สวัสดีครับชาวพันทิป จริงๆ ผมเคยมาตั้งกระทู้เล่าเรื่องนี้เมื่อหลายเดือนก่อนแล้วครับ แต่...มันบินไปแล้ว แอบเสียดาย เพราะคนสนใจเยอะ แล้วผมก็ได้เพื่อนใหม่จากที่ตอบคำถามหลังไมค์เยอะมาก วันนี้ผมเลยขอกลับมาแก้มือรีโพสต์อีกสักรอบ!
วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ดูดไขมันในผู้ชาย กับผลลัพธ์ที่ทำให้ผมถึงกับต้องฮึดกลับมาลดน้ำหนักอีกครั้งนึงครับ เดี๋ยวมาดูกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นครับ
พุงหมีกอดอุ่นนะครับ5555 (ก่อนดูดไขมัน)
เดิมทีผมเป็นคนที่มีรูปร่างสูงและตัวใหญ่มาตั้งแต่เด็กๆ(เป็นผู้ชายหุ่นหมี กอดอุ่นนะครับ555) ไม่ได้เป็นคนผอม มีการควบคุมน้ำหนักบ้างเป็นระยะ อย่างกินพวกคีโต และออกกำลังกายเข้ายิม น้ำหนักมันก็ลดลงบ้างแบบขึ้นๆลงๆ ยิ่งพักหลังๆ ต้องทำงานอยู่บ้านแบบ WFH คราวนี้ไปกันใหญ่เลยครับ ยิมก็ไม่ได้เข้า ที่บ้านก็ไม่มีอุปกรณ์เหมือนในยิมให้เล่น กินเท่าเดิมแต่ร่างกายไม่ได้ขยับเลย555
รู้ตัวอีกทีพวกไขมันก็มากองรวมกันทั่วร่างกาย แต่ที่ทำให้ผมกังวลและขาดความมั่นใจสุดๆ คงหนีไม่พ้นพุงห้อยๆ ห่วงยางรอบเอวของผม ยิ่งเวลาใส่เสื้อยืดมันจะติดตรงช่วงพุงแบบเห็นชัดมากจนเผลออีกทีคือ ผมต้องซื้อเสื้อใหม่ที่มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปกปิดพุง หุ่นหมีแบบผมแน่นอนครับว่าต้องมีคนอยากมาเล่นมาจับพุง555 ช่วงแรกก็รู้สึกเฉยๆ ครับ แต่เล่นไปเล่นมาผมกลับรู้สึกแปลกๆ ขาดความมั่นใจไปเลย และรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วหละ ผมนึกขึ้นได้ว่าคุณอาของผมเคยดูดไขมันมาก่อนแล้วสัดส่วนลดลงไปเยอะเลย ดูตัวเล็กลง ไม่รอช้าครับ จากนั้นผมเริ่มหาข้อมูลเรื่องดูดไขมันทันที!
มาถึงตรงนี้หลายคนคงแปลกใจว่าทำไมผู้ชายถึงมีความคิดที่จะดูดไขมันใช่ไหมครับ ผมเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน555 แต่ทำไงได้ผู้ชายอย่างผมก็อยากดูดีและมั่นใจเหมือนกับสาวๆ เค้าบ้าง เลยคิดว่าอยากลองดูดไขมันสักครั้งในชีวิต ด้วยความที่ผมติด social พอสมควร เริ่มหาข้อมูลตามคลินิกทั่วๆ ไป หลายที่มีแต่รูปรีวิวผู้หญิงดูดไขมัน แต่มีคลินิกที่นึงที่สะดุดตาผมมาก เพราะเค้ามีรูปรีวิวดูดไขมันผู้ชายด้วยครับ มันทำให้ผมเห็นว่าถ้ารูปร่างผู้ชายดูดไขมันออกมาแล้วผลลัพธ์ที่เห็นมันโอเคเลย ผมเลยทักแชทเข้าไปสอบถามรายละเอียดและนัดวันเข้าพบหมอครับ
เดี๋ยวขอคั่นรายการ อิอิ ด้วยสัดส่วนของผมก่อนที่จะดูดไขมันนะครับ
ส่วนสูง 183 ซม.
น้ำหนัก 138 กก.
ค่า BMI 40.3
หน้าท้องด้านบน 111 ซม.
หน้าท้องช่วงกลาง (แถวๆ สะดือ) 119 ซม.
หน้าท้องด้านล่าง 121 ซม.
ผมขอกระโดดข้ามมาตอนนัดพบหมอเลยนะครับ พอมาถึงที่คลินิกก็ตื่นเต้นนิดหน่อยครับ เพราะด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย ลำพังจะเดินเข้าคลินิกดูดไขมันก็มีเขินๆ บ้าง555 แต่ก็ใจดีสู้เสือครับ ไหนๆ ก็มาแล้ว
ตอนวันที่มาปรึกษา ผมบอกก่อนครับว่าคุณหมอที่นัดปรึกษาจะเป็นคนละคนกับที่ดูดไขมันให้ผม ผมได้เจอกับคุณหมอมะปรางก่อน วันนั้นก็พูดคุยกันถึงความต้องการของผมก่อนเลย ผมบอกว่าผมอยากดูดไขมันทั่วตัวแบบครั้งเดียวไปเลย ทั้งพุง เอว ขา แขนอะไรแบบนี้อะครับ แต่คุณหมอมะปรางเบรกผมไว้ก่อน เพราะคุณหมอบอกว่าปริมาณไขมันเรามีค่อนข้างมาก เป็นผู้ชายไซซ์ 3XL เลย ดูดไขมันครั้งเดียวทั่วตัวอาจยังไม่แนะนำ ทางที่ดีควรจะแบ่งทำ โดยเลือกในส่วนที่เรากังวลมากที่สุดก่อน ผมเลยเชื่อคุณหมอ เลือกเป็นที่พุงก่อนเลย ตัดสินใจเสร็จผมก็นัดวันทำเลยครับ ผมไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว555
ทีนี้ก็มาถึงวันนัดดูดไขมันกันบ้าง ผมได้พบกับคุณหมอไปร์ทครับเป็นคุณหมอที่จะมาดูดไขมันให้ผม คุณหมอพูดคุยแจกแจงรายละเอียดต่างๆ แบบถี่ยิบเลยครับ และยังย้ำกับผมอีกว่าการดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนักนะ แต่เป็นการปรับสัดส่วนให้มันดูดีดูสมส่วนมากขึ้น ฉะนั้นแล้วหลังดูดไขมันจะไม่ให้ทำให้ตัวผมเล็กลง ผอมลง ซึ่งหลังทำน้ำหนักอาจลดลงบ้างแต่จะไม่ได้มากมายอะไร และตัวเราก็ยังจะดูใหญ่เพราะโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่อยู่แล้ว พอฟังคุณหมอพูด ผมได้ความรู้มากขึ้นเลยครับ ฟังแล้วมันมีเหตุมีผลดี
ขั้นตอนวาดเคสเพื่อวางแผนการรักษาครับ
คุยเสร็จก็ตามรูปบนเลยครับ มาถึงขั้นตอนการวาด! คุณหมอไปร์ทเอายาสีม่วงๆ (รึเปล่าไม่แน่ใจ555) มาวาดตำแหน่งที่จะดูดไขมันออกครับ คุณหมอแจกแจงชัดเจนว่าจะเอาตรงไหนออกบ้าง สรุปแล้ว คุณหมอบอกว่าจะต้องมีการดูดไขมัน 2 บริเวณคือ ดูดไขมันหน้าท้องช่วงบนและล่าง และดูดไขมันรอบเอว โดยใช้เครื่อง Vaser Smooth2.2 ที่คุณหมอเล่าว่ามันเป็นเครื่องที่ดีที่สุดตอนนี้ เพราะดูดไขมันได้เยอะและยังเหมาะกับดูดไขมันผู้ชายที่มีมวลไขมันหนาแน่นแบบผมด้วย คุณหมอยังเสริมด้วยว่า หลังประเมินเคสผมแล้ว ผิวหนังของผมมีแนวโน้มที่จะหย่อนคล้อยเลยแนะนำให้กระชับผิวด้วย J Plasma ไปพร้อมๆ กันทีเดียว แบบไม่ต้องเปิดแผลใหม่ ใช้แผลเดียวกันกับดูดไขมันได้เลย ผมคิดในใจว่า หมอว่าดีผมก็ว่าดีครับ555
อ่อ ลืมบอกว่าผมเลือกดูดไขมันแบบวางยาสลบนะครับ เพราะคุณหมอบอกว่าดูดไขมันผู้ชายมันค่อนข้างจะใช้เวลานานนิดนึง ด้วยชั้นไขมันที่มันหนาแน่นและปริมาณไขมันที่เยอะ อาจจะมีความเจ็บระหว่างทำได้บ้าง เลยแนะนำให้ใช้วิธีดมยาสลบไปเลย ซึ่งผมก็โอเคมากครับ ไม่ได้กลัวอะไร เพราะที่นี่เค้ามีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลเราอยู่แล้ว ผมเลยไม่ได้กังวลอะไร แต่ผมบอกกับหมอไปว่าผมค่อนข้างกังวลเรื่องดูแลตัวเองหลังทำ เพราะผมเป็นผู้ชายผมก็กลัวว่าจะดูแลตัวเองได้ไม่ดีพอเหมือนผู้หญิง แล้วจะเกิดผลแทรกซ้อนอะไรหรือเปล่า คุณหมอไปร์ทก็ตอบให้ผมสบายใจว่าที่นี่มีบริการดูแลหลังทำ เค้าจะเรียกว่า After Care ไม่ต้องห่วง จะดูแลเป็นอย่างดีจนกว่าแผลจะฟื้นตัว ผมก็งงเลยถามต่อว่ามันคืออะไรหรอครับ คุณหมอก็น่ารักตอบไปยิ้มไปว่า บริการมันจะรวมครอบคลุมหมด ตั้งแต่ทำแผล ตัดไหม ยากินยาฉีด ฉายแสงลดบวม เลเซอร์ลดรอยแดงรอยดำ นวดกระชับหลังดูดไขมัน และมีฉีดคีลอยด์ด้วยสำหรับใครที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์มาก่อนหรือกังวลเรื่องรอยแผล หมอบอกว่าเดี๋ยวเราได้เจอกันบ่อยๆ อีกแน่ เพราะจะนัดเข้ามาทำ After Care เรื่อยๆ ได้ยินแบบนี้ผมก็เลยโล่งใจครับ เอาหละครับผมพร้อมทำแล้วครับ555
ขอวาร์ปปปปป ...มาวันดูดไขมันเลยนะครับ
พอเข้าห้องผ่าตัดผมเห็นว่ามีพวกอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเต็มไปหมด ห้องสะอาดสะอ้านเหมือนกับโรงพยาบาลใหญ่ๆ เลยครับ ขั้นตอนนี้อาจไม่มีอะไรมาเล่านะครับ เพราะแค่นับ1 2 3 4 5 ผมก็หลับไปแล้วด้วยฤทธิ์ยาสลบนั่นเองครับ555 รู้ตัวอีกทีคือตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนๆ งงๆ พร้อมกับคิดในใจว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ555
ลัดเลาะมาตอนผลลัพธ์หลังดูดไขมันกันเลยนะครับ หลังดูดไขมันผมก็ดูแลตัวเองตามที่คุณหมอและพี่ๆ เจ้าหน้าทีแนะนำ ชนิดที่ว่าเคร่งครัดกับตัวเองมาก ทั้งใส่ชุดกระชับ กินยา รวมถึงเข้ามา Follow up และทำเลเซอร์ลดรอย นวดกระชับ RF เรียกได้ว่ามาจนสนิทกับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ไปแล้วครับ555 ผมว่าพวก After Care นี่แหละที่ทำให้ผมฟื้นตัวไวและลดบวมได้ไวมากครับ ส่วนเรื่องแผลก็เล็กมากครับ พี่ๆ ที่คลินิกบอกว่าทำเลเซอร์อีกไม่กี่ครั้งรอยก็หายแล้วครับ ซึ่งหลังจากดูดไขมันมาแล้ว 1 เดือน สังเกตได้ชัดเจนเลยว่าหน้าท้องยุบลงไปมาก ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ อาการบวมไม่มีแล้ว
หลังดูดไขมันประมาณ 3-4 สัปดาห์ เห็นได้ชัดเลยว่าหน้าท้องหายไปเยอะมากครับ
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผม ผมว่ามันโอเคเลย ไขมันหน้าท้องมันหายไปเยอะมาก ไม่มีห่วงยางที่เอวเหมือนแต่ก่อนแล้ว ใส่เสื้อแล้วมันไม่อึดอัดเหมือนแต่ก่อน แต่…พอมองมาที่ขาตัวเองก็ยังอดขำไม่ได้ครับ เพราะหน้าท้องหายแต่ขาผมยังใหญ่อยู่! ไม่แปลกครับเพราะตอนต้นคุณหมอมะปรางแนะนำให้ผมแบ่งดูดไขมันไปทีละส่วนจะดีกว่า ผมว่าผมไม่รีบนะ ผมรอได้555 ครั้งหน้าผมจัดอีกแน่ครับ!
หลังดูดไขมัน 6 สัปดาห์ครับ
ทีนี้มาถึงประเด็นสำคัญเลยเหมือนกับที่ผมเปรยไว้วันแรกที่ตั้งกระทู้ นั่นก็คือ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมลดน้ำหนักครับ ใช่ครับ! พอมองดูตัวเองในกระจกทุกวัน ผมแฮปปี้กับหน้าท้องหลังดูดไขมันมาก ไขมันคือแบบหายไปเลย ลืมบอกครับว่าเอวผมหายไปประมาณ 8 เซนติเมตร และมีทีท่าว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ จากอานิสงของเจ้าชุดกระชับนี่แหละครับ555 คือยื่งใส่หน้าท้องผมยิ่งลดจนต้องเปลี่ยนชุดกระชับให้ไซซ์เล็กลงมาเรื่อยๆ ตอนนี้ขยับมา 2-3 ไซส์เรียบร้อยแล้วครับ
ต่อมาผมจึงคิดได้ว่า ไหนๆ เราก็ดูดไขมันออกไปแล้ว ลงทุนขนาดนี้แล้ว ทำไมต้องหยุดอยู่แค่นี้ ทำไมเราไม่ไปต่อ เพราะผมยังมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมากอยู่นั่นเองครับ มันไม่ใช่เพื่อใครครับแต่เพื่อตัวผมเอง ผมเลยเริ่มจากควบคุมอาหารจริงจัง ออกกำลังกายได้บ้างแต่ไม่ถึงกับหนักมาก เพราะคุณหมอแนะนำว่าช่วงเดือนแรกยังไม่ควรออกแรงมากๆ ซึ่งตอนนี้น้ำหนักผมลดลงมาประมาณ 7-8 กิโลกรัม และแน่นอนว่าถ้าขาผมยังไม่ลด ผมจะกลับไปดูดไขมันออกแน่นอนครับ555 และนี่แหละครับคือสาเหตุที่ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองอย่างต่อเนื่อง
เอาหละครับท้ายนี้ ผมหวังว่าการมาแชร์ประสบการณ์ดูดไขมันผู้ชายของผมก็จะเป็นแรงบันดาลใจส่งต่อไปยังหนุ่มๆ อีกหลายคนให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันบ้างนะครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผม ผมก็ไม่ได้หวังพึ่งการดูดไขมันแต่เพียงอย่างเดียว ผมใช้วิธีการคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกายและทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายได้ขยับมากขึ้นครับ
ถ้ามีข้อสงสัยที่อยากจะสอบถามผมเพิ่มเติม พิมพ์ทิ้งไว้ได้เลยนะครับ ผมจะเข้ามาทยอยตอบเรื่อยๆ แน่นอนครับ ยินดีครับผม!
[SR] แชร์เรื่องจริง! ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย กับผลลัพธ์ที่ “ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจลดน้ำหนัก”
เดี๋ยวขอคั่นรายการ อิอิ ด้วยสัดส่วนของผมก่อนที่จะดูดไขมันนะครับ
ส่วนสูง 183 ซม.
น้ำหนัก 138 กก.
ค่า BMI 40.3
หน้าท้องด้านบน 111 ซม.
หน้าท้องช่วงกลาง (แถวๆ สะดือ) 119 ซม.
หน้าท้องด้านล่าง 121 ซม.
ผมขอกระโดดข้ามมาตอนนัดพบหมอเลยนะครับ พอมาถึงที่คลินิกก็ตื่นเต้นนิดหน่อยครับ เพราะด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย ลำพังจะเดินเข้าคลินิกดูดไขมันก็มีเขินๆ บ้าง555 แต่ก็ใจดีสู้เสือครับ ไหนๆ ก็มาแล้ว
ตอนวันที่มาปรึกษา ผมบอกก่อนครับว่าคุณหมอที่นัดปรึกษาจะเป็นคนละคนกับที่ดูดไขมันให้ผม ผมได้เจอกับคุณหมอมะปรางก่อน วันนั้นก็พูดคุยกันถึงความต้องการของผมก่อนเลย ผมบอกว่าผมอยากดูดไขมันทั่วตัวแบบครั้งเดียวไปเลย ทั้งพุง เอว ขา แขนอะไรแบบนี้อะครับ แต่คุณหมอมะปรางเบรกผมไว้ก่อน เพราะคุณหมอบอกว่าปริมาณไขมันเรามีค่อนข้างมาก เป็นผู้ชายไซซ์ 3XL เลย ดูดไขมันครั้งเดียวทั่วตัวอาจยังไม่แนะนำ ทางที่ดีควรจะแบ่งทำ โดยเลือกในส่วนที่เรากังวลมากที่สุดก่อน ผมเลยเชื่อคุณหมอ เลือกเป็นที่พุงก่อนเลย ตัดสินใจเสร็จผมก็นัดวันทำเลยครับ ผมไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว555
ทีนี้ก็มาถึงวันนัดดูดไขมันกันบ้าง ผมได้พบกับคุณหมอไปร์ทครับเป็นคุณหมอที่จะมาดูดไขมันให้ผม คุณหมอพูดคุยแจกแจงรายละเอียดต่างๆ แบบถี่ยิบเลยครับ และยังย้ำกับผมอีกว่าการดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนักนะ แต่เป็นการปรับสัดส่วนให้มันดูดีดูสมส่วนมากขึ้น ฉะนั้นแล้วหลังดูดไขมันจะไม่ให้ทำให้ตัวผมเล็กลง ผอมลง ซึ่งหลังทำน้ำหนักอาจลดลงบ้างแต่จะไม่ได้มากมายอะไร และตัวเราก็ยังจะดูใหญ่เพราะโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่อยู่แล้ว พอฟังคุณหมอพูด ผมได้ความรู้มากขึ้นเลยครับ ฟังแล้วมันมีเหตุมีผลดี
อ่อ ลืมบอกว่าผมเลือกดูดไขมันแบบวางยาสลบนะครับ เพราะคุณหมอบอกว่าดูดไขมันผู้ชายมันค่อนข้างจะใช้เวลานานนิดนึง ด้วยชั้นไขมันที่มันหนาแน่นและปริมาณไขมันที่เยอะ อาจจะมีความเจ็บระหว่างทำได้บ้าง เลยแนะนำให้ใช้วิธีดมยาสลบไปเลย ซึ่งผมก็โอเคมากครับ ไม่ได้กลัวอะไร เพราะที่นี่เค้ามีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลเราอยู่แล้ว ผมเลยไม่ได้กังวลอะไร แต่ผมบอกกับหมอไปว่าผมค่อนข้างกังวลเรื่องดูแลตัวเองหลังทำ เพราะผมเป็นผู้ชายผมก็กลัวว่าจะดูแลตัวเองได้ไม่ดีพอเหมือนผู้หญิง แล้วจะเกิดผลแทรกซ้อนอะไรหรือเปล่า คุณหมอไปร์ทก็ตอบให้ผมสบายใจว่าที่นี่มีบริการดูแลหลังทำ เค้าจะเรียกว่า After Care ไม่ต้องห่วง จะดูแลเป็นอย่างดีจนกว่าแผลจะฟื้นตัว ผมก็งงเลยถามต่อว่ามันคืออะไรหรอครับ คุณหมอก็น่ารักตอบไปยิ้มไปว่า บริการมันจะรวมครอบคลุมหมด ตั้งแต่ทำแผล ตัดไหม ยากินยาฉีด ฉายแสงลดบวม เลเซอร์ลดรอยแดงรอยดำ นวดกระชับหลังดูดไขมัน และมีฉีดคีลอยด์ด้วยสำหรับใครที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์มาก่อนหรือกังวลเรื่องรอยแผล หมอบอกว่าเดี๋ยวเราได้เจอกันบ่อยๆ อีกแน่ เพราะจะนัดเข้ามาทำ After Care เรื่อยๆ ได้ยินแบบนี้ผมก็เลยโล่งใจครับ เอาหละครับผมพร้อมทำแล้วครับ555
ขอวาร์ปปปปป ...มาวันดูดไขมันเลยนะครับ
พอเข้าห้องผ่าตัดผมเห็นว่ามีพวกอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเต็มไปหมด ห้องสะอาดสะอ้านเหมือนกับโรงพยาบาลใหญ่ๆ เลยครับ ขั้นตอนนี้อาจไม่มีอะไรมาเล่านะครับ เพราะแค่นับ1 2 3 4 5 ผมก็หลับไปแล้วด้วยฤทธิ์ยาสลบนั่นเองครับ555 รู้ตัวอีกทีคือตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนๆ งงๆ พร้อมกับคิดในใจว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ555
ลัดเลาะมาตอนผลลัพธ์หลังดูดไขมันกันเลยนะครับ หลังดูดไขมันผมก็ดูแลตัวเองตามที่คุณหมอและพี่ๆ เจ้าหน้าทีแนะนำ ชนิดที่ว่าเคร่งครัดกับตัวเองมาก ทั้งใส่ชุดกระชับ กินยา รวมถึงเข้ามา Follow up และทำเลเซอร์ลดรอย นวดกระชับ RF เรียกได้ว่ามาจนสนิทกับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ไปแล้วครับ555 ผมว่าพวก After Care นี่แหละที่ทำให้ผมฟื้นตัวไวและลดบวมได้ไวมากครับ ส่วนเรื่องแผลก็เล็กมากครับ พี่ๆ ที่คลินิกบอกว่าทำเลเซอร์อีกไม่กี่ครั้งรอยก็หายแล้วครับ ซึ่งหลังจากดูดไขมันมาแล้ว 1 เดือน สังเกตได้ชัดเจนเลยว่าหน้าท้องยุบลงไปมาก ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ อาการบวมไม่มีแล้ว
ถ้ามีข้อสงสัยที่อยากจะสอบถามผมเพิ่มเติม พิมพ์ทิ้งไว้ได้เลยนะครับ ผมจะเข้ามาทยอยตอบเรื่อยๆ แน่นอนครับ ยินดีครับผม!
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม