.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังจากเป็นบุญเดือนเก้าผ่านไปแล้ว โดยการทำข้าวประดับดินไปหยายในตอนเที่ยงคืน พอเข้าเดือนสิบก็เป็นบุญข้าวสากต่ออีก ห่อข้าวต้มหมกหรือขนมเทียนเหมือนเดิม ทำคล้าย ๆ กันแต่บุญข้าวสากจะนำไปหยายตอนกลางวันที่ทุ่งนา ให้ผีไร่ผีนามารับเอาผลบุญนี้ไป ตอบแทนที่ปกปักรักษาดูแลไร่นา ส่วนข้าวประดับดินคือทำให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง เป็นความเชื่อสำหรับคนอีสานที่สืบทอดมายาวนาน
นอกจากทำขนมไปวางไว้ตามท้องนาแล้ว ยังมีการนำผลไม้ หมาก พลู หรือ ของกินอื่น ๆ ไปแจกจ่ายแก่ญาติพี่น้องด้วย ก็เรียกว่าหยายข้าวสากเหมือนกัน แต่เป็นการหยายให้คนเป็น โดยนำข้าวของเครื่องใช้ไปแจกจ่ายให้แก่ญาติ ๆ สำหรับคนมีตังค์ ส่วนคนไม่ค่อยมีทุนทรัพย์ก็ไม่ต้องทำในส่วนนี้ก็ได้ สำหรับยาย ๆ มีหมากกับกล้วยไปหยายให้แก่ญาติพี่น้อง
ยายก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับตาน้อยกับยายงิ่มน้อง ๆ ของยายที่เหลืออยู่ และ ยายก็จัดให้เธอกับน้องบีมหนึ่งชุด พี่บอมพี่บอลหนึ่งชุดให้พวกเธอเอาไปให้ย่า เรียกว่า ‘ไปหยามย่าหรือยายก็ได้’ เธอกับน้องบีมถือหมากพลูไปให้ย่าที่บ้าน พี่บอมพี่บอลเอาไปให้ยายของพี่ ๆ ที่ต่างหมู่บ้าน ส่วนตัวพี่ปาวพี่แป้งยายก็ให้นำไปให้ยายงิ่มกับตาน้อยนั่นแหละ เนื่องจากยายของพี่สาวทั้งสองคนอยู่จังหวัดร้อยเอ็ดนู่น ไปไม่ได้ ! สำหรับยายก็มีหลานคนอื่น ๆ นำมาให้เช่นกัน
“บอสเลิกเรียนมาเอาไปให้ย่ามืงเด้อหนิ แม่ใหญ่น้อยนำ เอาไปให้เรานำ” ยายสั่งการพวกเธอ “บอมเอาไปให้ยายสูชุดหนิ ส่วนสองคนนี่เอาไปใหญ่งิ่มใหญ่น้อยเด้อ” ยายสั่งเอาไว้ วันนี้ยายต้องไปนอนวัด ความจริงต้องเอาไปแจกในตอนเช้า ทว่าพวกเธอไม่ได้หยุดเพราะมันตรงกับวันไปโรงเรียนนี่แหละ จึงจำเป็นต้องเอาไปแจกในตอนเย็น ๆ ก็ได้เหมือนกัน
สำหรับบุญข้าวสากวันนี้ ยายพาทำขนมเทียนตั้งแต่เมื่อคืน บอสกับพี่ ๆ ก็ทำช่วยยายเหมือนเดิม บุญข้าวสากก็ไม่ตรงกับเสาร์อาทิตย์เช่นเดิมเหมือนกัน
เช้าวันนี้บอสตื่นเช้ากว่าปกติ นัดกับออยแล้วว่าจะไปวัดทำบุญก่อนไปโรงเรียนกับแพทอีกคน พวกเธอนัดกันว่าจะไปตักบาตรบุญข้าวสากกันก่อน ยอมสาย ยอมโดดกิจกรรมหน้าเสาธง
“ยายแต่งของไปวัดให้บอสนำแน บอสสิไปตักบาตรมื้อหนิ” บอสบอกยายขณะแต่งตัว บอสสวมชุดนักเรียนนั่นแหละไปตักบาตร เพราะตักบาตรเสร็จก็จะไปโรงเรียนเลย เตรียมกระเป๋านักเรียนสะพายไปวัดด้วยเลย
“สิบ่สวยไปโรงเรียนบ่ มาสิไปตักบาตร” ยายถาม ปรายตามองเธอขณะตนเองก็แต่งตัวด้วยชุดขาวเช่นกัน คืนนี้ยายจะไปจำวัด
“บ่เป็นหยัง ! ประสาบ่ทันเข้าแถวซือ ๆ“ บอสตอบแบบไม่สะทกสะท้าน ส่วนพี่ ๆ ทั้งสี่คนนั้นแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียนกันแล้ว
“บอสมืงสิไปวัดกับไผน่ะ” พี่แป้งถาม
“กับออยกับแพท” เธอตอบ กำลังนั่งสวมถุงเท้านักเรียนที่ขั้นบันได “พี่แป้งไปตักบาตรนำบ่” ชวนพี่สาวไปด้วยซะเลย
“บ่ ! บ่อยากพ่อบรรจง ฮา ” พี่แป้งตอบกลั้วยิ้ม เธอเองก็หัวเราะ ถึงจะโดนทำโทษเพราะเข้าเรียนสายก็ไม่หวั่น เพราะมีเพื่อนถึงสองคน และ นักเรียนคนอื่น ๆ อีกหลายคน ไม่กลัวหรอก ทำใจให้สบาย ๆ ในการไปทำบุญสำหรับวันนี้
“ยายแต่งให้แล้วหนิ ถือกระติกน้ำไปให้ยายนำเด้อ ปาวเลิกเรียนมาอย่าพากันไปเล่นไสเด้อ เฮ็ดแนวกินให้ตากับน้องกินเด้อได้ยินบ่” ยายกำชับ พี่ปาวกับพี่แป้งตอบตกลง จากนั้นยายก็เดินไปวัดก่อนเธอ ส่วนเธอรอออยมารับจะออกไปพร้อมกัน
ในขันตักบาตรของเธอมีข้าวต้มหมกสามอัน น้ำเปล่า ข้าวเหนียว นม และ ขนมสองห่อ พร้อมดอกไม้ และ ปัจจัยด้วย ยายเตรียมให้เสร็จสรรพ ไม่นานออยก็เดินมาหาที่บ้าน จากนั้นพวกเธอก็เดินไปหาแพทอีกที ก่อนจะเดินไปยังวัด
มาถึงพบว่ามีเพื่อนนักเรียนหลายคนที่มาตักบาตรบุญข้าวสาก ทุกคนล้วนใส่ชุดนักเรียนกันมาทั้งนั้น บอสกับออยอีกทั้งแพทด้วยต่างยิ้มให้กัน อย่างน้อยก็มีเพื่อน ๆ โดนทำโทษหลายคน
ที่ไม่กลัว และ กล้ามาทำบุญก่อนไปโรงเรียนเพราะ ถึงอย่างไรก็ทันเข้าเรียนชั่วโมงแรกอยู่แล้ว แค่ไม่ทันเข้าแถวเฉย ๆ บอสกับเพื่อนทั้งสองคนเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ กับยาย วางกระเป๋านักเรียนไว้ข้าง ๆ วันนี้ขนาดไม่ตรงกับวันหยุด ผู้คนในหมู่บ้านยังมาทำบุญกันแน่นศาลา ถ้าหากตรงกับเสาร์อาทิตย์ไม่อยากจะคิด
“ฮ้วยบ่พากันสวยไปโรงเรียนบ่นาง คือมาใส่บาตร” แม่น้อยถามพวกเธอ
“บ่สวยหรอกแม่น้อย ทันเข้าเรียนอยู่” บอสตอบ เพราะทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว จึงทราบว่าทันเข้าเรียนชั่วโมงแรกแน่นอน
“พ่อใหญ่บรรจงสิบ่ทำโทษบ่ สูไปเรียนสวย ๆ แบบหนิ ฮา” แม่น้อยพูดกลั้วยิ้ม เพราะชื่อนี้ใคร ๆ ก็รู้จัก
“บอสมีมูหลายคนอยู่แม่น้อย “ พูดพร้อมปรายตาไปมองนักเรียนคนอื่น ๆ ที่สวมชุดนักเรียนนั่งอยู่กระจัดกระจายอยู่คนละมุมของศาลา เชื่อว่าเพื่อน ๆ หมู่บ้านอื่นก็คงมีเช่นกัน
พอถึงเวลาอันสมควรแก้การเริ่มพิธีตักบาตร ทุกคนก็สงบเงียบ เลิกสนทนากันพนมมือกราบพระ บอสกับออยและแพทต่างตั้งใจพนมมือขึ้น โทรศัพท์สั่นเพราะมีสายเรียกเข้า บอสหยิบขึ้นมาดูชื่อของโสโชว์บนหน้าจอ โสรญาโทรหาคงคิดว่าไม่มาโรงเรียนหรือไร ทว่าบอสก็ไม่ได้รับสายปล่อยให้สั่นอยู่อย่างนั้น เพราะพระกำลังสวดมนต์อยู่
“โทรศัพท์บอสสั่นบ่” ออยถาม เพราะนั่งติดกันจึงสัมผัสได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์
“อือ โสโทรเข้า คงคิดว่าเราไม่ไปโรงเรียน” ตอบแบบสบายใจ ไม่นานโทรศัพท์ก็หยุดสั่นไปเอง ก่อนที่เธอจะตั้งใจสวดมนต์ไหว้พระต่อ
ใช้เวลาไม่กี่นาที พิธีทำบุญตักบาตรบุญข้าวสากก็เสร็จสิ้นลง บอสถือแก้วน้ำลงมาหยาดน้ำใส่กระถางดอกไม้ของวัด “บอสออยเฮาบ่ต้องยางไป ยายกูสิไปส่ง” แพทบอก ยายของแพทมีมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ยายของแพทอายุยังไม่มาก ขับมอเตอร์ไซค์เป็น
“จริงอ่ะ !” บอสตาลุกวาว ดีใจจะได้ไม่ต้องเดินไป จะได้ไปถึงโรงเรียนเร็วขึ้น
“อือ ถ่าอยู่วัดหนิล่ะ ยายกูกลับไปเอารถคราวเดียว” แพทตอบ
“เค !” เธอกับออยตอบตกลง พวกเธอสามคนนั่งรอยายของแพทที่ชิงช้าของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งใช้พื้นที่วัดในการจัดตั้ง ไม่นานยายของแพทก็ขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมารับ พวกเธอสามคนขึ้นนั่งประจำที่ จากนั้นยายก็ขับรถออกจากวัดไป
“สวยปานหนิทันเข้าเรียนบ่ล่ะสู” ยายถาม ขณะนี้บอสแกะข้าวหนมหมกทานไปตามทางอย่างอร่อย ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่พอโดนถามบ่อย ๆ ก็แอบกังวลอยู่บ้าง
“ทัน ! บอสเคยมาตักบาตรจังสิอยู่ใหญ่เขียว” บอสตอบ
“มันบ่ตรงเสาร์อาทิตย์น้อ คั้นแมนตรงเด็กน้อยสิหลายอยู่มื้อหนิ” ยายของแพทบ่น
“แมนอยู่ยาย” บอสตอบ จากนั้นพวกเธอนั่งกันเงียบ ๆ ทานขนมหมกไปด้วย บอสให้ยายทำสูตรเดิม รสชาติที่บอสชอบนั่นแหละ ยายก็ทำตามใจหลาน ๆ ทุกคนเช่นเดิม ใครชอบไส้อะไรก็ทำให้หมด
ไม่นานรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของยายเขียว ก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าประตูโรงเรียน บอสเห็นครูบรรจงกับนักเรียนคนอื่น ๆ อยู่กลางสนามก็หัวใจหล่นลงตาตุ่มทันที ทั้งที่คาดการณ์เผื่อใจไว้แล้วล่ะว่าอาจจะถูกทำโทษ เพราะมาสายไม่ทันเข้าแถว แต่มันก็กลัวอยู่ดี
“นั่น ! กูว่าตั้วสูสิถืกครูบรรจงทำโทษบาดหนิ ฮา “ ยายเขียวยายของแพทหัวเราะชอบใจ ทำไมต้องขำหลานกำลังจะถูกทำโทษนะ “ไป ! พากันเข้าไปเรียน ยายเมือก่อน” ยายเขียวเอ่ยลาก่อนจะขับรถจากไป ครูบรรจงมองมายังพวกเธอไม่ละสายตาเลย
“บอส ออย กูนับหนึ่งฮอดสามแล่นเลยล้า” แพทนัดแนะ จะต้องหลบครูบรรจงให้ได้ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางรอดแน่นอน แต่ถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่รู้เลยว่าจะรอดไหม อาจจะรอดก็ได้
“เค !” บอสกับออยตอบ สายตาก็จ้องไปยังครูบรรจง และ นักเรียนคนอื่น ๆ ที่กลางสนามฟุตบอลไม่ละสายตาเช่นกัน พวกเธอยังไม่เข้าไปในโรงเรียน พวกเธอยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนนั่นเอง
“หนึ่ง สอง ซั่ม แล่นเฮา” แพทนับหนึ่งถึงสามจบพวกเธอก็พากันสะพายกระเป๋าวิ่งไปหลังเสาธง ฝ่าโรงอาหารไป กะว่าจะแอบวิ่งขึ้นอาคารเรียนไปแบบเนียน ๆ ได้ยินเสียงนุ่ม ๆ สั่งให้หยุด
“หยุดเลย ! พวกมืงสามตัวจะวิ่งไปไหนกันฮะ มานี่เลย ! “ ครูบรรจงจะโกนเรียก พวกเธอไม่มีใครฟังเสียงตะโกนนั้น พากันวิ่งหากจุกตูดกันเลยทีเดียว กระเป๋านักเรียนหนัก ๆ สวมกระโปรงนักเรียน ก็ไม่หวั่นต่อการวิ่งหนีครูฝ่ายปกครอง
“แล่นเข้าอาคารแม้ ! มืงหยุดหาอิหยัง ครูบ่เห็นเฮาหรอก” แพทบอกให้วิ่งต่อ เพราะเชื่อว่าครูบรรจงจำหน้าไม่ได้แน่นอน
“ฮือ ! เรากลัวครูบรรจงทำโทษ ถ้าครูจับได้ละบอส แพท” ออยไม่กล้า ลังเลว่าจะไปต่อหรือจะกลับไปหาครูปกครองท่านนี้ ส่วนเธอก็ลังเล อยากเสี่ยงอาจจะรอด แต่ ถ้าให้ออยกลับไปหาครูบรรจงพวกเธอไม่รอดแน่ อาจจะโดนสองเด้งไปอีก ข้อหาหลบหนีด้วย เพราะฉะนั้นจะให้ออยกลับไปไม่ได้
“ออยวิ่ง ! ครูไม่เห็นเราหรอก” บอสกระชากแขนออย ดึงให้วิ่งตามมาด้วย ขืนชักช้าได้โดนจับได้จริง ๆ แน่ ส่วนแพทวิ่งนำไปก่อนแล้ว
พวกเธอสามคนไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของครูบรรจง วิ่งมาถึงอาคารเรียน ยืนหายใจหอบหัวเราะให้กันและกัน คนที่เป็นกังวลเห็นจะเป็นออยจันทราคนเดียว “ครูบรรจงจะตามมามั้ยอ่ะ เรากลัว !” ออยทำสีหน้าท่าทางจะร้องไห้
“ไม่ตามมาหรอก ถ้าครูตามมาครูตามมาแล้ว เรารีบไปเรียนกันเถอะ” มาถึงอาคารรียนชั้น ม.2 ห้อง ม.2/5 ไม่มีใครอยู่ เพราะชั่วโมงแรกเรียนวิทยาศาสตร์ ต้องไปเรียนที่ห้องวิทย์
จากนั้นพวกเธอก็เดินไปยังอาคารห้องวิทยาศาสตร์ หลบ ๆ กันไป จะให้ครูบรรจงเห็นอีกไม่ได้ สุดท้ายก็รอดพ้นเงื้อมมือของครูปกครองสุดโหดมาได้แบบหวุดหวิด ค่อยมาลุ้นเอาทีหลังว่าครูจะตามมาคาดโทษหรือเปล่า
มาถึงห้องวิทยาศาสตร์โชคดีสองต่อ เมื่อครูประจำรายวิชายังไม่เข้าสอน เพื่อน ๆ ต่างพากันจับกลุ่มเม้าท์กันอยู่ เสียงดังจ้าละหวั่นกันเลยทีเดียว ไม่มีใครสนใจการมาสายของพวกเธอสามคนสักคน โชคดีไป พวกเธอสามคนทำตัวปกติที่สุด จะเปิดปากบอกไม่ได้ว่าหลบครูบรรจงมา ไม่อย่างนั้นโดนเอาไปฟ้องแน่ ๆ
“สุนิกูนึกว่าบ่มาเรียน โทรหากะบ่รับ พวกสูสามคนมาตะไสคือมาสายแถะ” โสรญาถาม เดินเข้ามาหาเมื่อพวกเธอสามคนมาถึง บอสนั่งลงโต๊ะว่างที่น้ำผึ้งกับโสรญาจองไว้ให้แล้ว มาเรียนชั่วโมงวิทย์แบบนี้ครูให้นั่งเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมที่เคยนั่งกันนั่นแหละ จึงไม่ต้องเสียเวลาจับกลุ่มใหม่
“ตักบาตรอยู่เฮ๊ย บุญข้าวสากแหมะ กินบ่ยายเขาเฮ็ด” บอสตอบเพื่อน หายใจหอบนิดหน่อย ส่งสายตาให้กันกับแพท ส่วนออยดูจะเป็นกังวลมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ไม่แสดงท่าทางพิรุธออกมาให้เพื่อน ๆ เห็น
“มา ! เอามากินแน่บอส” มอสมาริสาขอด้วยคน บอสยื่นให้คนละอัน
“เอาลองชิมของกูเบิ่ง” แพทยื่นให้โสกับมอสอีกคนละอัน “อะบอสมืงชิมบ่” แพทยื่นให้เธอ
“บ่ ! กูบ่มักไส้บักพร้าว ของกูไส้ถั่วเหลืองแหมะ บ่มัก ! ให้ออยพุ่น” ปัดให้ออยรับแทน
“ไหนมาชิมดูดิ ของเค้าแม่ก็ทำไส้ถั่วเหลืองเหมือนกัน” ออยรับขนมหมกของแพทมาทาน พวกเธอนั่งคุยกันไปเรื่อยรอคุณครู ไม่ยอมพูดถึงวีรกรรมที่ทำมาเมื่อครู่ และ คอยลุ้นว่าครูบรรจงจะมาตามหรือเปล่า ไม่นานครูประจำวิชาก็เข้าสอน
เช้านี้พวกเธอเรียนวิทยาศาสตร์สองชั่วโมงกันเลย จนตอนนี้ก็ยังไร้วี่แววของครูบรรจง คิดว่าพวกเธอน่าจะปลอดภัยแล้วล่ะ
คิดถึง 2 บทที่ 76
.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังจากเป็นบุญเดือนเก้าผ่านไปแล้ว โดยการทำข้าวประดับดินไปหยายในตอนเที่ยงคืน พอเข้าเดือนสิบก็เป็นบุญข้าวสากต่ออีก ห่อข้าวต้มหมกหรือขนมเทียนเหมือนเดิม ทำคล้าย ๆ กันแต่บุญข้าวสากจะนำไปหยายตอนกลางวันที่ทุ่งนา ให้ผีไร่ผีนามารับเอาผลบุญนี้ไป ตอบแทนที่ปกปักรักษาดูแลไร่นา ส่วนข้าวประดับดินคือทำให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง เป็นความเชื่อสำหรับคนอีสานที่สืบทอดมายาวนาน
นอกจากทำขนมไปวางไว้ตามท้องนาแล้ว ยังมีการนำผลไม้ หมาก พลู หรือ ของกินอื่น ๆ ไปแจกจ่ายแก่ญาติพี่น้องด้วย ก็เรียกว่าหยายข้าวสากเหมือนกัน แต่เป็นการหยายให้คนเป็น โดยนำข้าวของเครื่องใช้ไปแจกจ่ายให้แก่ญาติ ๆ สำหรับคนมีตังค์ ส่วนคนไม่ค่อยมีทุนทรัพย์ก็ไม่ต้องทำในส่วนนี้ก็ได้ สำหรับยาย ๆ มีหมากกับกล้วยไปหยายให้แก่ญาติพี่น้อง
ยายก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับตาน้อยกับยายงิ่มน้อง ๆ ของยายที่เหลืออยู่ และ ยายก็จัดให้เธอกับน้องบีมหนึ่งชุด พี่บอมพี่บอลหนึ่งชุดให้พวกเธอเอาไปให้ย่า เรียกว่า ‘ไปหยามย่าหรือยายก็ได้’ เธอกับน้องบีมถือหมากพลูไปให้ย่าที่บ้าน พี่บอมพี่บอลเอาไปให้ยายของพี่ ๆ ที่ต่างหมู่บ้าน ส่วนตัวพี่ปาวพี่แป้งยายก็ให้นำไปให้ยายงิ่มกับตาน้อยนั่นแหละ เนื่องจากยายของพี่สาวทั้งสองคนอยู่จังหวัดร้อยเอ็ดนู่น ไปไม่ได้ ! สำหรับยายก็มีหลานคนอื่น ๆ นำมาให้เช่นกัน
“บอสเลิกเรียนมาเอาไปให้ย่ามืงเด้อหนิ แม่ใหญ่น้อยนำ เอาไปให้เรานำ” ยายสั่งการพวกเธอ “บอมเอาไปให้ยายสูชุดหนิ ส่วนสองคนนี่เอาไปใหญ่งิ่มใหญ่น้อยเด้อ” ยายสั่งเอาไว้ วันนี้ยายต้องไปนอนวัด ความจริงต้องเอาไปแจกในตอนเช้า ทว่าพวกเธอไม่ได้หยุดเพราะมันตรงกับวันไปโรงเรียนนี่แหละ จึงจำเป็นต้องเอาไปแจกในตอนเย็น ๆ ก็ได้เหมือนกัน
สำหรับบุญข้าวสากวันนี้ ยายพาทำขนมเทียนตั้งแต่เมื่อคืน บอสกับพี่ ๆ ก็ทำช่วยยายเหมือนเดิม บุญข้าวสากก็ไม่ตรงกับเสาร์อาทิตย์เช่นเดิมเหมือนกัน
เช้าวันนี้บอสตื่นเช้ากว่าปกติ นัดกับออยแล้วว่าจะไปวัดทำบุญก่อนไปโรงเรียนกับแพทอีกคน พวกเธอนัดกันว่าจะไปตักบาตรบุญข้าวสากกันก่อน ยอมสาย ยอมโดดกิจกรรมหน้าเสาธง
“ยายแต่งของไปวัดให้บอสนำแน บอสสิไปตักบาตรมื้อหนิ” บอสบอกยายขณะแต่งตัว บอสสวมชุดนักเรียนนั่นแหละไปตักบาตร เพราะตักบาตรเสร็จก็จะไปโรงเรียนเลย เตรียมกระเป๋านักเรียนสะพายไปวัดด้วยเลย
“สิบ่สวยไปโรงเรียนบ่ มาสิไปตักบาตร” ยายถาม ปรายตามองเธอขณะตนเองก็แต่งตัวด้วยชุดขาวเช่นกัน คืนนี้ยายจะไปจำวัด
“บ่เป็นหยัง ! ประสาบ่ทันเข้าแถวซือ ๆ“ บอสตอบแบบไม่สะทกสะท้าน ส่วนพี่ ๆ ทั้งสี่คนนั้นแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียนกันแล้ว
“บอสมืงสิไปวัดกับไผน่ะ” พี่แป้งถาม
“กับออยกับแพท” เธอตอบ กำลังนั่งสวมถุงเท้านักเรียนที่ขั้นบันได “พี่แป้งไปตักบาตรนำบ่” ชวนพี่สาวไปด้วยซะเลย
“บ่ ! บ่อยากพ่อบรรจง ฮา ” พี่แป้งตอบกลั้วยิ้ม เธอเองก็หัวเราะ ถึงจะโดนทำโทษเพราะเข้าเรียนสายก็ไม่หวั่น เพราะมีเพื่อนถึงสองคน และ นักเรียนคนอื่น ๆ อีกหลายคน ไม่กลัวหรอก ทำใจให้สบาย ๆ ในการไปทำบุญสำหรับวันนี้
“ยายแต่งให้แล้วหนิ ถือกระติกน้ำไปให้ยายนำเด้อ ปาวเลิกเรียนมาอย่าพากันไปเล่นไสเด้อ เฮ็ดแนวกินให้ตากับน้องกินเด้อได้ยินบ่” ยายกำชับ พี่ปาวกับพี่แป้งตอบตกลง จากนั้นยายก็เดินไปวัดก่อนเธอ ส่วนเธอรอออยมารับจะออกไปพร้อมกัน
ในขันตักบาตรของเธอมีข้าวต้มหมกสามอัน น้ำเปล่า ข้าวเหนียว นม และ ขนมสองห่อ พร้อมดอกไม้ และ ปัจจัยด้วย ยายเตรียมให้เสร็จสรรพ ไม่นานออยก็เดินมาหาที่บ้าน จากนั้นพวกเธอก็เดินไปหาแพทอีกที ก่อนจะเดินไปยังวัด
มาถึงพบว่ามีเพื่อนนักเรียนหลายคนที่มาตักบาตรบุญข้าวสาก ทุกคนล้วนใส่ชุดนักเรียนกันมาทั้งนั้น บอสกับออยอีกทั้งแพทด้วยต่างยิ้มให้กัน อย่างน้อยก็มีเพื่อน ๆ โดนทำโทษหลายคน
ที่ไม่กลัว และ กล้ามาทำบุญก่อนไปโรงเรียนเพราะ ถึงอย่างไรก็ทันเข้าเรียนชั่วโมงแรกอยู่แล้ว แค่ไม่ทันเข้าแถวเฉย ๆ บอสกับเพื่อนทั้งสองคนเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ กับยาย วางกระเป๋านักเรียนไว้ข้าง ๆ วันนี้ขนาดไม่ตรงกับวันหยุด ผู้คนในหมู่บ้านยังมาทำบุญกันแน่นศาลา ถ้าหากตรงกับเสาร์อาทิตย์ไม่อยากจะคิด
“ฮ้วยบ่พากันสวยไปโรงเรียนบ่นาง คือมาใส่บาตร” แม่น้อยถามพวกเธอ
“บ่สวยหรอกแม่น้อย ทันเข้าเรียนอยู่” บอสตอบ เพราะทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว จึงทราบว่าทันเข้าเรียนชั่วโมงแรกแน่นอน
“พ่อใหญ่บรรจงสิบ่ทำโทษบ่ สูไปเรียนสวย ๆ แบบหนิ ฮา” แม่น้อยพูดกลั้วยิ้ม เพราะชื่อนี้ใคร ๆ ก็รู้จัก
“บอสมีมูหลายคนอยู่แม่น้อย “ พูดพร้อมปรายตาไปมองนักเรียนคนอื่น ๆ ที่สวมชุดนักเรียนนั่งอยู่กระจัดกระจายอยู่คนละมุมของศาลา เชื่อว่าเพื่อน ๆ หมู่บ้านอื่นก็คงมีเช่นกัน
พอถึงเวลาอันสมควรแก้การเริ่มพิธีตักบาตร ทุกคนก็สงบเงียบ เลิกสนทนากันพนมมือกราบพระ บอสกับออยและแพทต่างตั้งใจพนมมือขึ้น โทรศัพท์สั่นเพราะมีสายเรียกเข้า บอสหยิบขึ้นมาดูชื่อของโสโชว์บนหน้าจอ โสรญาโทรหาคงคิดว่าไม่มาโรงเรียนหรือไร ทว่าบอสก็ไม่ได้รับสายปล่อยให้สั่นอยู่อย่างนั้น เพราะพระกำลังสวดมนต์อยู่
“โทรศัพท์บอสสั่นบ่” ออยถาม เพราะนั่งติดกันจึงสัมผัสได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์
“อือ โสโทรเข้า คงคิดว่าเราไม่ไปโรงเรียน” ตอบแบบสบายใจ ไม่นานโทรศัพท์ก็หยุดสั่นไปเอง ก่อนที่เธอจะตั้งใจสวดมนต์ไหว้พระต่อ
ใช้เวลาไม่กี่นาที พิธีทำบุญตักบาตรบุญข้าวสากก็เสร็จสิ้นลง บอสถือแก้วน้ำลงมาหยาดน้ำใส่กระถางดอกไม้ของวัด “บอสออยเฮาบ่ต้องยางไป ยายกูสิไปส่ง” แพทบอก ยายของแพทมีมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ยายของแพทอายุยังไม่มาก ขับมอเตอร์ไซค์เป็น
“จริงอ่ะ !” บอสตาลุกวาว ดีใจจะได้ไม่ต้องเดินไป จะได้ไปถึงโรงเรียนเร็วขึ้น
“อือ ถ่าอยู่วัดหนิล่ะ ยายกูกลับไปเอารถคราวเดียว” แพทตอบ
“เค !” เธอกับออยตอบตกลง พวกเธอสามคนนั่งรอยายของแพทที่ชิงช้าของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งใช้พื้นที่วัดในการจัดตั้ง ไม่นานยายของแพทก็ขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมารับ พวกเธอสามคนขึ้นนั่งประจำที่ จากนั้นยายก็ขับรถออกจากวัดไป
“สวยปานหนิทันเข้าเรียนบ่ล่ะสู” ยายถาม ขณะนี้บอสแกะข้าวหนมหมกทานไปตามทางอย่างอร่อย ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่พอโดนถามบ่อย ๆ ก็แอบกังวลอยู่บ้าง
“ทัน ! บอสเคยมาตักบาตรจังสิอยู่ใหญ่เขียว” บอสตอบ
“มันบ่ตรงเสาร์อาทิตย์น้อ คั้นแมนตรงเด็กน้อยสิหลายอยู่มื้อหนิ” ยายของแพทบ่น
“แมนอยู่ยาย” บอสตอบ จากนั้นพวกเธอนั่งกันเงียบ ๆ ทานขนมหมกไปด้วย บอสให้ยายทำสูตรเดิม รสชาติที่บอสชอบนั่นแหละ ยายก็ทำตามใจหลาน ๆ ทุกคนเช่นเดิม ใครชอบไส้อะไรก็ทำให้หมด
ไม่นานรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของยายเขียว ก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าประตูโรงเรียน บอสเห็นครูบรรจงกับนักเรียนคนอื่น ๆ อยู่กลางสนามก็หัวใจหล่นลงตาตุ่มทันที ทั้งที่คาดการณ์เผื่อใจไว้แล้วล่ะว่าอาจจะถูกทำโทษ เพราะมาสายไม่ทันเข้าแถว แต่มันก็กลัวอยู่ดี
“นั่น ! กูว่าตั้วสูสิถืกครูบรรจงทำโทษบาดหนิ ฮา “ ยายเขียวยายของแพทหัวเราะชอบใจ ทำไมต้องขำหลานกำลังจะถูกทำโทษนะ “ไป ! พากันเข้าไปเรียน ยายเมือก่อน” ยายเขียวเอ่ยลาก่อนจะขับรถจากไป ครูบรรจงมองมายังพวกเธอไม่ละสายตาเลย
“บอส ออย กูนับหนึ่งฮอดสามแล่นเลยล้า” แพทนัดแนะ จะต้องหลบครูบรรจงให้ได้ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางรอดแน่นอน แต่ถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่รู้เลยว่าจะรอดไหม อาจจะรอดก็ได้
“เค !” บอสกับออยตอบ สายตาก็จ้องไปยังครูบรรจง และ นักเรียนคนอื่น ๆ ที่กลางสนามฟุตบอลไม่ละสายตาเช่นกัน พวกเธอยังไม่เข้าไปในโรงเรียน พวกเธอยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนนั่นเอง
“หนึ่ง สอง ซั่ม แล่นเฮา” แพทนับหนึ่งถึงสามจบพวกเธอก็พากันสะพายกระเป๋าวิ่งไปหลังเสาธง ฝ่าโรงอาหารไป กะว่าจะแอบวิ่งขึ้นอาคารเรียนไปแบบเนียน ๆ ได้ยินเสียงนุ่ม ๆ สั่งให้หยุด
“หยุดเลย ! พวกมืงสามตัวจะวิ่งไปไหนกันฮะ มานี่เลย ! “ ครูบรรจงจะโกนเรียก พวกเธอไม่มีใครฟังเสียงตะโกนนั้น พากันวิ่งหากจุกตูดกันเลยทีเดียว กระเป๋านักเรียนหนัก ๆ สวมกระโปรงนักเรียน ก็ไม่หวั่นต่อการวิ่งหนีครูฝ่ายปกครอง
“แล่นเข้าอาคารแม้ ! มืงหยุดหาอิหยัง ครูบ่เห็นเฮาหรอก” แพทบอกให้วิ่งต่อ เพราะเชื่อว่าครูบรรจงจำหน้าไม่ได้แน่นอน
“ฮือ ! เรากลัวครูบรรจงทำโทษ ถ้าครูจับได้ละบอส แพท” ออยไม่กล้า ลังเลว่าจะไปต่อหรือจะกลับไปหาครูปกครองท่านนี้ ส่วนเธอก็ลังเล อยากเสี่ยงอาจจะรอด แต่ ถ้าให้ออยกลับไปหาครูบรรจงพวกเธอไม่รอดแน่ อาจจะโดนสองเด้งไปอีก ข้อหาหลบหนีด้วย เพราะฉะนั้นจะให้ออยกลับไปไม่ได้
“ออยวิ่ง ! ครูไม่เห็นเราหรอก” บอสกระชากแขนออย ดึงให้วิ่งตามมาด้วย ขืนชักช้าได้โดนจับได้จริง ๆ แน่ ส่วนแพทวิ่งนำไปก่อนแล้ว
พวกเธอสามคนไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของครูบรรจง วิ่งมาถึงอาคารเรียน ยืนหายใจหอบหัวเราะให้กันและกัน คนที่เป็นกังวลเห็นจะเป็นออยจันทราคนเดียว “ครูบรรจงจะตามมามั้ยอ่ะ เรากลัว !” ออยทำสีหน้าท่าทางจะร้องไห้
“ไม่ตามมาหรอก ถ้าครูตามมาครูตามมาแล้ว เรารีบไปเรียนกันเถอะ” มาถึงอาคารรียนชั้น ม.2 ห้อง ม.2/5 ไม่มีใครอยู่ เพราะชั่วโมงแรกเรียนวิทยาศาสตร์ ต้องไปเรียนที่ห้องวิทย์
จากนั้นพวกเธอก็เดินไปยังอาคารห้องวิทยาศาสตร์ หลบ ๆ กันไป จะให้ครูบรรจงเห็นอีกไม่ได้ สุดท้ายก็รอดพ้นเงื้อมมือของครูปกครองสุดโหดมาได้แบบหวุดหวิด ค่อยมาลุ้นเอาทีหลังว่าครูจะตามมาคาดโทษหรือเปล่า
มาถึงห้องวิทยาศาสตร์โชคดีสองต่อ เมื่อครูประจำรายวิชายังไม่เข้าสอน เพื่อน ๆ ต่างพากันจับกลุ่มเม้าท์กันอยู่ เสียงดังจ้าละหวั่นกันเลยทีเดียว ไม่มีใครสนใจการมาสายของพวกเธอสามคนสักคน โชคดีไป พวกเธอสามคนทำตัวปกติที่สุด จะเปิดปากบอกไม่ได้ว่าหลบครูบรรจงมา ไม่อย่างนั้นโดนเอาไปฟ้องแน่ ๆ
“สุนิกูนึกว่าบ่มาเรียน โทรหากะบ่รับ พวกสูสามคนมาตะไสคือมาสายแถะ” โสรญาถาม เดินเข้ามาหาเมื่อพวกเธอสามคนมาถึง บอสนั่งลงโต๊ะว่างที่น้ำผึ้งกับโสรญาจองไว้ให้แล้ว มาเรียนชั่วโมงวิทย์แบบนี้ครูให้นั่งเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมที่เคยนั่งกันนั่นแหละ จึงไม่ต้องเสียเวลาจับกลุ่มใหม่
“ตักบาตรอยู่เฮ๊ย บุญข้าวสากแหมะ กินบ่ยายเขาเฮ็ด” บอสตอบเพื่อน หายใจหอบนิดหน่อย ส่งสายตาให้กันกับแพท ส่วนออยดูจะเป็นกังวลมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ไม่แสดงท่าทางพิรุธออกมาให้เพื่อน ๆ เห็น
“มา ! เอามากินแน่บอส” มอสมาริสาขอด้วยคน บอสยื่นให้คนละอัน
“เอาลองชิมของกูเบิ่ง” แพทยื่นให้โสกับมอสอีกคนละอัน “อะบอสมืงชิมบ่” แพทยื่นให้เธอ
“บ่ ! กูบ่มักไส้บักพร้าว ของกูไส้ถั่วเหลืองแหมะ บ่มัก ! ให้ออยพุ่น” ปัดให้ออยรับแทน
“ไหนมาชิมดูดิ ของเค้าแม่ก็ทำไส้ถั่วเหลืองเหมือนกัน” ออยรับขนมหมกของแพทมาทาน พวกเธอนั่งคุยกันไปเรื่อยรอคุณครู ไม่ยอมพูดถึงวีรกรรมที่ทำมาเมื่อครู่ และ คอยลุ้นว่าครูบรรจงจะมาตามหรือเปล่า ไม่นานครูประจำวิชาก็เข้าสอน
เช้านี้พวกเธอเรียนวิทยาศาสตร์สองชั่วโมงกันเลย จนตอนนี้ก็ยังไร้วี่แววของครูบรรจง คิดว่าพวกเธอน่าจะปลอดภัยแล้วล่ะ