สวัสดีค่ะ ดิฉัน ชื่อเล่น "ดา" ค่ะ
มาโพสต์ครั้งนี้อยากหาคนที่โดนเหมือนกันกับดิฉัน และเพื่อเตือนใจ เตือนสติ คนที่กำลังจะโดนในอนาคตค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะ ไม่งั้นคุณอาจจะหมดตัวไปเพราะไม่ทันกลอุบายต่างๆได้
>>>คลีนิคแห่งนี้ตั้งอยู่ใน the mall บางกะปิ ชั้น 2 ตรงข้าม sport mall<<<
20/9/63 ดิฉันได้ไปเดินเที่ยวที่ห้าง the mall บางกะปิ ได้ถูก พนง.คลีนิคแห่งนี้ชักชวนซื้อคอร์ส โดยเสนอขายหลอกล่อต่างๆนาๆจนดิฉันใจอ่อนจ่ายตัดบัตรเครดิตไป ได้กลายเป็นลูกค้าของคลีนิคไปโดยปริยาย หลังจากนั้นดิฉันได้เข้าไปใช้บริการเนื่องจากว่าเสียเงินไปแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม ทุกครั้งที่ดิฉันไปใช้บริการที่คลีนิคก็จะโดน พนง.ขายคอร์สเพิ่มขึ้นทุกครั้ง พร้อมกับขอร้องให้ช่วยซื้อเพื่อช่วยน้องๆให้มีงานทำต่อไป จะมีเหตุผลมาอ้างทุกครั้งและจบลงด้วยดิฉันเสียเงินจ่ายไปทุกครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นที่ดิฉันจ่ายไปให้คลีนิคแห่งนี้เป็นเงิน 510,000 บาท อันนี้คือ ดิฉันสามารถทำได้ทุกอย่างที่มีในคลีนิคแห่งนี้ ยกเว้น พวกเข็ม
29/9/64 ดิฉันจำเป็นต้องเข้าไปคลีนิคเพื่อต่ออายุคอร์สเพราะครบแล้ว 1 ปี ถ้าไม่เข้าไปเซ็นต์สัญญาเงินที่จ่ายไปทั้งหมดจะเป็น 0 ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปเพราะหมดอายุใช้งาน ดิฉันเลยเข้าไป ทาง พนง.ได้ขายคอร์สเพิ่มเติมโดยให้ดิฉันดูบิลล์ของลูกค้ารายอื่นๆที่ต้องจ่ายเงินถึง 2,000,000บาท เพื่อซื้อคอร์สเข็มทั้งหมด แต่สำหรับดิฉันที่เป็นลูกค้าเก่า เป็น vip ของทางร้านอยู่แล้ว ให้จ่ายแต่ 100,000บาท ก็จะได้ใช้คอร์สเท่ากับคนที่จ่าย 2,000,000 ดิฉันเลยหลงกลจ่ายเงินไปอีก 100,000บาท หลังจากนั้นก็ได้มีการนัดหมายเพื่อมาเจอหมอ โดยแจ้งว่าเดือนนี้มีโอกาสได้เจอคุณหมอแค่ 2 ครั้ง คือวันที่ 16 กับ 24 ดิฉันเลือกเป็นวันที่ 24 เพราะ 16 ไม่ว่าง
24/10/64 ดิฉันได้ไปที่คลีนิคตามนัด ประมาณ 18 น. ดิฉันได้พบคุณหมอเพื่อฉีด filler ดิฉันขึ้นเตียง และคุณหมอก็เริ่มทำการฉีด filler ใต้ตา ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ พนง.คนนึงถามหมอว่าตอนนี้ใช้ไปกี่เข็มแล้ว ของพี่ดาต้องใช้กี่เข็มถึงจะเสร็จสิ้น หมอก็บอกต้องใช้ทั้งหมด 17 เข็ม ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 13 เข็ม พอดีกับยาหมดต้องรอยา พนง.พูดกับดิฉันว่า พี่ดาต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ ดิฉันก็อึ้งสิค่ะเพราะไม่ได้คิดว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเกิดขึ้นสำหรับการทำครั้งนี้ ไม่มีการแจ้งอะไรเลยมาก่อน น้อง พนง.เดินออกไปและเดินเข้ามาในห้องพร้อมเครื่องคิดเลขและแจ้งว่า ค่ายาที่ฉีดไปเข็มละ 60,000บาท ของพี่ดาต้องใช้ 17 เข็มก็จะเป็น 60,000x17=1,020,000บาท แต่ดิฉันเป็นลูกค้า vip จึงลดให้ 50% ดิฉันทั้งช็อคทั้งตกใจตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินทำอะไรไม่ถูก คิดในใจว่า โดนหลอกแล้วโดนเข้าแล้ว ดิฉันจึงให้หยุดพอแค่นี้เพราะไม่มีเงินจ่าย ทางนั้นยังไม่จบถ้าทำแค่นี้ก็จะไม่เสร็จ ควรทำตามที่หมอบอกหน้าจะได้สมานเท่ากันเลยบอกว่าให้เป็นแถม หลังทำเสร็จชวนกันไปอยู่ในห้องรับรองลูกค้าเพื่อพูดคุยเจรจาในเรื่องนี้ เพราะดิฉันไม่มีเงินจ่าย แต่ทางร้านยืนยันว่ายังไงก็ต้องจ่าย ทั้งๆที่ทางร้านไม่เคยแจ้งมาก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และคืนนั้นทางนั้นก็ไม่ยอมให้ดิฉันไปไหนทั้งนั้นถ้าไม่จ่ายเงินให้เขา ดิฉันจึงถามว่าเคยมีเคสอื่นๆมั้ยที่เป็นแบบนี้มันต้องมีวิธีสิ เขาก็บอกว่าไม่มี บางคนจ่ายตัดบัตรครึ่งล้านจ่ายเงินสดอีกครึ่งล้าน บางคนให้ พนง.ไปเอาเงินสดตามถึงบ้าน ดิฉันเริ่มกลัวเพราะตามกันถึงบ้านขนาดนี้ไม่ใช่แล้ว จึงคิดหาวิธีต่างๆเพื่อให้ได้ออกไปก่อน ดิฉันเสนอทุกทางเลือก ไม่ว่าจะให้ไปโรงพักลงบันทึกข้อความหรือทำอะไรก็ได้ แต่ขอกลับก่อนเพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว(~3ทุ่มครึ่งกว่าๆ) จนสุดท้ายได้ทางเลือกว่าให้ดิฉันจ่ายเท่าที่มีกับตัวทั้งหมดตอนนี้ ดิฉันจึงโอนไป 20,000บาท และเขียนข้อความในสำเนาบัตร ปชช.ว่าจะจ่ายส่วนที่เหลือพรุ่งนี้ และยึดบัตร ปชช.ของดิฉันไป เขาจึงยอมให้ดิฉันกลับตอนนั้นเวลาเกือบได้4 ทุ่ม แค่นั้นยังไม่พอ พนง.ของร้านขอตามไปถึงที่พัก ดิฉันบ่ายเบี่ยงก็ไม่เป็นผล บอกว่าจำเป็นต้องทำทุกคนจึงตามดิฉันกลับห้องพักทั้งหมด 5 คน
25/10/64 พนง.ของร้านตามมาหาดิฉันถึงที่ทำงาน ในตอนเที่ยงมี จนท.โทรมาบอกเป็น นิติกรณ์ จากสำนักงานใหญ่ของคลีนิค จะดำเนินคดี และในตอนเย็นก็ยังโทรขู่รังควานไม่จบ
.....ในความคิดดิฉันคนในคลีนิคมาเฟียมากๆเลยค่ะ ทั้งขู่ บอกว่ามีแฟนเป็นตำรวจ สคบ.มีแต่คนสนิท ประมาณว่าดิฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย.....
*****สุดท้ายในวันที่ 25/10/64 ดิฉันได้ไปแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าวและส่งเรื่องร้องเรียนไป สคบ.แล้วค่ะ*******รอติดตามผลกันต่อไปค่ะ
ใครประสบพบเจอเหตุการณ์เดียวกันกับดิฉัน สามารถไปแจ้งความได้นะคะ //ไม่ต้องกลัว
สถาบันความงาม หลอกลวง ข่มขู่ (เสียเงินเกินครึ่งล้าน) ใครโดนบ้าง??
มาโพสต์ครั้งนี้อยากหาคนที่โดนเหมือนกันกับดิฉัน และเพื่อเตือนใจ เตือนสติ คนที่กำลังจะโดนในอนาคตค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะ ไม่งั้นคุณอาจจะหมดตัวไปเพราะไม่ทันกลอุบายต่างๆได้
>>>คลีนิคแห่งนี้ตั้งอยู่ใน the mall บางกะปิ ชั้น 2 ตรงข้าม sport mall<<<
20/9/63 ดิฉันได้ไปเดินเที่ยวที่ห้าง the mall บางกะปิ ได้ถูก พนง.คลีนิคแห่งนี้ชักชวนซื้อคอร์ส โดยเสนอขายหลอกล่อต่างๆนาๆจนดิฉันใจอ่อนจ่ายตัดบัตรเครดิตไป ได้กลายเป็นลูกค้าของคลีนิคไปโดยปริยาย หลังจากนั้นดิฉันได้เข้าไปใช้บริการเนื่องจากว่าเสียเงินไปแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม ทุกครั้งที่ดิฉันไปใช้บริการที่คลีนิคก็จะโดน พนง.ขายคอร์สเพิ่มขึ้นทุกครั้ง พร้อมกับขอร้องให้ช่วยซื้อเพื่อช่วยน้องๆให้มีงานทำต่อไป จะมีเหตุผลมาอ้างทุกครั้งและจบลงด้วยดิฉันเสียเงินจ่ายไปทุกครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นที่ดิฉันจ่ายไปให้คลีนิคแห่งนี้เป็นเงิน 510,000 บาท อันนี้คือ ดิฉันสามารถทำได้ทุกอย่างที่มีในคลีนิคแห่งนี้ ยกเว้น พวกเข็ม
29/9/64 ดิฉันจำเป็นต้องเข้าไปคลีนิคเพื่อต่ออายุคอร์สเพราะครบแล้ว 1 ปี ถ้าไม่เข้าไปเซ็นต์สัญญาเงินที่จ่ายไปทั้งหมดจะเป็น 0 ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปเพราะหมดอายุใช้งาน ดิฉันเลยเข้าไป ทาง พนง.ได้ขายคอร์สเพิ่มเติมโดยให้ดิฉันดูบิลล์ของลูกค้ารายอื่นๆที่ต้องจ่ายเงินถึง 2,000,000บาท เพื่อซื้อคอร์สเข็มทั้งหมด แต่สำหรับดิฉันที่เป็นลูกค้าเก่า เป็น vip ของทางร้านอยู่แล้ว ให้จ่ายแต่ 100,000บาท ก็จะได้ใช้คอร์สเท่ากับคนที่จ่าย 2,000,000 ดิฉันเลยหลงกลจ่ายเงินไปอีก 100,000บาท หลังจากนั้นก็ได้มีการนัดหมายเพื่อมาเจอหมอ โดยแจ้งว่าเดือนนี้มีโอกาสได้เจอคุณหมอแค่ 2 ครั้ง คือวันที่ 16 กับ 24 ดิฉันเลือกเป็นวันที่ 24 เพราะ 16 ไม่ว่าง
24/10/64 ดิฉันได้ไปที่คลีนิคตามนัด ประมาณ 18 น. ดิฉันได้พบคุณหมอเพื่อฉีด filler ดิฉันขึ้นเตียง และคุณหมอก็เริ่มทำการฉีด filler ใต้ตา ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ พนง.คนนึงถามหมอว่าตอนนี้ใช้ไปกี่เข็มแล้ว ของพี่ดาต้องใช้กี่เข็มถึงจะเสร็จสิ้น หมอก็บอกต้องใช้ทั้งหมด 17 เข็ม ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 13 เข็ม พอดีกับยาหมดต้องรอยา พนง.พูดกับดิฉันว่า พี่ดาต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ ดิฉันก็อึ้งสิค่ะเพราะไม่ได้คิดว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเกิดขึ้นสำหรับการทำครั้งนี้ ไม่มีการแจ้งอะไรเลยมาก่อน น้อง พนง.เดินออกไปและเดินเข้ามาในห้องพร้อมเครื่องคิดเลขและแจ้งว่า ค่ายาที่ฉีดไปเข็มละ 60,000บาท ของพี่ดาต้องใช้ 17 เข็มก็จะเป็น 60,000x17=1,020,000บาท แต่ดิฉันเป็นลูกค้า vip จึงลดให้ 50% ดิฉันทั้งช็อคทั้งตกใจตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินทำอะไรไม่ถูก คิดในใจว่า โดนหลอกแล้วโดนเข้าแล้ว ดิฉันจึงให้หยุดพอแค่นี้เพราะไม่มีเงินจ่าย ทางนั้นยังไม่จบถ้าทำแค่นี้ก็จะไม่เสร็จ ควรทำตามที่หมอบอกหน้าจะได้สมานเท่ากันเลยบอกว่าให้เป็นแถม หลังทำเสร็จชวนกันไปอยู่ในห้องรับรองลูกค้าเพื่อพูดคุยเจรจาในเรื่องนี้ เพราะดิฉันไม่มีเงินจ่าย แต่ทางร้านยืนยันว่ายังไงก็ต้องจ่าย ทั้งๆที่ทางร้านไม่เคยแจ้งมาก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และคืนนั้นทางนั้นก็ไม่ยอมให้ดิฉันไปไหนทั้งนั้นถ้าไม่จ่ายเงินให้เขา ดิฉันจึงถามว่าเคยมีเคสอื่นๆมั้ยที่เป็นแบบนี้มันต้องมีวิธีสิ เขาก็บอกว่าไม่มี บางคนจ่ายตัดบัตรครึ่งล้านจ่ายเงินสดอีกครึ่งล้าน บางคนให้ พนง.ไปเอาเงินสดตามถึงบ้าน ดิฉันเริ่มกลัวเพราะตามกันถึงบ้านขนาดนี้ไม่ใช่แล้ว จึงคิดหาวิธีต่างๆเพื่อให้ได้ออกไปก่อน ดิฉันเสนอทุกทางเลือก ไม่ว่าจะให้ไปโรงพักลงบันทึกข้อความหรือทำอะไรก็ได้ แต่ขอกลับก่อนเพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว(~3ทุ่มครึ่งกว่าๆ) จนสุดท้ายได้ทางเลือกว่าให้ดิฉันจ่ายเท่าที่มีกับตัวทั้งหมดตอนนี้ ดิฉันจึงโอนไป 20,000บาท และเขียนข้อความในสำเนาบัตร ปชช.ว่าจะจ่ายส่วนที่เหลือพรุ่งนี้ และยึดบัตร ปชช.ของดิฉันไป เขาจึงยอมให้ดิฉันกลับตอนนั้นเวลาเกือบได้4 ทุ่ม แค่นั้นยังไม่พอ พนง.ของร้านขอตามไปถึงที่พัก ดิฉันบ่ายเบี่ยงก็ไม่เป็นผล บอกว่าจำเป็นต้องทำทุกคนจึงตามดิฉันกลับห้องพักทั้งหมด 5 คน
25/10/64 พนง.ของร้านตามมาหาดิฉันถึงที่ทำงาน ในตอนเที่ยงมี จนท.โทรมาบอกเป็น นิติกรณ์ จากสำนักงานใหญ่ของคลีนิค จะดำเนินคดี และในตอนเย็นก็ยังโทรขู่รังควานไม่จบ
.....ในความคิดดิฉันคนในคลีนิคมาเฟียมากๆเลยค่ะ ทั้งขู่ บอกว่ามีแฟนเป็นตำรวจ สคบ.มีแต่คนสนิท ประมาณว่าดิฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย.....
*****สุดท้ายในวันที่ 25/10/64 ดิฉันได้ไปแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าวและส่งเรื่องร้องเรียนไป สคบ.แล้วค่ะ*******รอติดตามผลกันต่อไปค่ะ
ใครประสบพบเจอเหตุการณ์เดียวกันกับดิฉัน สามารถไปแจ้งความได้นะคะ //ไม่ต้องกลัว