รู้จักคำว่า “หิว”​ ภายใต้เสียงท้องร้องนั้นมีอะไรซ่อนอยู่

กระทู้สนทนา
เราทุกคนคงทราบดีว่า อาการหิว มักเกิดขึ้นได้เมื่อไม่มีอาหารตกถึงท้อง ซึ่งอาการนี้เป็นสัญญาณทางประสาท ที่จะช่วยเตือนว่าร่างกายต้องการอาหารเพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานให้กับการทำกิจกรรมระหว่างวัน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราต้องทานอาหารอยู่บ่อยครั้ง เพื่อลดความหิวให้กับตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่าการทานอาหารเข้าไปนอกจากจะเพิ่มน้ำหนักแล้ว ในบางครั้งหากเรารับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ อาจจะทำให้ร่างกายสะสมไขมันจนทำให้เกิดโรคอ้วนก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาเรียนรู้ประโยชน์ของการหิวไปพร้อมๆ กัน ไม่แน่นะ เสียงท้องร้องอาจจะมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด  

ก่อนที่จะไปเรียนรู้ประโยชน์กัน เรามาทำความรู้จักกับความหิวกันเสียหน่อย ว่ากันว่าเมื่อไหร่ที่ท้องว่างร่างกายจะหลั่ง ฮอร์โมนเกรลิน (ghrelin) ออกมา เพื่อสั่งการไปยังสมองว่าเรากำลังหิว โดยจะแสดงออกในหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ท้องร้อง มวนท้อง อ่อนแรง มือสั่น แต่หากเมื่อไหร่ที่ร่างกายของเรานั้นได้รับอาหารจนเต็มแล้ว ฮอร์โมนเกรลิน ก็จะหยุดหลั่งและเปลี่ยนมาเป็น ฮอร์โมนเลปติน ( leptin) เพื่อบ่งบอกว่าร่างกายได้รับอาหารจนอิ่มแล้ว แต่ใครจะรู้การทานอาหารในทุกครั้งเมื่อหิวอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดได้ เนื่องจากการรับประทานอาหารในแต่ละครั้ง สารอินซูลินที่อยู่ในร่างกายของเราจะถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา และอินซูลินจะเป็นตัวทำให้ร่างกายของเรานั้นกักเก็บไขมันเอาไว้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นคนจะอ้วนหรือไม่นั้น มักอยู่ที่ระดับของอินซูลินในร่างกายนั่นเอง

*ร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี*
โยชิโนริ โอสุมิ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ผู้คว้ารางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ ได้ค้นพบว่า Autophagy หรือ กลไกการกินตัวเองของเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการฟื้นฟูทางธรรมชาติ กระบวนการนี้สามารถเกิดขึ้นด้วยการอดอาหารตั้งแต่ 12 ชั่วโมงขึ้นไป หรือการทานอาหารที่มีแป้งน้อยมาก โดยจะถูกเรียกว่าการกินตัวเอง โดยเซลล์จะเลือกโปรตีนที่สร้างผิด นำมาย่อยเป็นวัตถุดิบเพื่อสร้างเซลล์ใหม่อยู่เสมอ ด้วยสาเหตุนี้จึงไม่ต้องกังวลว่าการปล่อยให้ตัวเองหิวนั้นจะทำให้ไม่มีแรง เพราะการที่ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่จากการอดอาหารนั้นสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงและสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน  

*น้ำหนักลดลง*
แน่นอนว่าหากพูดถึงเรื่องของการลดน้ำหนัก การอดอาหารหรือการปล่อยให้ตัวเองหิวนั้น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เด็กๆ วัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิงนั้นนิยมทำกัน จนทำให้ร่างกายของตัวเองอ่อนเพลียและเป็นลมไปในที่สุด แต่หากเราได้ศึกษาและได้ทำความเข้าใจการอดอาหารที่ถูกวิธีก็จะสามารถเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี จากผลการทดลองของ นาโอมิ วิทเทิล (นักสำรวจสุขภาพ) ได้กำหนดโปรแกรม 15 วัน ในการอดอาหารนาน 16 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และลดโปรตีนลงในบางวัน และบางช่วงมีการออกกำลังกายอย่างเข้มข้น

เธอพบข้อดีว่า “บางคนน้ำหนักลดมากถึงประมาณ 3.18 กิโลกรัม ใน 15 วัน อีกหลายคนมีริ้วรอยร่องตื้นลดลง มีการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต และมีมวลกล้ามเนื้อที่ไร้ไขมันมากขึ้น” ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณที่ดีที่จะเป็นตัวยืนยันว่าการอดอาหารนั้น ช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่จะต้องทำในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ใช่ว่าการอดอาหารหรือปล่อยให้หิวเพียงอย่างเดียว คุณจะต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย  

*ชะลอวัยให้กับมาเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง*
ไม่น่าเชื่อเลยว่า การปล่อยให้ตัวเองหิวจนท้องร้องออกมานั้น จะช่วยให้ชะลอวัยให้กับเราได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ท้องเราร้อง ยีนเซอร์ทูอิน จะถูกนำมาใช้งานด้วยการยับยั้ง Reactive Oxygen Species และควบคุมปฏิกิริยาที่ผิดปกติในเซลล์ภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นตัวช่วยในการชะลอความแก่ชราและยืดอายุออกไปได้ ดังนั้นเราสามารถที่จะกลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้งด้วยการทานอาหารวันละมื้อ โดยปล่อยให้ท้องของเราได้รู้จักกับคำว่าหิวซะบ้าง เท่านี้ก็จะช่วยหยืดอายุไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อหิวแล้วอาหารยังตกไม่ถึงท้อง ร่างกายจะนำไขมันที่สะสมไว้ในช่องท้องมาเปลี่ยนเป็นสารอาหาร ทำให้จากที่เคยมีพุงกลายเป็นแบนราบจนใครๆ ก็ต้องมอง โอ้โห นอกจากกระชากวัยแล้ว ยังมีหุ่นที่เซ็กซี่อีกด้วยนะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่