สวัสดีค่ะ ทุกคนเราเป็นนักศึกษาครูเรียนอยู่ชั้นปีที่5ของม.แห่งหนึ่งในปีนี้เราได้มีการไปออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ช่วงเเรกเราตื่นเต้นเหมือนก้าวข้ามมากเพราะว่าปกติเราเรียนแค่ที่ม.ซึ่งในตอนนี้เรากำลังจะได้ไปสอนจริง คิดต่างๆนานค่ะว่าจะเป็นอย่างไร เจอนักเรียนแบบไหน โดยปกติเราเป็นคนที่ค่อนข้างคิดมากไม่แน่ใจเท่าไหร่ บางทีค่อนข้างมองโลกใรแง่บวกเลย คำว่าไม่เป็นไรติดปาก ในโรงเรียนที่เราไปฝึกค่อนข้างเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ดังนั้นระบบภายในโรงเรียนไม่ได้แบบจำแนกชัดเจนเลยค่ะ เราพึ่งกำลังฝึกจะจบเทอม1เราค้นพบอะไรลางอย่างเลยคือเราค่อนข้างอึดอัดมากเลยในการคุยกับผู้ใหญ่เข่นคุณครูในตอนตี้เรากำลังปรับปรุงและพยายามคุยให้ไม่ดูเงียบอยู่ค่ะ ในโรงเรียนพวกคำสั่งต่างเอกสารที่เราไม่ตำเป็นต้องทวงเป็นหน้าที่ของร.ร. เราก็ต้องทวงเพื่อให้ได้ทำรูปเล่มเพื่อให้เสร็จในการส่งซึ่งเราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องพูดแจ้งพูดทวงเป็นหน้าที่ ร.ร.ควรรู้ นอกจากนี้สำหรับเราแนวคิดบางแนวคิดของครูที่อายุเยอะมากเราจะรู้สึกเอ๊ะ ตลอดในใจเรื่อง เพศ จำกัดเด็กซึ่งเด็กเป็นแค่เด็กประถมเราคิดว่าไม่ควรจำกัดเพศเด็กเลย และ เรื่อง ภาระงานที่ต้องส่งม. หลังสิ้นเทอมเรารู้สึกว่าเราเบื่อไม่อยากทำอะไร เลยหลังจากกลับมาจากโรงเรียน กินข้าวก็ไม่ค่อยอยากกิน หรือบางทีเรากินมากเกินไปด้วยค่ะ เวลาทำงานเราเครียด เราก็จะร้องไห้ หรือเรื่องที่เราปฏิเสธครูที่ร.ร.ไม่ได้ส่วนมากเราจะทำค่ะเเต่เราจะร้องไห้ทุกครั้งอึดอัดมากที่ไม่สามารถปฏิเสธ พยายามแก้ไขแล้วหลังๆมันก็ร้องไห้ตลอดเรารู้สึกแค่เห็นงานเราพยายามทำแต่เรารู้สึกเหนื่อยไม่ไหวทำไม่ได้ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนในม.เราทำงานส่งก่อนเดดไลน์รีบเคลียงานตลอด อยากรู้ว่านี้มันคือความขี้เกียจใช่ไหมคะ? ซึ่งเรามานั่งคิดดูหรือว่าอนาคตเราจะไม่อยากเป็นครูจริงๆด้วยเห็นครูต้องประเมินทำอะไรหลายอย่างมากเกินจนไม่มีเวลาสอนนักเรียนด้วยซ้ำในสภาพเเวดล้อมของร.รหรือนี้อาจจะเป็นเหตุผลท่ช่วยเสริมให้เราเบื่อหน่าย ขี้เกียจในการทำงานภาระงานต่างส่งม.มากขึ้นคิดลบกับอาชีพครูในแง่ของภาระงานที่เกินความจำเป็นมากๆเลยค่ะ
หรือฉันจะขี้เกียจจริงๆ?