เรากับสามีแต่งงานกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน โดยสามีบอกว่าไม่อยากมีปัญหาเรื่องภาษี เค้าเป็นคนที่ไม่เคยยื่นภาษีเลยตั้งแต่เรียนจบ จนตอนนี้อายุ 40 กว่าเราเองก็คิดว่า ยังไงก็ได้ ไม่คิดอะไรมากแต่ลึกๆแล้วเรารู้สึกว่าเค้ากลัวว่าเราจะไปหวังทรัพย์สมบัติที่บ้านเค้ารึป่าว พ่อเค้ามีอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งแต่ก็ยังไม่ได้ยกให้ลูกๆ เราก็ไม่อยากจะคิดเยอะ ส่วนตัวก็มีบ้านพ่อแม่ที่เราเองก็ตั้งใจผ่อนจนหมดไปแล้ว
โดยปกติเราจะเก็บเงินร่วมกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานกันมาเป็นสิบปีประมาณจนท้ายสุดเก็บเดือนละคนละ 10,000 บาทโดยเราเป็นคนเก็บไว้ในบัญชีของเราเพราะเค้าเป็นคนกลัวว่าจะถูกเช็คว่ามีเงินในบัญชีอะไรประมาณนั้น เราเอามาหมุนว่าจะไปฝากอะไรที่ไหนดอกเบี้ยดี ทุกอย่างปกติดีหมด เราเคยถามว่าจะเก็บเยอะขึ้นมั้ยสักเดือนละ 15,000 - 20,000 เห็นเค้าเคยบ่นๆว่าอยากเกษียญไวๆ เพราะเอาจริงๆ ภาระของเราสองคนไม่มีอะไรมากกว่านั้น เราไม่มีลูก เค้าปฏิเสธบอกว่าไม่พอใช้ จริงๆเงินเดือนเราสองคนอยู่ที่ 45K-60K มาทราบที่หลังว่าเค้าเอาเงินให้พ่อเดือนละ 10K (อันนี้รู้อยู่แล้ว) และให้น้อง 10K (อันนี้เพิ่งรู้ไม่นาน) เราเองก็มีให้พ่อแม่ตัวเองนะแต่แค่เดือนละ 4K ต่อคนเพราะพี่เราก็ให้ด้วยเท่าๆกัน ตอนนั้นเราก็ถามว่าทำไมต้องให้น้อง คือน้องไม่ได้ทำงาน เค้ามีพี่น้อง 5 คนโดยที่เราเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าน้องคนอื่นๆได้ให้เงินพ่อใช้หรือป่าว แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้อะไรมากแค่สงสัยและถามไถ่ เลยมารู้ว่าน้องอีกคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบ คชจ ในบ้าน ซื้อของเข้าบ้าน แต่มาช่วงหลังๆนี้ที่เราใกล้ชิดก็เห็นว่าเค้าก็พากันไปซื้อของเข้าบ้านเองบ่อยๆ
ก่อนที่เราแต่งงานกันเค้ามีเปิดบริษัทและทำรายได้ๆปีนึงประมาณหลักแสนโดยที่ชื่อบจกเป็นชื่อเราและพ่อกับน้องเค้าคนนั้น จนมาเมื่อช่วงโควิดเรามีเหตุต้องออกจากงาน ช่วงที่ออกเค้าพูดว่าไม่เป็นไรเมียคนเดียวเค้าดูแลได้ เราเองช่วยเค้าทำบัญชีและดึงเงินบจก.ออกมาเป็นรายเดือนในกับเราเดือนละ 20K
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทำให้เค้าเปลี่ยนไป เดิมทีเค้าฟังความเห็นของเราในเรื่องต่างๆรวมถึงเรื่องเงิน ก่อนหน้านี้มีซื้อรถเผื่อเราจะได้ใช้ เค้าช่วยออกครึ่งนึงแต่เราไม่ได้ใช้ เค้าเลยเอาไปให้น้องใข้โดยเอาไว้บริการพ่อของเค้า ค่าซ่อม ค่าประกัน ก็จ่ายให้ ไปๆจนมามีปัญหากันล่าสุดว่า ค่าน้ำมัน ก็ยังต้องจ่าย เราออกความเห็นว่ามันมากเกินไปมั้ยสำหรับการให้ทั้งหมดนี้ เค้ามีเงินเดือนที่ให้ไปแล้วก็ควรจะจัดการใช้ได้ในจำนวนนั้น ถามว่าที่บ้านเค้าเดือดร้อนมั้ย ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยบ้านคนมีตังค์ เก็บทอง เก็บอสังหาริมทรัพย์ คนที่เดือดร้อนที่สามีเรา แล้วก็ชอบเอามาบ่นให้ฟังว่าไม่มีเงินใช้ มาชวนทะเลาะ มากดดันเราว่าทำไมไม่หางานทำ (จนเราเองก็แอบหางานเรื่อยๆนะ แต่ก็หาไม่ได้) เหมือนว่าเค้าต้องรับผิดชอบมากมายรวมถึงตัวเราและครอบครัวเราด้วย เราก็เคยบอกไปว่า ถ้าที่ให้มาเยอะเกินไปก็ลดลงหรือไม่ต้องให้เราก็ได้ เค้าเองก็ปฏิเสธบอกว่าเค้าจะให้แบบนี้แต่อยากให้เราทำหน้าที่ภรรยาที่ดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภรรยาที่ดีของเค้า หมายถึง ดูแลบ้าน ทำอาหาร รวมถึงเรื่องอย่างว่า และอยากให้เราปฏิสัมพันธ์กับคนที่บ้านเค้า
เราทำได้แค่ดูแลบ้าน ทำอาหารได้บ้างเพราะเดิมทีเราทำงานข้างนอกตลอด ไม่ถนัดเรื่องนี้เลยแต่ก็พยายามทำให้เค้า
ส่วนเรื่องอย่างว่าเนี่ย ช่วยเค้าบ้างแต่เอาตรงๆคือเราไม่เคยมีอารมณ์ร่วมมานานแล้วเพราะเค้าไม่เคยเร้าโลม ไม่เคยสนใจว่าเราจะเสร็จหรือไม่เสร็จจนสุดท้ายทำให้เราไม่อยากจะเริ่ม เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาสะสมมานาน เราช่วยตัวเองคือดีกว่า ทุกครั้งก็เลยแค่ช่วยให้เค้าเสร็จ
และเรื่องคนที่บ้านเค้า เราก็พยายามทำเท่าที่เราทำได้นะ เราไม่ใช่คนที่จะเข้าหาใครมากมายกระทั่งพ่อแม่ตัวเอง แต่ช่วงที่ผ่านมาก็พาพ่อและน้องเค้าไปเที่ยวด้วยกันหลายๆที่ เพราะพอไปกับเค้าสองคน เค้าก็จะคิดถึงคนที่บ้านเค้าตลอดว่าอยากพามา ทุกครั้งที่เที่ยวเราก็จะใช้เงินกองกลางที่เราร่วมกันเก็บมาด้วยกัน
เราเองก็พอมีเงินเก็บไว้ใช้พออยู่ได้อีกสักพักใหญ่ อย่างน้อยก็สบายใจกว่าถ้าจะใช้เงินตัวเอง เค้าก็จะโมโหหาว่าเราไม่เคยเข้าใจเค้าๆเครียดเรื่องที่ทำงาน แล้วยังจะต้องมาเครียดเรื่องเรา ทำไมไม่รู้จักไปหางานหาการทำ ฟังแล้วเจ็บจื๊ดมากๆ ไม่เคยรู้สึกด้อยค่ามากเท่านี้มาก่อนในชีวิต เพราะเราเองไม่ใช่ไม่หาแต่เค้าไม่เอาไง มันเลยยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าแย่มากชีวิตตอนนี้ ไม่เคยได้รับการเยียวยาจิตใจ เรารู้สึกว่าถูกเหยียบย้ำความรู้สึก ไม่มีความเคารพกันอีกแล้ว พูดอะไรแตะต้องที่บ้านเค้าไม่ได้เลย หาว่าเราเห็นแก่ตัว เอาจริงๆก็เห็นแก่ตัวแหละ เราคิดว่าสิ่งที่ให้ครอบครัวได้ควรอยู่ในกรอบ เพราะเราเป็นคนวางแผนการใช้เงิน ถ้าไม่งั้นเค้าก็ไม่ควรมาบ่นหรือมาหาเรื่องทะเลาะกับเรา ทุกวันนี้เราเองแทบไม่ได้ใช้เงินที่เค้าให้มา อยู่อย่างประหยัดมาก เงินที่เค้าให้มาส่วนนึงก็เอามาใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ส่วนนึงแบ่งเก็บกองกลาง ส่วนนึงแบ่งเอาไปทำประกันออม และประกันสุขภาพ โชคดีมากที่ไม่มีหนี้สิน
ถามว่ารักเค้ามั้ย รักและเป็นห่วงเค้าอยู่ แต่พอนึกหน้าตอนที่เค้าด่าเรา ดูถูกเรา เราคิดว่าจะจบความสัมพันธ์ที่ตรงนี้ดีกว่ามั้ย
เราผิดมากมั้ยที่ออกความเห็นเกี่ยวกับการใช้เงินของเค้ากับครอบครัวเค้า นั้นเพราะว่าเราไม่สามารถหารายได้ๆเหมือนเดิมใช่มั้ยหรือจริงๆเราไม่ควรก้าวก่ายเงินที่เค้าหามาได้เลย อยากได้คำแนะนำดีๆ ด่าได้แต่อย่าแรงเพราะตอนนี้รับอะไรแรงๆไม่ไหวแล้วจริงๆ
เราผิดมากมั้ยในความสัมพันธ์ครั้งนี้
โดยปกติเราจะเก็บเงินร่วมกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานกันมาเป็นสิบปีประมาณจนท้ายสุดเก็บเดือนละคนละ 10,000 บาทโดยเราเป็นคนเก็บไว้ในบัญชีของเราเพราะเค้าเป็นคนกลัวว่าจะถูกเช็คว่ามีเงินในบัญชีอะไรประมาณนั้น เราเอามาหมุนว่าจะไปฝากอะไรที่ไหนดอกเบี้ยดี ทุกอย่างปกติดีหมด เราเคยถามว่าจะเก็บเยอะขึ้นมั้ยสักเดือนละ 15,000 - 20,000 เห็นเค้าเคยบ่นๆว่าอยากเกษียญไวๆ เพราะเอาจริงๆ ภาระของเราสองคนไม่มีอะไรมากกว่านั้น เราไม่มีลูก เค้าปฏิเสธบอกว่าไม่พอใช้ จริงๆเงินเดือนเราสองคนอยู่ที่ 45K-60K มาทราบที่หลังว่าเค้าเอาเงินให้พ่อเดือนละ 10K (อันนี้รู้อยู่แล้ว) และให้น้อง 10K (อันนี้เพิ่งรู้ไม่นาน) เราเองก็มีให้พ่อแม่ตัวเองนะแต่แค่เดือนละ 4K ต่อคนเพราะพี่เราก็ให้ด้วยเท่าๆกัน ตอนนั้นเราก็ถามว่าทำไมต้องให้น้อง คือน้องไม่ได้ทำงาน เค้ามีพี่น้อง 5 คนโดยที่เราเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าน้องคนอื่นๆได้ให้เงินพ่อใช้หรือป่าว แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้อะไรมากแค่สงสัยและถามไถ่ เลยมารู้ว่าน้องอีกคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบ คชจ ในบ้าน ซื้อของเข้าบ้าน แต่มาช่วงหลังๆนี้ที่เราใกล้ชิดก็เห็นว่าเค้าก็พากันไปซื้อของเข้าบ้านเองบ่อยๆ
ก่อนที่เราแต่งงานกันเค้ามีเปิดบริษัทและทำรายได้ๆปีนึงประมาณหลักแสนโดยที่ชื่อบจกเป็นชื่อเราและพ่อกับน้องเค้าคนนั้น จนมาเมื่อช่วงโควิดเรามีเหตุต้องออกจากงาน ช่วงที่ออกเค้าพูดว่าไม่เป็นไรเมียคนเดียวเค้าดูแลได้ เราเองช่วยเค้าทำบัญชีและดึงเงินบจก.ออกมาเป็นรายเดือนในกับเราเดือนละ 20K
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทำให้เค้าเปลี่ยนไป เดิมทีเค้าฟังความเห็นของเราในเรื่องต่างๆรวมถึงเรื่องเงิน ก่อนหน้านี้มีซื้อรถเผื่อเราจะได้ใช้ เค้าช่วยออกครึ่งนึงแต่เราไม่ได้ใช้ เค้าเลยเอาไปให้น้องใข้โดยเอาไว้บริการพ่อของเค้า ค่าซ่อม ค่าประกัน ก็จ่ายให้ ไปๆจนมามีปัญหากันล่าสุดว่า ค่าน้ำมัน ก็ยังต้องจ่าย เราออกความเห็นว่ามันมากเกินไปมั้ยสำหรับการให้ทั้งหมดนี้ เค้ามีเงินเดือนที่ให้ไปแล้วก็ควรจะจัดการใช้ได้ในจำนวนนั้น ถามว่าที่บ้านเค้าเดือดร้อนมั้ย ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยบ้านคนมีตังค์ เก็บทอง เก็บอสังหาริมทรัพย์ คนที่เดือดร้อนที่สามีเรา แล้วก็ชอบเอามาบ่นให้ฟังว่าไม่มีเงินใช้ มาชวนทะเลาะ มากดดันเราว่าทำไมไม่หางานทำ (จนเราเองก็แอบหางานเรื่อยๆนะ แต่ก็หาไม่ได้) เหมือนว่าเค้าต้องรับผิดชอบมากมายรวมถึงตัวเราและครอบครัวเราด้วย เราก็เคยบอกไปว่า ถ้าที่ให้มาเยอะเกินไปก็ลดลงหรือไม่ต้องให้เราก็ได้ เค้าเองก็ปฏิเสธบอกว่าเค้าจะให้แบบนี้แต่อยากให้เราทำหน้าที่ภรรยาที่ดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเองก็พอมีเงินเก็บไว้ใช้พออยู่ได้อีกสักพักใหญ่ อย่างน้อยก็สบายใจกว่าถ้าจะใช้เงินตัวเอง เค้าก็จะโมโหหาว่าเราไม่เคยเข้าใจเค้าๆเครียดเรื่องที่ทำงาน แล้วยังจะต้องมาเครียดเรื่องเรา ทำไมไม่รู้จักไปหางานหาการทำ ฟังแล้วเจ็บจื๊ดมากๆ ไม่เคยรู้สึกด้อยค่ามากเท่านี้มาก่อนในชีวิต เพราะเราเองไม่ใช่ไม่หาแต่เค้าไม่เอาไง มันเลยยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าแย่มากชีวิตตอนนี้ ไม่เคยได้รับการเยียวยาจิตใจ เรารู้สึกว่าถูกเหยียบย้ำความรู้สึก ไม่มีความเคารพกันอีกแล้ว พูดอะไรแตะต้องที่บ้านเค้าไม่ได้เลย หาว่าเราเห็นแก่ตัว เอาจริงๆก็เห็นแก่ตัวแหละ เราคิดว่าสิ่งที่ให้ครอบครัวได้ควรอยู่ในกรอบ เพราะเราเป็นคนวางแผนการใช้เงิน ถ้าไม่งั้นเค้าก็ไม่ควรมาบ่นหรือมาหาเรื่องทะเลาะกับเรา ทุกวันนี้เราเองแทบไม่ได้ใช้เงินที่เค้าให้มา อยู่อย่างประหยัดมาก เงินที่เค้าให้มาส่วนนึงก็เอามาใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ส่วนนึงแบ่งเก็บกองกลาง ส่วนนึงแบ่งเอาไปทำประกันออม และประกันสุขภาพ โชคดีมากที่ไม่มีหนี้สิน
ถามว่ารักเค้ามั้ย รักและเป็นห่วงเค้าอยู่ แต่พอนึกหน้าตอนที่เค้าด่าเรา ดูถูกเรา เราคิดว่าจะจบความสัมพันธ์ที่ตรงนี้ดีกว่ามั้ย
เราผิดมากมั้ยที่ออกความเห็นเกี่ยวกับการใช้เงินของเค้ากับครอบครัวเค้า นั้นเพราะว่าเราไม่สามารถหารายได้ๆเหมือนเดิมใช่มั้ยหรือจริงๆเราไม่ควรก้าวก่ายเงินที่เค้าหามาได้เลย อยากได้คำแนะนำดีๆ ด่าได้แต่อย่าแรงเพราะตอนนี้รับอะไรแรงๆไม่ไหวแล้วจริงๆ