเยาะเย้ยถากถางดิชั้น เลือกไปตายบนผืนแผ่นดินออสเตรเลียค่ะ”
  
“เดือนพฤษภาคมปีหน้า ดิชั้นจะไปออสเตรเลีย อยากเจอคุณเหรียญทองค่ะ”
 
จากนั้น นายปวิน ได้โพสต์เผยอีกว่า ตัวเองเพิ่งเขียนใบรับรองให้น้องคนหนึ่งที่โดนคดี 112 ที่ต้องหนีไปแคนาดา โดยระบุว่า
“ดิชั้นเพิ่งเขียนใบรับรองให้น้องคนหนึ่งที่โดนคดี 112 ที่ต้องหนีมาแคนาดา น้องไปเขียนคอมเมนต์ในเพจหนึ่ง และ นพ.เหรียญทองทำการล่าแม่มด ตั้งแต่ไปบีบบังคับให้บริษัทน้องไล่น้องออก (น้องทำงานหลายบริษัท ถูกไล่ออกหมดเลย) และยังส่งให้คนมาฟ้อง 112 จนต้องหนีมาแคนาดา ทำให้ชีวิตคนคนหนึ่งต้องพัง แต่อย่างที่บอก นี่คือตัวอย่างเดียวเท่านั้น
 
ดิชั้นอยากเจอหน้ามันที่ออสเตรเลีย ปกติดิชั้นไปออสเตรเลียทุกปี และดิชั้นก็ไปเพิร์ธบ่อย อยากรู้ว่าเมื่อเราต่างอยู่ในประเทศที่ไม่มีกฎหมายแบบนี้ เหรียญทองกับดิชั้นเท่ากัน ไม่มีอภิสิทธิ์หรือใบเบิกทางที่เหรียญทองได้เหมือนที่อยู่ที่เมืองไทยในการทำร้ายผู้อื่น แล้วจะทำอะไรกับคนอื่นได้“เอาละค่ะ ยกแรกกำลังเริ่ม ดิชั้นจะใช้พลังที่มีทุกอย่างในการทำให้กระบวนการย้ายไปออสเตรเลียของเหรียญทอง ต้องประสบกับอุปสรรคนานัปการค่ะ เรามาลองสู้กันสักตั้งค่ะ” ปวินทิ้งท้าย
 
ล่าสุด นพ.เหรียญทอง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า 

“พ่อของผมซื้อบ้านอยู่ที่เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลียตะวันตก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 หรือนานกว่า 30 ปีแล้ว ดังนั้น การที่ผมจะใช้ชีวิตตาแป๊ะที่เมืองเพิร์ธนั้น ไม่ได้หมายความว่าผม ‘ชังชาติ’ เหมือน พวกควายแดงส้มสามกีบที่รังเกียจประเทศชาติของตัวเองจนต้องหนีคดี หนีคุก ย้ายถิ่นฐาน อพยพออกนอกราชอาณาจักรไทยนะครับ
 
ผมจะใช้ชีวิตสุขนิยม เดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับออสเตรเลียตะวันตกต่างหาก ผมไม่ได้ผิดหวังอะไรจากประเทศชาตินี่ครับ ผมภาคภูมิใจเสียด้วยซ้ำ แต่ผมจะเดินทางไปๆ มาๆ เพื่อพักผ่อนในยามที่เมืองไทยอากาศร้อนอบอ้าวเท่านั้น ใครก็เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกันได้ ไม่เห็นจะแปลกประหลาดจนต้องแซะเสียดสีกันตรงไหน ผมไม่ได้อพยพย้ายถิ่นฐาน หนีคดี ลี้ภัย ผมแค่พาครอบครัวไปทำความสะอาดบ้านของพ่อแม่ ไม่ให้บ้านเสื่อมโทรม ไปดูแลต้นกุหลาบให้แม่ ไปซื้อกุ้งมังกร (Lobster) มากินกับน้ำปลาซอยพริกมะนาวต่างหา
 
หมายเหตุ เผด็จการอย่างผม รัฐบาลออสเตรเลียยินดีต้อนรับนะจ๊ะ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่