Home Isolation is coming

Home Isolation คืออารายยย 🌪🌪
สวัสดีอีกครั้งนะคะ  กระทู้ขอพูดถึงการดูแลผู้ป่วยโควิดแบบโฮมไอนะคะ วันนี้ จขกท รู้สึกว่าโฮมไอ / Home Isolation การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดที่บ้านกำลังจะกลับมา… แต่ครั้งนี้คนไทยเราคงจะรู้สึกคุ้นหูชื่อนี้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ความรู้สึกหรือความเข้าใจจะมากขึ้นหรือไม่ อันนี้ไม่อาจทราบได้เลยคะ
… ก่อนอื่นขอเกริ่นย้อนกลับไปเมื่อ Home Isolation ถูกนำมาใช้ครั้งแรก ในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2564 ที่ผ่านมานะคะ จขกท เคยได้รับหน้าที่เป็นรุ่นบุกเบิกโครงการนี้ร่วมกับเพื่อนๆพยาบาลวิชาชีพจำนวนหลักสิบคนและแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวที่อาสาเข้ามาช่วยดูแลโครงการนี้ ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่เรามีไม่ถึงร้อยคน ดูแลคนไข้หลายพันคนในโครงการทั่วกรุงเทพ จำได้ว่าครั้งนั้นเราเริ่มกันครั้งแรก 13 กรกฎาคมกับภาพที่คนไข้ล้นโรงพยาบาล เตียงไม่เพียงพอ เริ่มมีภาพผู้ป่วยเสียชีวิตที่บ้านให้เราเห็นตามหน้าข่าวทีวี ณ ตอนนั้นคำว่า Home Isolation ค่อนข้างใหม่สำหรับเราคนไทย เจ้าหน้าที่ต้องใช้การโน้มน้าวเพื่อขอให้เข้ารับการรักษากับโครงการ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะ “ปฏิเสธ” ขอรอเตียงที่บ้าน แต่สุดท้ายคนที่รอเตียงอาการเริ่มแย่ เพราะไม่ได้ยา จึงเป็นการบีบให้เข้าร่วมโครงการไปโดยปริยาย
จขกท เข้าใจผู้ป่วยทุกท่านว่า ต้องการเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาล จะได้มีแพทย์ มีพยาบาลมาตรวจดูอาการ ได้เอกซเรย์ ถ้ารักษาที่บ้านอารมณ์มันเหมือนไม่ได้รักษา กลัวหลายอย่าง แต่วันนี้ขอทำความเข้าใจกับผู้ป่วยทุกท่านว่า Home Isolation คือการดูแลรักษาที่บ้านแต่ มีคุณหมอ พยาบาลประเมินอาการทุกวัน ผ่านช่องทางโทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ
การดำเนินการเราจะดำเนินการดังนี้
▪️ผู้ป่วยลงทะเบียนตามช่องทางที่แจ้ง
▪️รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ซึ่งอาจใช้เวลานานเป็นวัน หรือสองวัน เนื่องจากจำนวนคนไข้ต่อเจ้าหน้าที่มันค่อนข้างโหลดกัน ( ตอนนั้น จขกท ดูแลคนไข้ 70-80 คน : พยาบาล 1  คน ) ขอความเห็นใจตรงนี้ด้วยนะคะ 🙏🏻
▪️เมื่อเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ จะได้รับการประเมินอาการเบื้องต้น เพื่อจัดกลุ่มความรุนแรง เป็นสีเขียว เหลือง แดง
▪️เจ้าหน้าที่จะแนะนำการติดต่อ สื่อสาร ระหว่างการรักษา โดยจะมีพยาบาลโทรประเมินอาการทุกวัน เพื่อรายงานแพทย์และขอยาให้
▪️ผู้ป่วยจะได้รับอุปกรณ์เพื่อวัดประเมินสัญญาณชีพ เช่น ปรอทวัดไข้ ที่วัดออกซิเจนปลายนิ้ว เป็นต้น อุปกรณ์จะถูกจัดส่งโดยทีมงานอีกกลุ่ม ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน
▪️ผู้ป่วยจะได้รับยาพื้นฐาน หรือ ยาตามอาการพร้อมๆกับเครื่องมือข้างต้น เช่น ยาพาราเซตามอลสำหรับลดไข้ ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก (ในช่วงนั้นผู้ป่วยจะได้รับยาฟ้าทลายโจรทาน ทุกเคสเนื่องจากยาฟาวิพิราเวียร์ มีจำกัดต้องสงวนให้เคสที่มีอาการหนัก หรือกลุ่มสีแดงเท่านั้น)
▪️ผู้ป่วยจะได้รับอาหาร 3 มื้อ ผ่านทางไรเดอร์ 
▪️ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินออกซิเจนไหลเวียน เพื่อเปรียบเทียบความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นที่ปอด โดยวิธีการเฉพาะทุกวันแทนการเอกซเรย์ 
ถ้าผู้ป่วยถูกประเมินว่า ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าค่าปกติ ร่วมกับมีอาการเหนื่อยมาก เจ้าหน้าที่จะประสานหาเตียงในโรงพยาบาลให้โดยเร็วที่สุด 
…. คร่าวๆของการดูแลตัวเองที่บ้านแบบโฮมไอ  *ถ้าท่านคิดว่าท่านเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ ควรรับการรักษาแบบโฮมไอ เพื่อสงวนเตียงให้คนไข้กลุ่มสีเหลืองหรือแดงที่มีความจำเป็นมากกว่านะคะ**
   แต่ จขกท คิดว่ารอบนี้ไม่รุนแรงเท่าที่ผ่านมา เพราะรอบที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นออกซิเจน ยา เตียง เราไม่มีให้ผู้ป่วยเลย จำต้องปล่อยให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ…
   ขอย้อนเล่าไปถึงวิกฤตในครั้งนั้น ที่ผู้ป่วยสีแดงยังคงรอเตียงที่บ้าน และเสียชีวิต แพทย์และพยาบาล ในโครงการเราประชุมเพื่อหาแนวทางในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ “คือการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประครอง” หรือ ใช้หลักการ Palliative Care ซึ่งเราจะคุ้นเคยในการใช้กับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ระยะท้าย ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้รวมถึงครอบครัวมีเวลาเตรียมตัว เตรียมใจ เพื่อจากลากัน มากกว่า กลุ่มคนไข้โควิดสีแดง ที่เรากำลังตะนำไปปรับใช้ เพราะอะไร? เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่ใช่การเจ็บป่วยเรื้อรัง เป็นการเจ็บป่วยกะทันหันก็ว่าได้ และความรุนแรงของโรคค่อนข้างมาก เสียชีวิตเร็ว เสียชีวิตในขณะรู้สึกตัวดี อวัยวะภายในไม่ได้เสียหาย เพียงแค่หสยใจไม่ออก ไม่มีออกซิเจนเท่านั้นเอง 
ดังนั้นเอง ผู้ป่วยกลุ่มสีแดงที่กำลังจะเสียชีวิต จะมีความเจ็บปวดและทรมานมาก หน้าที่ของการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประครองจึงต้องเริ่ม เพื่อให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ ที่ทำได้ ณ ขณะนั่นคือ การจ่ายยา มอร์ฟีน (Morphine) ชนิดเม็ด ให้ผู้ป่วยรับประทานที่บ้าน 
มันเป็นอารมณ์ที่จุกๆๆ และเราก็ผ่านมันมา หวังว่าคงไม่เห็นภาพแบบนี้อีกแล้ว

คนไข้ทั้งหมดในครั้งนั้นที่อยู่กับเรา 



และเราจะผ่านไปด้วยกันนะคะ ปล. ที่นำมาแชร์เพื่ออยากให้คนไข้กลุ่มสีแดงมีเตียงรักษาใน โรงพยาบาล เช่น ผู้สูงอายุ ถ้าเราไม่มีอาการควรเข้าระบบโฮมไอนะคะ เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องของโรงพยาบาลสนาม ICU ในมุมมองของเจ้าหน้าที่นะคะ 🙏🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่