ปวดหัวไมเกรน (Migraine headache) คืออาการปวดหัวลักษณะตุ๊บๆ ซึ่งตำแหน่งที่ปวด อาจจะปวดข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง โดยในช่วงแรกจะปวดเพียงเล็กน้อยและจะค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรงและความถี่ขึ้น ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการอื่มร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ อ่อนแรง หรือชา โดยอาการปวดหัวไมเกรนนั้น สาเหตุหลักสัมพันธ์กับการที่มีสารตั้งต้น CGRP ที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัว มากเกินไปในสมอง
ซึ่งกว่าร้อยละ 50 ของผู้ป่วยไมเกรนสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามีปัจจัยอะไรที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว (Trigger Factors) บ้าง
สามารถแบ่งปัจจัยกระตุ้นไมเกรนได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. อาหารและเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มกาเฟอีนและแอลกอฮอล์
อาหารที่มีส่วนผสมของยีสต์และสารกันบูด
ผงชูรส
สารไทรามีนและฮีสตามีน เช่น อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์แปรรูป กล้วย ส้ม มะนาว เนยแข็ง ชีส
ถั่วต่าง ๆ
ช็อกโกแลต
2. สิ่งแวดล้อม
อากาศเปลี่ยน
แสงที่จ้าเกินไป
กลิ่น
มลพิษในอากาศ
การเปลี่ยนแปลงของ Time zone
มลพิษทางเสียง
3. การใช้ชีวิต
พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา หรือนอนมากเกินไป
กินอาการไม่ตรงเวลา หรืออดอาหาร
เครียด ซึมเศร้า
การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนในเบื้องต้นคือการรับประทานยาและนอนหลับพักผ่อน แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นหรือปวดหัวถี่ขึ้น เช่น จากเดิมเดือนละ 1 ครั้ง เพิ่มเป็น 2 – 3 ครั้งต่อเดือน หรือเป็นมากขึ้นจนรบกวนชีวิตประจำวันก็ควรมาพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ โดยในปัจจุบันมียารักษาทั้งชนิดรับประทานและชนิดฉีดสำหรับป้องกันอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งสามารถลดความรุนแรงของอาการปวดและความถี่ในการปวดหัวได้ประมาณร้อยละ 50 – 75
ข้อมูลโดย
พญ. จุฑาทิพย์ รัตนพันธ์ อายุรศาสตร์โรคสมองและระบบประสาท
ปัจจัยกระตุ้นไมเกรน
ซึ่งกว่าร้อยละ 50 ของผู้ป่วยไมเกรนสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามีปัจจัยอะไรที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว (Trigger Factors) บ้าง
สามารถแบ่งปัจจัยกระตุ้นไมเกรนได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. อาหารและเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มกาเฟอีนและแอลกอฮอล์
อาหารที่มีส่วนผสมของยีสต์และสารกันบูด
ผงชูรส
สารไทรามีนและฮีสตามีน เช่น อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์แปรรูป กล้วย ส้ม มะนาว เนยแข็ง ชีส
ถั่วต่าง ๆ
ช็อกโกแลต
2. สิ่งแวดล้อม
อากาศเปลี่ยน
แสงที่จ้าเกินไป
กลิ่น
มลพิษในอากาศ
การเปลี่ยนแปลงของ Time zone
มลพิษทางเสียง
3. การใช้ชีวิต
พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา หรือนอนมากเกินไป
กินอาการไม่ตรงเวลา หรืออดอาหาร
เครียด ซึมเศร้า
การรักษาอาการปวดหัวไมเกรนในเบื้องต้นคือการรับประทานยาและนอนหลับพักผ่อน แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นหรือปวดหัวถี่ขึ้น เช่น จากเดิมเดือนละ 1 ครั้ง เพิ่มเป็น 2 – 3 ครั้งต่อเดือน หรือเป็นมากขึ้นจนรบกวนชีวิตประจำวันก็ควรมาพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ โดยในปัจจุบันมียารักษาทั้งชนิดรับประทานและชนิดฉีดสำหรับป้องกันอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งสามารถลดความรุนแรงของอาการปวดและความถี่ในการปวดหัวได้ประมาณร้อยละ 50 – 75
ข้อมูลโดย พญ. จุฑาทิพย์ รัตนพันธ์ อายุรศาสตร์โรคสมองและระบบประสาท