JJNY : เกาหลีใต้จับ9"ผีน้อย"นำเข้า"ยานรก"│โอเปกพลัส ลดกำลังผลิต│มองปรับครม.ไม่ช่วยทำศก.ดีขึ้น│ยายจุดธูปขอเทพ IT หน้าตู้

เกาหลีใต้ จับ 9 "ผีน้อย" นำเข้า "ยานรก" 264 ล้านบาท ขายชุมชนคนไทยด้วยกัน
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7301884
 
 
เกาหลีใต้ จับ 9 “ผีน้อย” นำเข้า “ยานรก” 264 ล้านบาท ขายชุมชนคนไทยด้วยกัน
 
วันที่ 5 ต.ค. ยอนฮับ รายงานว่า ตำรวจ เกาหลีใต้ จับกุมผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจากประเทศไทย 9 คน ในข้อหาลักลอบนำยาเสพติดผิดกฎหมาย 1,000 ล้านวอน (ราว 264 ล้านบาท) เข้าประเทศ และจำหน่ายแก่ชุมชนคนไทยด้วยกัน
 
สำนักงานตำรวจจังหวัดชุงช็องใต้แถลงการจับกุมพลเมืองสัญชาติไทย อายุ 33 ปี ที่ควบคุมแก๊งยาเสพติด ในจังหวัดชุงช็องใต้ พร้อมสมาชิกแก๊งที่เป็นพลเมืองสัญชาติไทยอีก 8 คน ในข้อหาละเมิดกฎหมายควบคุมยาเสพติด
 
ทั้งเก้าคน ซึ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจากประเทศไทย ลับลอบขนยาผิดกฎหมายหลายอย่าง เช่น เมทแอมเฟตามีน จากประเทศลาวเข้ามาในเกาหลีใต้ระหว่างเดือนต.ค. 2564 ถึงเดือนก.ย. 2565 และจำหน่ายแก่ผู้อพยพเถื่อนที่เป็นคนไทยด้วยกันในเกาหลี หรือเสพเอง
   
ตำรวจระบุว่า ทั้งหมดขนยาเสพติด โดยบรรจุในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน ผ่านบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ จากนั้น แก๊งดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพื้นที่เทศบาลนครนนซาน และเทศมณฑลช็องยัง ของจังหวัดชุงช็องใต้ จะติดต่อกับชุมชนคนไทยในพื้นที่ข้างต้น ตลอดจนคนไทยในจังหวัดช็อลลาเหนือ และจังหวัดคย็องซังเหนือ ที่อยู่ติดกัน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อขายยาเสพติดเป็นการส่วนตัวเพื่อแลกกับเงิน
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เมทแอมเฟตามีนที่แก๊งยาเสพติดลักลอบนำเข้าประเทศมีน้ำหนัก 3 กิโลกรัม แต่ตำรวจยึดส่วนที่เหลือที่แก๊งยาเสพติดยังไม่ได้ขาย 1.3 กิโลกรัม ปริมาณดังกล่าวสามารถให้คนเสพได้พร้อมกันราว 43,000 คน และมีมูลค่า 5,000 ล้านวอน (ราว 132 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ตำรวจยึดยาบ้า 192 เม็ด ซึ่งมีส่วนประกอบของเมทแอมเฟตามีนและคาเฟอีน กัญชา 21 กรัม และยาอี 2 กรัม ขณะที่สมาชิกแก๊งให้การกับตำรวจว่า พวกเขาเริ่มเสพยาเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก และใช้เงินจากการขายยาเสพติดเพื่อเลี้ยงชีพและซื้อยาเพิ่ม
 
สำนักงานตำรวจจังหวัดชุงช็องใต้ระบุว่า เมื่อเดือนมิ.ย. ผู้นำแก๊งยาเสพติดคนดังกล่าวได้รับโทษจำคุก 7 ปีครึ่ง ขณะที่อีก 8 คน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ก่อนหน้านี้ พลเมืองสัญชาติไทยในเกาหลีใต้อีก 31 คน ยังถูกจับกุมในข้อหาเสพยาและค้ายาที่มีความเชื่อมโยงกับแก๊งยาเสพติดดังกล่าว และทั้งหมดถูกเนรเทศกลับภูมิลำเนาแล้ว



โอเปกพลัส ลดกำลังผลิตน้ำมันครั้งใหญ่สุดในรอบ 2 ปี
https://www.prachachat.net/world-news/news-1072988

โอเปกพลัสปรับลดกำลังผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นการปรับลดการผลิตครั้งใหญ่สุดในรอบ 2 ปี 
วันที่ 6 ตุลาคม 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (OPEC+) มีมติปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลงครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2563 เพื่อควบคุมอุปทานในตลาดที่ตึงตัวอยู่แล้ว แม้จะเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯและประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการให้สูบน้ำมันขึ้นมามากขึ้น

ในถ้อยแถลงหลังการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันระดับโลกประกาศว่า จะปรับลดกำลังผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน สำหรับเดือนพฤศจิกายน
 
ความเคลื่อนไหวนี้อาจกระตุ้นให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากลดเหลือประมาณ 90 ดอลลาร์ จาก 120 ดอลลาร์ เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เนื่องจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่สูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
คาดว่าผลจากการลงมติครั้งนี้จะใช้เวลาอีก 3 สัปดาห์ จึงจะสะท้อนถึงราคาผู้บริโภค
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังผลิตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563
 
การดึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้สูงขึ้น เป็นเป้าหมายของความเคลื่อนไหวในครั้งล่าสุด ซึ่งคาดวาผลักดันโดย “ซาอุดีอาระเบีย” พี่ใหญ่ของกลุ่มโอเปก ซึ่งเป็นชาติที่ผลิตน้ำมันได้มากที่สุดในโลก
 
นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า ซาอุดีฯต้องการให้น้ำมันดิบกลับมาทรงตัวอยู่อย่างมีเสถียรภาพ เหนือระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง
ทั้งนี้ การปรับลดกำลังการผลิตลงมีแนวโน้มก่อให้เกิดความเสี่ยงใหม่ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น ในขณะที่นานาประเทศพากันขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อซึ่งเกิดจากปัญหาระดับราคาของพลังงานอยู่ในเวลานี้
 

  
'เจ้าสัวบุญชัย' มองปรับครม.ไม่ช่วยทำเศรษฐกิจดีขึ้น มองไม่เห็นมือดีช่วยแก้วิกฤต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3601997
 
“เจ้าสัวบุญชัย” มองปรับครม.ไม่ช่วยทำเศรษฐกิจดีขึ้น มองไม่เห็นมือดีช่วยแก้วิกฤต “นายกค้าปลีก”โวยกฎเหล็กกกต.ทำ”มาม่า-ข้าวสาร”ขายอืด
 
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยังมองไม่เห็นหนทางว่าหากปรับครม.แล้วจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ เป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลก และสงครามรัสเซียกับยูเครน เกิดภาวะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น พลังงานราคาแพง ยกเว้นจะปรับครม.เพื่อแก้ปัญหาในทางการเมืองและให้พรรคร่วมรัฐบาลถูกใจก็ว่ากันไป เนื่องจากอาจจะมีรัฐมนตรีบางคนที่มีปัญหาในการทำงานพลาด
 
“เวลารัฐบาลก็เหลือไม่มาก เพราะจะเลือกตั้งแล้วในปีหน้า ถามว่าจะปรับไปทำไม ปรับไปแล้วก็มองไม่เห็นว่าจะดีขึ้น และใครจะเป็นมือดีด้านเศรษฐกิจเข้ามาช่วยแก้วิกฤตก็ยังมองไม่เห็น ถึงจะเปลี่ยนครม.ยกชุดก็ไม่ดีขึ้น “ นายบุญชัยกล่าว
 
ขณะที่ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทยกล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศค้าขายซบเซาค่อนข้างหนัก หลังคนใช้เงินคนละครึ่งเฟส 5 หมดแล้ว ประกอบกับเกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ด้วย ทำให้การซื้อของก็ลำบากมากขึ้น ก่อนหน้านี้การซื้อของแห้ง เช่น มาม่า ข้าวสาร ยังคึกคักบ้างจากการมีองค์กรต่างๆ ซื้อไปแจกคนที่ประสบอุทกภัย แต่หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีข้อห้ามผู้สมัครและพรรคการเมืองไม่สามารถมอบของช่วยเหลือแก่ประชาชนในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การมอบสิ่งชองช่วยเหลืออุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย และโรคระบาด หรือในเหตุที่เกิดขึ้นลักษณะเดียวกัน ทำให้บรรยากาศยิ่งเงียบมากขึ้น เพราะคนยังเดือดร้อนจากน้ำท่วมและคนไม่มีกำลังซื้อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่