JJNY : 5in1 สรุปยอดเรือหลวง│ ฝ่ายค้านเล็งยื่นซักฟอก│‘ชลน่าน’ขอบคุณ‘ตู่’│‘เท่าพิภพ’เย้ย‘ประยุทธ์’│เอกชนจวกรัฐตรึงค่าไฟ

สรุปยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงอับปาง พบล่าสุดมี13นาย เหลือสูญหายอีก9นาย
https://www.dailynews.co.th/news/1824362/

กองทัพเรือสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงอับปางกลางทะเลอ่าวไทย พบยอดล่าสุดมี 13 นาย เหลือสูญหายอีก 9 นาย
 
 
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือแจ้งความคืบหน้า เรือหลวงสุโขทัยอับปาง พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย กลางทะเลอ่าวไทย รวมแล้วขณะนี้พบผู้เสียชีวิต 13 ราย
 
รายละเอียดการพบผู้เสียชีวิตล่าสุด 2 ราย
  
เวลา 13.15 น. อากาศยาน พบผู้เสียชีวิต 1 ราย (เคสดำ 12) โดย ร.ล.ตากสิน กำลังเข้าเก็บกู้
 
เวลา 13.20 น. ร.ล.กระบุรี พบผู้เสียชีวิต 1 ราย (เคสดำ 13) กำลังเข้าเก็บกู้
 
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด เพื่อยืนยันตัวตน


 
ฝ่ายค้านเล็งยื่นญัตติซักฟอก 28 ธ.ค.นี้ เชื่อ ‘ประยุทธ์’ ไม่ยุบสภาหนี เย้ย รทสช.ยังเป็นวุ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_3741642
 
ฝ่ายค้านเล็งยื่นญัตติอภิปราย 28 ธ.ค. ‘สุทิน’ ลั่นต้องได้ซักฟอกไม่เกินปลายเดือน ม.ค.66 จ่อสับนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อ เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ไม่ยุบสภาหนี เหตุ รทสช.ยังเป็นวุ้น
 
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า ฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นญัตติต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในวันที่ 28 ธันวาคม โดยในวันที่ 26 ธันวาคม ฝ่ายค้านจะประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อสรุปเนื้อหาและประเด็นที่จะใช้อภิปรายรัฐบาล ขณะนี้มีความสมบูรณ์ถึง 99% แล้ว โดยเรื่องใหญ่ๆ คืออภิปรายถึงความล้มเหลวของนโยบายเร่งด่วนทั้ง 12 ข้อของรัฐบาล เราจะตีรวมทุกประเด็น ความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ การทุจริตในโครงการใหญ่ กรณีของตู้ห่าวกลุ่มทุนจีนสีเทา รวมถึงการอนุมัติงบประมาณจำนวนมากเพื่อใช้ทำการเมืองในช่วงปลายสมัยรัฐบาล ทั้งนี้ เราตั้งใจจะอภิปรายประมาณ 3 วัน ซึ่งจากการหารือกับนายชวน น่าจะได้อภิปรายช่วงวันที่ 15-20 มกราคม 2566 แต่ต้องรอดูว่ารัฐบาลพร้อมเมื่อไร ถึงอย่างไรก็ต้องได้อภิปรายไม่เกินปลายเดือน มกราคม 2566 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยังไม่ประกาศยุบสภาฯ ก่อน เพราะเขายังไม่พร้อม พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ท่านไปสังกัดก็ยังเป็นวุ้นอยู่เลย
 
การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นสตอรี่เดียวกัน เราจะแบ่งบทกันเล่น แบ่งบทกันแสดงเป็นตอนๆไป เนื้อหาจะชัดเจน ประชาชนที่ติดตามจะเข้าใจง่าย เราจะฉายภาพ 8 ปีความล้มเหลวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯ ในทุกด้าน เป็น 8 ปีแห่งความสูญเสียโอกาสของประชาชน ภาพของการทำลายอนาคตของประเทศ ทำประเทศอ่อนแอ ไร้ศักยภาพในการแข่งขันบนเวทีโลก เราจะชี้ให้ประชาชนเห็นถึงรัฐบาลที่พูดแล้วไม่ทำ สัญญาแล้วไม่ทำ รัฐบาลที่โกหกประชาชน ชี้ให้เห็นว่าอะไรที่ทำแล้วก็ทำไม่สำเร็จเพราะไร้ฝีมือ ประชาชนจะได้ตระหนักรู้ไม่เชื่อ และไม่เลือกใครหรือพรรคไหนที่มาสัญญาอะไรอีก” นายสุทิน กล่าว
 

 
‘ชลน่าน’ ขอบคุณ ‘บิ๊กตู่’ ประกาศชิงนายกฯ คนจะตัดสินใจเทให้ ‘เพื่อไทยแลนด์สไลด์’ ง่ายขึ้น
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3741565

‘ชลน่าน’ ขอบคุณ ‘บิ๊กตู่’ ประกาศชิงนายกฯ เหตุคนเบื่อสืบทอดอำนาจ จะเทให้ ‘เพื่อไทยแลนด์สไลด์’
 
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศเป็นแคนดิเดต นายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะทำให้ส.ส.ย้ายไปสมัครเข้าพรรค จนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ ของพรรค พท. หรือไม่ ว่า จากข่าวที่ปรากฏทราบว่าจะมีส.ส.ไปอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ประมาณ 40 คน ส่วนใหญ่มาจากพรรคจิ๋วและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะมีการไปรับประทานอาหารร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ กรณีไม่มีการยุบสภา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 จะเป็นวันสุดท้ายที่ส.ส.จะลาออกเพื่อไปสังกัดพรรค รทสช. หากหลังจากวันที่ 7 กุมภาพันธ์ไปแล้วจะเกิน 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง ส่วนกรณียุบสภา ส.ส.สามารถลาออกในวันยุบสภา และไปสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน
 
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า พรรค พท. มองทุกพรรคเป็นคู่แข่ง ไม่ว่าจะพรรคเล็ก พรรคใหญ่ เพราะแข่งกันเป็นเขต และแข่งภาพใหญ่ในส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งไม่หนักใจเท่าไหร่ เราอยู่บนหลักการที่ต้องรู้จักตัวเองให้มากที่สุดว่ามีจุดแข็งจุดอ่อนอะไร คู่แข่งเป็นอย่างไรและโอกาสตัวเองเป็นอย่างไร เมื่อเรารู้ตัวเองและมองคู่แข่งออก เราคิดว่าว่าที่ผู้สมัครส.ส. เรามีความเข้มแข็งพอที่จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน
 
เมื่อถามว่า พรรค รทสช. จะสามารถ มีส.ส.ได้เกิน 25 เสียงเพื่อเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ แล้ว คงต้องตั้งเป้าอย่างนั้น และจะต้องเสาะแสวงหาวิธีการที่จะทำให้ถึงเป้าหมายให้ได้ เราเองจะไม่ดูแคลน ส่วนจะทำได้หรือไม่ อยู่ที่ประชาชน ตนขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับพรรค รทสช. เพราะพี่น้องประชาชนจะได้มีข้อพิจารณา และตัดสินว่าจะให้พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อหรือไม่ส่วนพรรคการเมืองต่างๆ ก็จะได้วางแนวทางการต่อสู้ในสนามการเมืองให้เป็นไปตามกติกา ต่างคนต่างแข่งขันกันด้วยนโยบายและการเข้าหาพี่น้องประชาชน พรรค พท. มีความชัดเจนในการรณรงค์หาเสียง เพราะจะได้บอกว่าถ้าพี่น้องประชาชนที่ไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจต่อไป ให้มาเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์
 
เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าพรรค รทสช. จะได้เปรียบ จากความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในมุมการเมืองผู้ที่เป็นรัฐบาลมีความได้เปรียบอยู่แล้วโดยธรรมชาติ หน้าที่อำนาจบางเรื่องมีกฎหมายที่เปิดโอกาสให้สามารถทำได้ด้วย เช่นการดูแลพี่น้องประชาชนในภาวะวิกฤต การเสนอให้ทำตามหน้าที่เพื่อดูแลประชาชนให้เต็มที่ ขณะที่พรรคอื่นทำไม่ได้ และขณะนี้ยังมีข้อกำหนด 180 วันเรื่องการหาเสียง การมีอำนาจรัฐ ก็จะเป็นโครงข่ายที่เอื้ออำนวยต่อความได้เปรียบทางการเมืองที่อยู่นอกเหนืออำนาจและหน้าที่การเป็นรัฐบาลยกตัวอย่างการลงพื้นที่เยี่ยมน้ำท่วมก็ปรากฏชัดว่ามีแต่โครงข่านของพรรค รทสช. ที่ไปลงพื้นที่ด้วย แต่เราต้องบอกไปยังผู้ที่มีอำนาจว่า ท่านจะต้องใช้อำนาจหน้าที่ให้ชอบด้วยกฎหมาย เพราะพี่น้องประชาชนและทุกพรรคการเมืองมองอยู่ ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรมกระแสตีกลับจะไปอยู่ที่ผู้ที่ใช้อำนาจในทางมิชอบนั้นและสามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ด้วย
 

  
‘เท่าพิภพ’ เย้ย ‘ประยุทธ์’ ไม่ป๊อปเหมือนเก่า ชี้รวมไทยสร้างชาติ ได้ส.ส. 5 คนก็เก่งแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3741584
 
‘เท่าพิภพ’ เย้ย ‘ประยุทธ์’ ไม่ป๊อปเหมือนเก่า ชี้ ‘รทสช.’ ได้ส.ส. 5 คนก็เก่งแล้ว เชื่อ ‘ข้าราชการ’ นกรู้ ไม่ทำตามนายสั่ง เหตุกลัวถูกเช็กคบิลย้อนหลัง
 
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะทำให้ส.ส.ย้ายไปสมัครเข้าพรรค จนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ ของพรรคก.ก. หรือไม่ ว่า ตนคิดว่า ต้องดูเป็นพื้นที่ไป เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีคนชอบอยู่ แต่คนไม่ชอบก็อาจจะมากอยู่เช่นกัน ส.ส.ภาคใต้บางคน อาจจะคิดว่ากระแสพรรค รทสช. จะช่วยให้กลับมาเป็นส.ส.อีกครั้ง แต่คะแนนในกรุงเทพฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะการบริหารงานไม่ตอบโจทย์ประชาชนส่วนใหญ่และเกิดความผิดพลาด อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่ายังมีคนก้มหน้าก้มตารักอยู่ คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีคะแนน แต่ต้องมีปัจจัยอื่นด้วยหรือไม่ที่จะทำให้นักการเมืองย้ายไป เช่นเงินทุนในการหาเสียง หรือนโยบาย ตนคิดว่าพรรค รทสช. ไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงของพรรค ก.ก.อยู่แล้ว
 
นายเท่าพิภพ กล่าวว่า ยกตัวอย่างในพื้นที่กรุงเทพฯ ตนลุ้นให้พรรคฝ่ายที่เป็นรัฐบาลอยู่ตอนนี้ มีพรรคที่เข้มแข็งอย่างน้อย 2 พรรค เพื่อตัดคะแนนกันเอง ไม่เช่นนั้นคนจะไหลกลับไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และเป็นโอกาสทำให้พรรค ปชป. กลับมาชนะเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ
 
เมื่อถามว่า พรรครทสช. มีความพร้อมมากแค่ไหน นายเท่าพิภพ กล่าวว่า จากประสบการณ์ทำพรรคการเมืองมา 2 พรรค ไม่ง่ายที่พรรคใหม่จะเกิดขึ้นใหม่ในระบบการเมืองไทย แม้ว่าจะมีกลุ่มจัดตั้ง แต่ความเข้มแข็งในเชิงอุดมการณ์ และทิศทางจะดำเนินการไปได้ยาก ยิ่งใกล้เลือกตั้งเกินไปจะจัดสรรผลประโยชน์หรือตกลงอะไรอย่างชัดเจนไม่ค่อยได้ สุดท้ายจะเกิดการแตกร้าวหลังการเลือกตั้งอย่างแน่นอน พรรคนั้นจะไม่มีความมั่นคงถาวร และเป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจ ได้ส.ส. 5 เสียงก็เก่งแล้ว และจากการลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนก็ไม่มีใครใส่เสื้อรักลุงตู่ให้เห็น หรือแสดงความชื่นชม จึงคิดว่าพรรค รทสช. ไม่น่าจะได้ส.ส.ถึง 25 เสียง เพื่อมีสิทธิเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ
 
เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าพรรครทสช. จะได้เปรียบ จากความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายเท่าพิภพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพึงประเมิน แต่ในระยะเวลาอันสั้นจะได้เปรียบจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะพอใกล้เลือกตั้งข้าราชการจะชิ่งหมด เพราะรู้ว่าจะต้องเปลี่ยนนาย หากทำอะไรไปอาจจะซวย และครั้งนี้ยังไม่มีความมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะชนะเลือกตั้งอีก หากสั่งให้ข้าราชการทำอะไร ข้าราชการเหล่านี้จะกลัวเจ็บตัวหรือกลัวโดนเช็คบิล และกลัวการตรวจสอบอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้เปรียบจากการเป็นรัฐบาล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่