คิดถึง 2 บทที่ 81

กระทู้สนทนา

.

              ไดอารี่ความคิดถึง

               สองสามวันมานี่เสียงประทัดดังว่อนหมู่บ้านมาก ทั้งดอกไม้ไฟ ทั้งลูกฟุตบอลดังสนั่นหวั่นไหวภายในคุ้มต่าง ๆ ของหมู่บ้าน เพราะมีเด็ก ๆ ผู้ชายนำมาเล่นกัน ที่บ้านของบอสน้องบีมก็ซื้อมาเล่น ทว่าก็เล่นเพียงกระเทียมที่ปาลงพื้นแล้วแตกกับดอกไม้ไฟเท่านั้น ยายไม่ให้เล่นลูกบอลมันอันตรายเกินไป

               สำหรับวันนี้เป็นวันออกพรรษา ยายต้องไปจำวัดเป็นคืนสุดท้าย ยายตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวเตรียมอุปกรณ์ในการไปจำวัดเหมือนทุกครั้ง อีกทั้งพี่ปาวที่ตื่นแต่เช้าเช่นกัน พวกเธอด้วยหากแต่ตื่นขึ้นมาแล้วก็มานอนแอ้งแม้งหน้าจอทีวี

                 “ไปหาแต่งตัวมาไปวัดไปตักรบาตรนำยาย มื้อหนิเพิ่นออกพรรษาเด้” ยายยืนสวมชุดขาวหน้าตู้กระจกพร้อมบอกพวกเธอที่นอนเรียงรายกันอยู่ให้ลุกไปอาบน้ำกันได้แล้ว

                “บักอ้ายสองคนนั้นยังนอนบ่ลุกบ่ตื่นอยู่บ่อ! บ่อไปวัดบ่อมื้อหนิ” ยายตะโกนพูดขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน เนื่องจากหลานชายสองคนยังไม่ยอมตื่นลงมาข้างล่างเลย

                 “ไปน้องบีมสิไปตักบาตรนำอี่ยาย” น้องบีมพูด

                  “ไปกะฟ้าวไปล้างหน้าออกมันสวยแล้ว เพิ่นบ่อไปเต็มวัดแล้วบ่อปานหนิ” ยายกล่าว

                 “พี่บอสไปบ่อ พี่แป้งพี่ปาวไปบ่อฮั่น” น้องบีมหันมาถามพวกเธอทั้งสี่คน เธอตอบตกลงจะไปตักบาตรด้วยคน พี่แป้งด้วยส่วนพี่ปาวไม่ไป จากนั้นพวกเธอจึงลุกไปอาบน้ำล้างหน้าแต่งตัวไปวัดกับยายในตอนเช้า ยายจัดของไปตักบาตรให้พวกเธอคนละชุด

                 “บอม! บอมมืงสิไปวัดบ่อหนิ ยายสิแต่งขันใส่บาตรให้” ยายเดินไปยืนที่ขั้นบันไดขั้นที่สาม พร้อมตะโกนถามหลานชายคนโต “ขั้นสิไปคือบ่อลุกบ่อตื่นเดี๋ยวหนิ สวยแล้ว!” ยายบ่นไปอีก ทว่าก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะวันนี้วันพระใหญ่ต้องทำจิตใจให้สบาย ๆ หลาน ๆ ไม่ไปวัดก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว

                “ไป ๆ” พี่บอมตอบเสียงแหบเนื่องจากพึ่งตื่นจากที่นอนมาหมาด ๆ เดินลงมาจากบนบ้าน เดินไปเข้าห้องน้ำด้านนอก ส่วนห้องน้ำในบ้านพวกเธอสี่สาวจองกันแล้ว ยายก็จัดชุดไปตักบาตรเสร็จครบทุกคนพอดี ยกเว้นเพียงพี่ปาวกับพี่บอลไม่ยอมไปด้วย

                “บอสยามแลงพากันไปตัดมารข้าวมาจุดประทีปเด้อ ให้ตาตัดให้! มื้อแลงพากันไปจุดประทีปนำเพิ่นมันจังได้บุญได้ยินบ่อล่ะ” ยายกำชับอีกเรื่อง “ยายสิออกไปวัดแล้วหนิ ถือกระติกน้ำกับกระโถนคายน้ำหมากไปให้ยายนำ “

                  “จ้า!” พวกเธอตอบ จากนั้นยายก็เดินไปวัดก่อนพวกเธอเลย หลังจากที่ทุกคนแต่งตัวเสร็จก็เดินไปยังวัด เพื่อไปตักบาตรในวันออกพรรษากัน มีผู้คนในหมู่บ้านมากมายเดินมายังวัด บ้างก็ขับรถมา คนบ้านใกล้ ๆ ก็เดินไป สำหรับพวกเธอเดินกันไปดีกว่า วัดอยู่แค่นี้เอง

                เสียงประทัดก็ยังดังขึ้นเป็นระยะไม่ขาดสาย พวกเด็ก ๆ จุดเล่นกัน บอสเสียวสันหลังมากกลัวน้อง ๆ เขวี้ยงมาใส่ มีเด็กเล็กมาวิ่งเล่นในวัดมากมาย อย่างกับเทศกาลงานวัดก็มิปาน ภายในลานวัดมีหลักไม้สี่เหลี่ยมตั้งอยู่สี่ต้นเสา เป็นที่ไว้จุดประทีป มีรอยเทียนมีต้นข้าวประดับเอาไว้ก่อนแล้ว

                คืนนี้ใครที่มาจุดประทีปหรือเวียนเทียนต้องนำมารข้าว หรือ ข้าวที่ตั้งท้องมาปักไว้ตรงไม้นี้ และ นำธูปเทียนที่เวียนครบสามรอบมาปักไว้ตรงนี้เช่นกัน

                 พวกเธอสี่คนพี่น้องเดินเข้ามาภายในบริเวณวัด บอสมองไปที่หลักประทีปก็เผยยิ้มให้ เป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน ภายในวัดมีรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายกันเอาไว้ เป็นรถของคนที่มาทำบุญนั่นแหละ บนศาลาไม้อัดแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ไม่รู้ขึ้นไปจะมีที่ว่างให้นั่งกันหรือเปล่า

                 พวกเธอขึ้นมายังศาลาวัด เสียงพูดคุย เสียงเรียกคนรู้จักของคนในศาลาดังระงม บอสมองหายายเพื่อจะนำกระติกน้ำดื่มและกระโถนไปให้ มองหาไม่ยากเพราะทีมแม่ออกนุ่งชุดขาวกัน พอมองเห็นแล้วบอสจึงเดินนำไปให้ กลับมาเกือบไม่ได้ เพราะหลง!  มองหาตำแหน่งที่พี่ ๆ นั่งไม่เจอ

               “บอส! ทางหนิ” พี่แป้งชูมือเรียกเธอพร้อมหัวเราะ เธอก็หัวเราะที่หลงตำแหน่งการนั่งของตนเอง จากนั้นจึงเดินโค้งศีรษะมาหาพี่ ๆ และ น้องบีม

               “อ้ายไปหามูก่อนเด้อ ไปนั่งนำบักเม้าส์ก่อน” พี่บอมขอตัวไปนั่งกับเพื่อนของตนเอง ซึ่งก็คือพี่เม้าส์แฟนของแพรว พวกเธออนุญาตให้พี่ชายไปได้ สักพักสองฝาแฝดก็เดินมานั่งด้วย ส่วนจ๋อมมากับแม่จึงไม่ได้มานั่งกับพวกเธอ ไม่นานก็เริ่มพิธีการตักบาตรในเช้าวันวันเข้าพรรษา

               “พนมมือขึ้นกราบพระบูชาธูปเทียนนำกันเด้อ เอ๋า… กราบ กราบ กราบ” ตาโฮที่เป็นคนนำสวดมนต์กราบพระพูด จากนั้นทุกคนก็ทำตาม แล้วก็มีแม่ออกที่มาจำวัดร้องสาระพันบูชาธูปเทียน พอแม่ออกร้องจบก็เป็นการสวดมนต์ไหว้พระต่อไป

                  เมื่อทำบุญตักบาตรเรียบร้อยผู้คนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ต่างทยอยนำน้ำไปเทใส่ต้นไม้ข้าง ๆ ศาลากัน “ไปไสอยู่บ่สูมื้อหนิ” ก่อนกลับจ๋อมเดินมาถามพวกเธอ

                 “ว่าสิบ่อไปไสเด้จ๋อม ว่าสิอยู่เฮือน อี่แฝดมืงมีแนวไปอยู่บ่อ” บอสหันมาถามพี่สาวทั้งสองคน

                 “อยู่เฮือนล่ะ มาเล่นเฮือนกุเด้อขั้นบ่มีแนวไป อ้ายเม้าส์กะว่าสิมา” แพรวตอบ

               “อาจกุไปหาเบิ่งก่อน เพราะจักนอยกูต้องได้เอาแนวกินมาส่งเพลยายกูแหมะ” บอสพูด พวกเธอยืนคุยกันที่หน้าศาลาไม้ของวัด มีพี่แป้งกับน้องบีมยืนอยู่ด้วย จากนั้นพวกเธอก็แยกย้ายกันกลับบ้าน หากแต่บอสคิดว่าจะไม่ไปหาพี่สาวฝาแฝดในช่วงเช้า เอาไว้ตอนบ่าย ๆ ค่อยไปเล่นด้วยก็แล้วกัน

                 ………………………………

                “มื้อแลงบ้านเฮากะสิมีการไต้ประทีปกันอยู่วัด ขอให้พี่น้องไทยบ้านเฮาออกไปเวียนเทียนในมื้อออกพรรษา ประเพณีฮีตสิบสองคองสิบสี่ของบ้านเฮาน้อครับ เฮ็ดมาตะพ่อตะแม่เพิ่นพาเอามารข้าวเอาธูปเทียนมาไต้ประทีป มื้อแลงกินข้าวแลงข้าวงายแล้วขั้นบ่ได้ไปไสมาไสกะออกมาเวียนเทียนอยู่วัดเด้อ สืบสานวัฒนธรรมบ้านเฮาต่อ ๆ ไปน้อ ล่ะกะฝากไปยังลูกหลานเด้อครับ เด็กน้อยอย่าดึกบั้งกะโพกใส่กันหรือว่าใส่ผู้ใหญ่เด้อมื้อแลง มันอันตราย มันสิแตกใส่ตา กะฝากพ่อแม่ผู้ปกครองเบิ่งแงงลูกหลานนำเด้อ สำหรับมื้อหนิมีเรื่องมาประชาสัมพันธ์ซำหนิครับ สวัสดีครับ”

                 ห้าโมงเย็นเสียงผู้ใหญ่บ้านหมู่สองประกาศเสียงตามสายไปทั่วหมู่บ้าน คืนนี้จะมีการเวียนเทียนที่วัด สำหรับใครมีแฟนก็คงเป็นโอกาสทองที่จะได้ออกไปเจอกันตอนกลางคืน หรือ ไปเวียนเทียนด้วยกัน สำหรับเธอไปกับน้องกับพี่ ๆ ก็พอแล้ว อิจฉาแพรวชะมัดที่มีพี่เม้าส์เป็นคู่เวียนเทียน บอสนั่งฟังผู้ใหญ่บ้านประกาศอย่างเพลินบนเปลที่แขวนไว้หน้าบ้าน

                  “น้องบีมปะเฮาออกไปเด็ดมารข้าวอี่ยายมาปักประทีปปะ ปะพี่แป้งปะพาบอสไปเอาแน่” บอสชวนน้องบีมกับพี่แป้งไปนาเพื่อไปเอาข้าวที่ตั้งท้องมาเวียนเทียนในคืนนี้ หลังจากนั่งฟังผู้ใหญ่บ้านประกาศจบ บอสก็เอ่ยชวนพี่กับน้องสาวไปนา ขืนช้ากว่านี้หกโมงเย็นก็มืดแล้ว

                  “เอามาเผื่อให้อ้ายนำเด้อ” พี่บอมขอด้วย

                 “กะต้องเอามาครบคนนั่นล่ะ เฮือนเฮามีธูปกับเทียนบ่วะ” บอสถาม “บ่เป็นหยังซื้อใหม่เอากะได้ บีมไปบ่อหนิ ปะพี่แป้งมาไปมันสิมืดก่อน” บอสคะยั้นคะยอพี่สาวกับน้องสาว ยายยิ่งกำชับเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้า ทว่าไม่นำต้นข้าวไปปักก็ได้ แต่ยายอยากให้นำไปด้วย มันจะได้ครบองค์ประกอบนั่นแหละ ครบองค์ประกอบอะไรบอสก็ไม่ทราบ รู้แต่ว่ายายให้นำไปด้วย “มาฮอดจังมาเก็บดอกไม้กะได้ ไปเอาต้นข้าวก่อน”

                 พี่แป้งดูท่าจะขี้เกียจไป บอสค่อนขอดให้พี่สาว ชวนไปไม่ยอมไปด้วย ถ้าเกิดเอามาจะเอาด้วยไหม “บอลพามันไปแหน่กูคร้าน” พี่แป้งปฏิเสธ

                 “อ้ายบอลพาบอสไปแน่ บอสบ่อกล้าไปสองคนกับน้องบีม มันค่ำล่ะบอสย่านแหมะ” บอสหันไปอ้อนพี่ชายคนเล็ก นึกโกรธพี่แป้งนัก จำเอาไว้เลยจะไม่เอาต้นข้าวมาให้ด้วยเลย หึหึ ทว่าก็ต้องนำมาให้ด้วยอยู่ดีนั่นแหละ

                  “อี่ตาบ่ทันเข้ามาอยู่ อีตากะอยู่ท่งย่านหยัง ลุงเขียวกับป้าลีกะอยู่ ลุงจานดำอีก” พี่แป้งนำลุง ๆ ป้า ๆ มาอ้างเพราะไม่อยากไป “นี่กุญแจรถไปถะแหมะ” พี่แป้งยื่นกุญแจรถตนเองให้เธอเพราะขี้เกียจไปด้วย ยอมให้รถขับไปเอาต้นข้าวง่าย ๆ เลย

                “บีมพาเอื้อยไปแน่ปะ ฟ้าวไปฟ้ามา” บอสจนใจ หันไปชวนน้องสาวของตนเอง จำไว้เลยพี่แป้งพี่บอล! บอสค่อนขอดให้พี่ ๆ สองคนในใจ ยังดีที่น้องบีมพาไปเอาต้นข้าวที่นา บอสรีบขับรถไปนาทันทีกับน้องสาวสองคน

                มาถึงเถียงนาบอสกับน้องบีมรีบเดินลงมายังไร่ที่อยู่ติด ๆ กับเถียง เดินหาต้นข้าวที่ลำอวบ ๆ จะมีเม็ดข้าวซ่อนอยู่ในลำต้น เหมือนคนตั้งท้อง ลำต้นจะปล่อง ๆ อวบ ๆ ถ้าใช้มือแงะดูจะเห็นเม็ดข้าวอยู่ในนั้น

                  “พี่บอสมารข้าวเป็นแนวใดน้องบีมบ่อจัก” น้องบีมเดินตามเธออยู่บนคันนา เธอพาน้องสาวเดินวนรอบไร่ข้าวที่เขียวขจี ธันวาคมหรือปีใหม่ก็จะได้เกี่ยวแล้ว เป็นข้าวใหญ่ที่ตากับยายปลูกเอาไว้ ข้าวดอนั้นเสร็จไปตั้งแต่หลายวันก่อน

                  “มันจะเป็นลำอวบ ๆ แหมะบีม เดี๋ยวพี่หาเอง” บอสค่อย ๆ เดินมองเข้าไปยังกอข้าว พูดถึงต้นข้าวมันก็ตั้งท้องหมดทุกกอนั่นแหละ หากแต่บอสเดินวนหาลำอวบ ๆ ก็เท่านั้นเอง จะลำเล็กลำใหญ่ล้วนตั้งท้องกันทั้งนั้น เพราะเป็นช่วงของข้าวที่กำลังตั้งท้องอยู่

               “พี่บอสนี้! ลำหนิอวบบ่อ” น้องบีมที่เดินตามหลังเธอร้องบอกพร้อมชี้มือให้ดู

                 “ไสเบิ่งแน่! อวบซำใด” บอสเดินถอยกลับมาดู ว่าจะรีบมารีบกลับ แต่ต้องเสียเวลาอยู่นานหลายนาทีเพราะเดินหาลำอวบ ๆ นี่แหละ “เอ้อ ๆ เอากะได้! อวบอยู่ซำหนิ” พูดจบบอสก็เดินฝ่ากอข้าวลงไปเด็ดเอาลำข้าวกอนั้น “บีมหาอีก เอาลำซำกันนี่ล่ะ อันนี่ของบีมอะถือเอา” บอสยื่นลำข้าวให้น้องสาว เพราะเป็นคนมองเห็น เหลือของเธอกับของพี่ ๆ

                 “เอามา! เดี๋ยวน้องบีมหาซอย” บอสยักคิ้วให้ จากนั้นก็เดินวนรอบไร่ข้าวต่อไป ไม่ยอมเดินไปหาไร่อื่น เดินวนหารอบไร่ที่อยู่ติดกับเถียงนานี่แหละ เพราะกลัวรถมอเตอร์ไซค์พี่สาวหาย

                 “นั่นเด้! พ่อแล้ว “ บอสอุทานพร้อมลงไปเด็ดกอข้าวกอนั้น พึ่งจะเห็นก็เดินวนอยู่หลายรอบ และแล้วบอสก็ได้มารข้าวครบทุกคนสำหรับพี่ ๆ พอได้ครบก็พาน้องสาวรีบกลับบ้านทันที มาตั้งแต่ห้าโมงเย็นจวนจะเข้าหกโมงแล้วพึ่งจะได้กลับ ทีแรกกะมาครู่เดียวมันไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้เลย มัวแต่เลือกมารข้าวกันนั่นเอง ก็เพราะเอาไปทำบุญจึงอยากเลือกกอสวย ๆ ไป

                “นานมาคักเด้อ กูว่าแมนพากันถืกลากลงป่าข้าวล่ะ” พี่บอมพูดประชด ยังจะมาทำเป็นพูดประชดอีก เอามาเผื่อก็ดีแค่ไหน ทีชวนไปไม่อยากไปกัน บอสเหวี่ยงค้อนให้พี่ชายเบา ๆ พี่บอม มองพวกเธอด้วยสายตาไม่ค่อยชอบใจนักเพราะเป็นห่วงนั่นแหละ “พาน้องไปโดนคัก”

              “เอ๋า! กะคนเลือกมารข้าวอยู่น้อ อยู่นาจะของไผสิมาเฮ็ดหยัง” บอสเถียงพี่ชายหน้าตาเฉย

               “กะนาจะของนั่นล่ะอีหล่า ตะนามืงติดถนนเด้ คนผ่านไปผ่านมาเห็นเด็กน้อยสองคนว่าติ ผู้ใหญ่กะบ่มี เขาสิว่ามืงเป็นเจ้าของนาอยู่นั่นแหล่วผีบ้านั่น” พี่ปาวพูด ทำเอาเธอคิดมากอยู่เหมือนกัน แต่ช่างเถอะไหน ๆ ก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นสักหน่อย “เอามารข้าวมาแล้วไปเก็บดอกไม้ไปฮั่น ดอกคุดนั่นสามคู่ คนละสามคู่ให้เอื้อยนำ” พี่ปาวสั่งแล้วเธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย เดินไปเก็บดอกพุทธรักษาที่ยายปลูกเอาไว้มาให้พี่ ๆ ทุกคนและน้องบีมด้วย

                พี่ปาวจัดแจงประทีปให้ทุก ๆ คน พร้อมทำกับข้าวให้ตาทานเสร็จสรรพ ก็รอเวลาหนึ่งทุ่มเท่านั้นเพื่อจะออกไปเวียนเทียนกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่