ไดอารี่ความคิดถึง (ตอนเงินล่องหน)

กระทู้สนทนา


ตอน : เงินล่องหน
#เรื่องสั้นเรื่องนี้มีบทพูดเป็นภาษาอีสานค่ะ#


             คุณเคยเจอเรื่องปริศนาไหม… แล้วจนป่านนี้หาต้นตอเจอหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น!

             เช้าวันอาทิตย์เป็นเช้าที่แสนวุ่นวายที่สุดอีกวัน สำหรับวันหยุดของพวกเธอ ตั้งแต่เช้ามืดยายพูดไม่หยุดปาก เที่ยวปลุกพวกเธออยู่อย่างนั้น เว้นระยะไม่ถึงสามนาทีก็ตะโกนปลุกอีก ดูท่าทียายจะไม่ยอมหยุดง่าย ๆ ถ้าพวกเธอไม่ยอมตื่นเดินออกมาจากมุ้ง

              “ลุก ๆ แม้ พากันลุกแหมะยายจะไปบ้านเพิ่นหนิ ลูกบ้านหลานเมืองเพิ่นตื่นเมิดแล้ว จะแมนพากันตื่นสวยเว้ย” ประโยคซ้ำ ๆ ที่พวกเธอได้ยินตั้งแต่เช้าตรู่ “ตื่นแม้! ตื่น ๆ” จนในที่สุดพวกเธอต้องยอมตื่น ทยอยคลานออกมาจากมุ้งกันทีละคน

              พี่ชายสองคนก็ไม่รอด พี่บอมกับพี่บอลแยกตัวไปนอนบนชั้นสองของบ้าน ปิดประตูชั้นสองเอาไว้ ก็ไม่รอดพ้นจากการปลุกมาราธอนของยาย เท่านั้นยังไม่พอ ยายใช้ด้ามไม้กวาดเคาะไปที่เพดานชั้นสอง ตรงบริเวณห้องของพี่ ๆ อีกด้วย ปลุกทั้งสองคนจนกว่าจะเดินลงมาชั้นล่าง บ้านของเธอชั้นสองทำด้วยไม้ ยายจึงสามารถใช้วิธีนี้ได้ และมันก็ได้ผลเสมอ พี่ชายทั้งสองคนแหกขี้ตาเดินลงมายังชั้นล่างด้วยความงัวเงีย

              “ลงมาหาล้างหน้าล้างตาแปรงฟันออก หากินข้าว ยายสิไปบ้านเพิ่นหนิ” ยายยืนเท้าสะเอวมองหลานชายทั้งสองคนเดินต่อแถวกันลงบันไดมาอย่างเชื่องช้า

              “อี่ยายคือปลุกตะเช้าแถะห่วย วันอาทิตย์กะปลุกคนตะเช้าคักเฮ้ย” พี่บอลพี่ชายคนรองแอบต่อว่ายาย พูดพลางอ้าปากหาวไปด้วย

              “อี่ยายจักจ่มอิหยังเด้อ แต่เช้า ๆ พุ่น หน่าย” บอสค่อนขอดยายด้วยเช่นกัน ขณะเปิดประตูห้องน้ำออกมา หงุดหงิดอยู่ในที เธอเพิ่งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาซับหน้าให้แห้ง ตามด้วยน้องบีมที่เดินออกจากห้องน้ำตามหลังมาติด ๆ ส่วนพี่ปาวพี่แป้งนั้นชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว

              “ตะเช้าอิหยัง สวยพอแฮงล่ะ มืงออกไปเบิ่งขี้ตะเว้นข้างนอกแน บักสองบักหนิกะฟ้าวไปหาล้างหน้า ออกมากินข้าว ยายสิไปธุระ สวยแล้ว” ยายก็ยังมิวายบ่นให้อีก ยืนคุมกันเลยทีเดียว พวกเธอแยกย้ายกันไปจัดการตัวเอง ก่อนจะออกไปทานข้าวเช้าที่แคร่หน้าบ้าน ซึ่งยายเตรียมไว้รอเสร็จสรรพ

              บอสเดินออกมาด้านนอก สภาพอากาศเย็นสบายเพราะยังเช้าอยู่ พึ่งจะหกโมงเช้าแต่ยายบอกว่าสายแล้ว ทำให้นึกไม่พอใจยายอยู่มาก ชอบปลุกแต่เช้าตลอด วันหยุดก็ไม่เคยให้นอนตื่นสาย ๆ สักวัน ปลุกพวกเธอกันแต่เช้าเหลือเกิน แต่บอสก็ไม่ได้ต่อว่ายายใด ๆ อีก เพียงทำหน้ามุ่ยให้เท่านั้น

              “พุ้นอี่นึงหน้าบูดมู่ยู่อยู่พุ่น” ยายท้วงเธอ แต่เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ บอสเดินเข้ามานั่งล้อมวงกินข้าวเช้ากับยายและตาพร้อมทั้งพี่ ๆ และน้องบีม

              “อี่ยายสิไปบ้านใด” พี่ปาวถาม “อี่ตาไปนำอยู่บ่” พี่ปาวถามขณะทานข้าวด้วยกัน

              “ไปบ้านไคร้ ตากะไป” ยายตอบ หมู่บ้านที่ยายพูดถึงคือหมู่บ้านของตาเอง บ้านเกิดของตา

              “น้องบีมไปนำเด้ออี่ยาย” น้องบีมขอตามไปด้วยเช่นเคย แต่ต้องผิดหวังเพราะตาไม่อนุญาต

              “สิแล่นไปนำหยัง คนบ่ได้ไปเอาบุญ” ตาเป็นคนตอบหลานสาวคนเล็ก “ไปไสมาไสอย่าสิหัดแล่นนำก้นคักหลาย ใหญ่ล่ะ” ตามิวายเอ็ดไปอีก ส่วนพวกเธอเงียบกริบ ไม่กล้าเอ่ยคำใด ๆ นั่งกินข้าวกันเงียบ ๆ

              “เอ้า… บ่ทันใหญ่อยู่ น้องบีมน้อย ๆ นึงอี่ตา น้องบีมอยากไปนำนั่นเด้” แต่น้องบีมก็ยังไม่หยุดอ้อนวอน ในบรรดาหลาน ๆ ของตา ไม่ว่าคนที่โตแล้วหรือพวกเธอ น้องบีมเป็นคนเดียวที่ต่อล้อต่อเถียงกับตาได้

              “ยายบ่ได้ไปเอาบุญ ยายไปเฮือนฮ้าง พากันอยู่เฮือนเด้อ เอาผีตกป่าแล้วยายกะมา ปาวอย่าพาน้องหนีจากเฮือน ขั้นมีคนแปลกหน้ามาเห็นท่าบ่ดีให้พาน้องไปหาป้าสุ่มเลย บ่สั่นกะพากันไปหายายอ้วน ยายอ้วนเราอยู่เฮือนตลอดล่ะ ยายเอาเงินไว้ให้ห้าสิบบาท พาน้องหาซื้อแนวกินเที่ยง ซื้อมากินนำกัน” ยายกำชับในวงพาข้าว ที่แท้ญาติของตาก็เสีย ตากับยายจึงต้องไปฌาปนกิจ หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘กินทานหา’

              “แล่นไปหยังบ่แมนไปเอาบุญ คนไปเฮือนฮ้าง” ตาตอบ น้องบีมหน้ามุ่ยที่ถูกขัดใจ

              “อี่ยายกับอี่ตาสิไปจังใดฮั่น นั่งรถสองแถวไปบ่” พี่บอมถาม บ้านเกิดของตารถสองแถวเข้าเมืองวิ่งผ่าน สามารถนั่งรถสองแถวไปได้ ค่าโดยสารไม่กี่บาท

              “บ่ ลุงลงมาฮับ จักนอยเรากะมาแล้วหนิ” พูดไม่ทันขาดคำก็มีรถกระบะสีดำวิ่งเข้าซอยมาจอดหน้าบ้าน ไม่ใช่รถใครที่ไหน เป็นรถของลุงลงที่จะมารับตากับยาย ลุงลงเป็นหลานชายแท้ ๆ ของตา เป็นลูกพี่สาวของตา พอลุงลงลงจากรถพวกเธอก็ยกมือไหว้อย่างคุ้นเคย

              “บ่ฟ้าวยายบ่ฟ้าว ให้พากันกินข้าวให้อิ่มโลด” ลุงลงกล่าวแล้วนั่งรอที่กี่ทอผ้าของยาย พอหลานชายมารับตากับยายจึงอิ่มในทันที เตรียมตัวเดินทาง เพราะอยากรีบไป ไม่อยากประวิงเวลาให้สายไปกว่านี้อีก “พ่อแม่เด็กน้อยมูหนิคือสิบ่มาเฮ็ดนาคือเก่าน้อยายปีหนิ” ลุงลงชวนคุยฆ่าเวลาระหว่างรอ

              “บ่มาแหล่ว บอกให้มันมามันกะบ่มีไผมาจักคน เบิ่งพ่อเฮ็ดอยู่ผู้เดียว แล่นไปท่งนั่นท่งนี้อยู่ ส่งตะเงินมาให้” ยายบ่น “สีข้าวได้กูเอาเมิดเด้อสั่นหรอก” ยายพูดปนยิ้ม แซวลูกตัวเองไปอย่างนั้น ส่วนลุงลงก็ขำไปกับคำพูดของยาย

              “ดีแล้วมันส่งเงินมาให้ เจ้ากะสิไปเฮ็ดเองเฮ็ดหยัง เขาส่งมาให้กะจ้างคนสั่นตั้ว” ลุงคุยกับยาย สักพักตาก็เดินออกมาจากในบ้าน เป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว

              “อย่าพากันหนีจากเฮือนเด้อ เอิ้นกันมากินข้าวนำ เอิ้นมูมาเฮือนกะแนมตีนแนมมือเขานำแนล่ะ ฮาเขาลักหยิบของเฮือนไป” ยายกำชับก่อนขึ้นรถ ไม่ใช่ระแวงอะไร เพียงกำชับไว้เท่านั้น

              พวกเธอถูกสอนว่าห้ามลักเล็กขโมยน้อยมาตั้งแต่เด็ก ๆ ห้ามหยิบจับของคนในบ้านโดยไม่ขออนุญาต พวกเธอก็ไม่มีใครทำแบบนั้นสักคน แล้วลุงลงก็พายายกับตาออกเดินทาง บอสมองน้องบีมทำหน้าละห้อยมองยายกับตาขึ้นรถ ตัวเองไม่ได้ตามไปด้วย

              วันนี้บอสกับน้องบีมและพี่ ๆ ทั้งสี่คนต่างไม่ยอมไปเล่นที่อื่นเลย ทุกคนขลุกตัวอยู่แต่บ้าน วันหยุดเช่นนี้เมื่อเธอไม่ไปเล่นกับสองฝาแฝด สองฝาแฝดก็เป็นฝ่ายมาหาเธอที่บ้านเอง อีกทั้งเด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่คุ้มเดียวกันก็มาเล่นที่บ้านด้วย ทำให้บรรยากาศที่บ้านครึกครื้นกว่าทุกวัน ยายไม่อยู่แบบนี้พวกเธอสนุกกันมาก ถ้ายายอยู่บ้านจะไม่ค่อยมีเด็ก ๆ มาเล่นนัก

              พี่ปาวเปิดประตูหน้าบ้านออก ด้วยว่าประตูหน้าบ้านของเธอบานใหญ่ มีขนาดกว้าง ทำให้มองเข้ามาภายในบ้านโล่งโอ่อ่า พี่ปาวเปิดหน้าต่างออกทุกบาน ทำให้บ้านสว่างขึ้น เป็นการไล่ยุงไปในตัว เปิดพัดลมเพดานไล่ยุงอีกสเต็ป

              พี่บอมเปิดหนังผีให้ทุกคนดู คนที่ไม่อยากดูก็ออกมาเล่นที่หน้าบ้าน แต่ละคนเทียวเข้าเทียวออกภายในบ้านอยู่อย่างนั้น ทว่าถึงจะมีคนมาเล่นที่บ้านมากมายแบบนี้ พี่ปาวพี่แป้งก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องต่อหน้าที่ ยังคอยมองทุกคนเงียบ ๆ ว่าจะแอบหยิบขโมยของในบ้านกลับหรือเปล่า ไม่ได้ระแวงเพื่อน ๆ แต่อดไม่ได้ที่จะป้องกันไว้ก่อน ส่วนสองฝาแฝดไว้ใจได้เสมอ

              ภายในบ้านใกล้ ๆ กับตู้วางโทรทัศน์ ยายจะทำขื่อเอาไว้ห้อยสิ่งของต่าง ๆ สิ่งที่ยายห้อยมักจะเป็นกระเป๋า ห้อยข้าวของเครื่องใช้ของยายเอาไว้ โดยที่พวกเธอไม่อาจทราบได้ว่าสิ่งของในนั้นมีอะไรบ้าง เพราะพวกเธอถูกสอนมาว่า ‘ห้ามมือไว ขโมยเงินในบ้าน หรือห้ามค้นของ ๆ ผู้ใหญ่’ จึงไม่มีใครเปิดดูว่ายายเก็บอะไรไว้บ้าง

              เธอ น้องบีม สองฝาแฝด พี่แป้ง และคนอื่น ๆ อีกสองคน กำลังเล่นกระโดดยางกันอยู่หน้าบ้าน พี่บอม พี่บอล พี่ปาวและเพื่อน ๆ ต่างก็ดูหนังผีกันอยู่ในบ้าน ขณะนี้ที่บ้านของเธอเสียงดังวุ่นวายไปด้วยเสียงพูดคุยของพวกเธอเอง เสียงดังจนทำให้ป้าสุ่มเดินมาดูลาดเลาว่าทำอะไรกัน

              “อี่ยายไปไสบอส” ป้ายืนพูดที่บ้านของตนเอง ขณะนี้บอสกำลังกระโดดยางอยู่ ต้องเบรกด้วยถูกขัดจังหวะ

              “อี่ยายไปบ้านไคร้ตะมื้อเช่าพุ่น” บอสตอบผู้เป็นป้า

              “อ้อ! ว่าพ่อใหญ่นั่นตายบ่ พากันกินแล้วบ่ข้าวเที่ยง ซุมใหญ่อยู่เฮือนบ่นั่น” ป้าถามถึงพี่ ๆ ไม่พอเดินมาหยุดยืนที่หน้าบ้านของเธอ ส่องเข้าไปมองพี่ ๆ ในบ้าน “แมนหยังคือหลายแถะหนิ พากันนอนเหยียดเบิ่งหนังคิ่งนิ่งอยู่บาดหนิ ระวังยุงหามเด้อ” ป้าสุ่มยืนท้วงพี่ ๆ ในบ้าน ทุกคนต่างหันมามองป้าเป็นสายตาเดียวกัน ส่วนบอสกลับมากระโดดยางต่อ เลิกสนใจป้าไปทันที

              “ป้าสุ่มไปหยัง” พี่บอลถาม

              “ย่างมาส่องเบิ่งสูซือ ๆ หนิแหล่ว เห็นพากันฮ้องแตกแซวซะอยู่” ป้าสุ่มกล่าว

              “ปานเอาบุญเจ้า ตะมื้อเช้าพุ่น” แม่น้อยคนบ้านติดกันกับเธอพูดแทรก “แม่ใหญ่บ่อยู่พามูมาเล่นเต็มเฮือนคักขนาด” แม่น้อยแซว บอสหัวเราะกับคำพูดของเพื่อนบ้านโดยมิได้คิดอะไรทั้งนั้น

              “กูขายของอยู่ได้ยินเสียงหัว ยายบ่อยู่บ้อวะ ย่างมาส่องเบิ่งจักบาดก่อนน่ะสั่นหรอก พอแมนอิหลิ” ป้าสุ่มคุยกับแม่น้อย “พาน้องกินข้าวเที่ยงแนล่ะ ไซตะเล่นหลาย” ป้ากำชับ จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านของตน พวกเธอมิใส่ใจ ยังคงพากันเล่นไปตามประสา

              พอถึงตอนเที่ยงเพื่อน ๆ ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันเพื่อไปทานข้าว ยกเว้นสองฝาแฝดที่ยังอยู่ที่นี่ต่อ อยู่กินข้าวเที่ยงไปกับพวกเธอ พี่ปาวให้เงินพี่บอลไปซื้อส้มตำ ส่วนกับข้าวกินของเดิมเมื่อเช้า ยายทำเผื่อไว้เยอะมาก พอตอนบ่ายก็ไม่มีใครกลับมาเล่นกับพวกเธอที่บ้านอีก นอกจากสองฝาแฝดเหมือนเดิมที่ขลุกตัวอยู่ที่นี่

              ช่วงบ่ายพวกเธอเปิดดูรายการโทรทัศน์ปกติ พี่ปาวกับพี่แป้งและน้องบีมเลิกดูโทรทัศน์ไปเล่นที่บ้านป้าสุ่ม อยู่ขายของช่วยป้า ส่วนพวกเธอที่เหลือดูโทรทัศน์กันต่อ ระหว่างดูเธอกับพี่บอมได้มีการแย่งรีโมทกัน ทว่าก็แพ้พี่ชายอยู่ดี พี่บอมได้เป็นคนคุมทุกช่องรายการ บอสจำใจต้องยอมดูตามที่พี่บอมกำหนด

              “ยามใดสิได้เบิ่งช่องสาม” บอสหน้ามุ่ยให้พี่ชาย ตนเองอยากดูละครช่วงบ่ายทางช่องสามเต็มทน

              “มันยังบ่โฆษณาอยู่” พี่บอมตอบหน้าตาเฉย ขณะนี้พี่ชายพาเธอกับสองฝาแฝดดูมวยไทยเจ็ดสีอยู่ โดยที่สองฝาแฝดก็ตั้งอกตั้งใจดูไปตาม ๆ กัน โดยไม่มีข้อโต้งแย้งสักคำ ดูไม่เข้าใจแต่ก็ยอมดูไปตาม ๆ กัน

              “นั่นมันโฆษณาแล้ว ฟ้าวเปิดให้บอสเลย” พอรายการมวยขั้นรายการ บอสก็รีบเอ่ยปากทันทีมิให้เสียเวลา พี่บอมยอมเปลี่ยนช่องให้โดยมีการลีลาเล็กน้อย กว่าจะเปลี่ยนช่องให้เธอได้ ก็ทำให้เสียเวลาไปอีก พอเปลี่ยนได้ครู่เดียวก็ต้องเปิดกลับมาช่องเจ็ดเหมือนเดิม ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่คิดอยากไปเล่นที่อื่น ยอมนอนดูมวยไทยไปกับพี่ชายทั้งสองคน

              “เย้! มวยจบแล้วเอารีโมทมา” บอสพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดี ทว่าพอรายการมวยจบ พี่บอมกลับนึกสนุกอย่างแกล้งเธอขึ้นมาเสียดื้อ ๆ โดยการนำรีโมทไปค้างไว้บนหลังตู้โทรทัศน์ มันสูงเกินที่พวกเธอจะคว้าเอาได้ ต้องใช้ตัวช่วยนั่นคือเก้าอี้

              “อยากได้กะเอาเอง” พี่บอมพูดปนหัวเราะ นำรีโมทไปค้างไว้บนหลังตู้ พร้อมเดินออกจากบ้านไปอย่างคนอารมณ์ดีที่ได้แกล้งเธอ มีพี่บอลเดินตามออกไปด้วย แต่คนไม่พอใจคือเธอเอง เล่นกันแบบนี้เลยหรือไร

              “บักอ้ายบอม บักห่าหนิ จำไว้เด้อมืง” บอสเขม่นพี่ชาย ด่าพี่ชายไล่หลังไป แต่ปัญหาแค่นี้ไม่ได้ทำให้บอสสิ้นหวังหรือจนมุมได้ บอสนำเก้าอี้มาปีนหยิบรีโมทมาจนได้ จากนั้นก็นอนดูโทรทัศน์อย่างสบายใจกับสองฝาแฝด โดยลืมนำเก้าอี้ไปเก็บที่เดิม

              ……………………………………
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่