[CR] รีวิว"ภัตตาคารทองฟู"(ท่าพระ) ชาบูหมาล่า A La Carte ตำรับเสฉวนแท้เผ็ดร้อนถึงใจ เริ่มต้นเพียงถาดละ 45฿

กลับมาอีกครั้งกับร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวน-กวางตุ้งใกล้บ้าน "ภัตตาคารทองฟู" อยู่หน้าปากซอยรัชดาภิเศก 8 (ท่าพระ) ตอนนี้กลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนจะไปเราโทรสอบถามเรื่องบุฟเฟ่ต์ติ่มซำนึ่งสดซึ่งทางร้านบอกว่าขณะนี้ยังไม่พร้อมหลายอย่างจึงขอเลื่อนออกไปก่อน แต่มีชาบูหมาล่ามาใหม่จัดเสิร์ฟแบบ A La Carte เริ่มต้นเพียงถาดละ 45 บาท ส่วนตัวเคยมาทานเมนูนี้มาก่อนจำได้ว่าน้ำซุปเผ็ดร้อนรสชาติกลมกล่อมถึงเครื่องเทศแบบเสฉวนแท้สะใจสุดๆที่สำคัญก็คือรอบนี้ไม่ต้องเพิ่มเงินเพื่อซื้อน้ำซุปหมาล่าแบบเดิมอีกต่อไป (เมื่อก่อนที่ร้านเคยเปิดให้บริการเป็นแบบบุฟเฟ่ต์แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 299 บาท ไม่งั้นจะได้ทานแค่ซุปใสรสชาติจืดๆ) จะสั่งมากี่ถาดก็ให้น้ำซุปหมาล่าทันทีได้ยินแบบนี้ก็ต้องรีบไป วิธีการเดินทางมาก็ง่ายๆถ้านำรถยนต์ส่วนตัวมาหน้าร้านมีลานจอดให้ฟรีแต่เดินทางด้วยบริการขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีตลาดพลูประตูทางออกเดอะมอลล์ท่าพระ แล้วเดินหรือเรียกรถต่อมาก็ได้อีกประมาณ 600 ม. สังเกตป้ายชื่อภัตตาคารสีแดงขนาดใหญ่อยู่ริมถนนแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้วครับ

เข้าประตูร้านมาก็จะพบกับการตกแต่งภายในเป็นแบบโมเดิร์นผสมกับความเป็นจีนได้อย่างลงตัว บริเวณชั้น 1 มีการเสริมโต๊ะเพิ่มเพื่อรองรับผู้สูงอายุที่มากับครอบครัวใหญ่แต่เดินขึ้นบันไดไม่สะดวก ชั้น 2 ยังคงเหมือนเดิมก็คือมีโต๊ะโซฟากับโต๊ะจีนทรงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางรอบๆล้อมด้วยห้องรับรองส่วนตัวที่สามารถรองรับลูกค้าได้ตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป และห้องขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับลูกค้าได้ 15-30 คน ภายในห้องมีคาราโอเกะให้บริการ (แนะนำว่าให้โทรมาจองก่อนเพราะมีจำนวนจำกัด) ถ้าไม่ชอบอยู่ในห้องและต้องการออกห่างจากผู้คนสักหน่อยอีกฝั่งของร้านมีโต๊ะแยกให้บริการพร้อมฉากกั้นฉลุไม้ลายจีน เรามาทานวันธรรมดาช่วงบ่ายไม่มีคนอื่นแบบนี้ก็นั่งด้านนอกกันครับ
 
เล่มเมนูของที่ร้านยังมีบริการทั้งอาหารจีนเสฉวน-กวางตุ้งแบบ A La Carte เช่นเคยแต่ชาบูหมาล่าวันที่เรามาเป็นเมนูใหม่ยังไม่ถูกบรรจุลงในเล่มก็ได้เป็นใบสั่งอาหารหน้าตาแบบนี้ อยากทานวัตถุดิบอะไรให้เขียนจำนวนลงไปในช่องว่างด้านขวาสุดโดยราคาเริ่มต้นที่ 45-55 บาท ถ้าเป็นผักสด-ไข่ไก่และเส้นราคาเริ่มต้นที่ 10-30 บาท หากคิดไม่ออกว่าจะสั่งอะไรก็มีจัดให้เป็นชุดเริ่มต้นที่ 199-599 บาท แพงสุดเป็นปลากระพงแล่เสิร์ฟทั้งตัวขนาดใหญ่ราคา 550 บาท เครื่องดื่มราคาเริ่มต้นที่ 20-60 บาท แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินค่าเครื่องดื่มแบบบานปลายที่ร้านมีชาจีนรีฟีลให้เติมได้เรื่อยๆเพียงคนละ 20 บ.เท่านั้น คำเตือนชาจีนของร้านชงมาหอมเข้มดื่มเพลินระวังนอนไม่หลับด้วยนะครับ

สั่งวัตถุดิบต่างๆไปเยอะมากแต่เตาแก๊สพกพาและหม้อน้ำซุป 2 สูตรถูกยกมาวางที่โต๊ะก่อน เริ่มชิมจากหมาล่าที่วันนี้เราขอพนักงานให้ช่วยบอกพ่อครัวหน่อยว่าเอาเผ็ดๆบอกเลยว่าได้ดั่งใจ น้ำซุปสีแดงลอยชุ่มด้วยน้ำมันผัดกับเครื่องเทศตำรับเสฉวนและพริกกลิ่นตีขึ้นจมูก ซดแค่นิดเดียวก็เผ็ดแสบร้อนชาลิ้นด้วยซวงเจียฟังดูทรมาณแต่กลับเป็นการกระตุ้นให้อยากทานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยรวมถือว่าคงมาตรฐานของหมาล่าตำรับเสฉวนเอาไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อก่อนเลยครับ อีกฝั่งเป็นน้ำซุปใสที่มีสีเหลืองทองรสหวานเค็มกลมกล่อมหอมเครื่องสมุนไพรคล้ายๆกับตุ๋นยาจีนทานง่ายๆเหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ด หรือถ้ารู้สึกว่าทางด้านหมาล่าเผ็ดไปสามารถใช้เป็นน้ำซุปผสมเพื่อเจือจางให้เบาบางลงได้ ถ้าสั่งแบบปกติทางร้านจะไม่ได้ทำเผ็ดขนาดนี้ถ้าอยากได้ต้องบอกพนักงานนะครับ

เมนูจานแรกมาเสิร์ฟเป็น "ชุดหมูรวม (สันใน-สันคอ-หมูตุ๋น) พร้อมลูกชิ้น-เกี๊ยว-และผักสด" ราคา 399 บาท ประกอบไปด้วยหมูสันในสไลด์/หมูสันคอสไลด์/หมูสามชั้นตุ๋น/ลูกชิ้นปลาน้ำแตก/เกี๊ยวเสฉวน/เต้าหู้ญี่ปุ่น/วุ้นเส้น/ไข่ไก่และผักรวมหลากหลายชนิดทานได้ประมาณ 2-3 คน แต่กระเพาะเราไม่ใช่มนุษย์ปกติเลยสั่งมาทานอีกชุดเป็น "ชุดซีฟู๊ดรวม (ทะเลกับผัก)" ราคา 599 บาท วัตถุดิบเหมือนกับชุดที่แล้วแต่เปลี่ยนจากหมูต่างๆเป็นกุ้งแม่น้ำ/หมึกกรอบและปลาหมึกสดดูพรีเมี่ยมสมราคาดี แต่ว่าเราเป็นสายเนื้อแค่นี้ยังไม่สะใจเดี๋ยวสั่งวัตถุดิบแยกมาเพิ่มอีกครับ

จานแรกเป็น "หมูสไลด์ส่วนสันคอ" ราคา 45 บาท เนื้อนุ่มแทรกด้วยชั้นไขมันเคี้ยวหนึบๆถือเป็นวัตถุดิบเบสิคที่คอชาบูทุกคนต้องสั่ง หากอยากทานเนื้อนุ่มๆแต่ไม่ค่อยมีไขมันก็สั่งเป็น "หมูสไลด์ส่วนสันใน" ราคา 45 บาท ต่อกันด้วย "เนื้อไก่" ราคา 45 บาท ตอนแรกคิดว่าจะมาเป็นก้อนติดหนังแบบร้านชาบูทั่วไปแต่ที่นี่เขาเอามาแช่แข็งก่อนจะสไลด์ให้บางสวยงามขนาดพอดีคำ นอกจากรูปลักษณ์ที่ดูสวยงามแล้วยังนุ่มเด้งทานง่ายอร่อยไม่แพ้เนื้อหมูเลยครับ อีกจานเป็น "คากิพะโล้" ราคา 45 บาท อุ้งเท้าหมูตุ๋นสไตล์เสฉวนรสชาติหวาน-เค็มหอมสมุนไพรเข้มข้นเข้าเนื้อโดยทางร้านตุ๋นมาให้จนนุ่มเปื่อยแล้วแค่อุ่นในน้ำซุปหมาล่าก็จะได้อารมณ์แบบพะโล้แซ่บเผ็ดชาลิ้นอร่อยสุดๆเลยครับผม

ชุดต่อไปเป็นเมนูซีฟู๊ดเริ่มจาก "กุ้งแม่น้ำ" ราคา 55 บาท แกะเปลือกเหลือแค่หัวกับหางมาให้พร้อมทานได้ง่ายๆถึงแม้ว่าขนาดจะไม่ได้ใหญ่มากแต่เสิร์ฟมาให้ถึง 5 ตัวถือว่าคุ้มราคามากๆครับ จานต่อไปก็คือ "ปลาหมึกสด" ราคา 55 บาท เสิร์ฟมา 3 ตัวขนาดกลางๆเนื้อค่อนข้างสด-แน่นไม่มีกลิ่นเหม็นถือว่าโอเคเลยครับ ตามมาด้วย "ปลาหมึกกรอบ" ราคา 45 บาท เสิร์ฟมา 7 ชิ้นใหญ่เนื้อหนาเด้งกรุบกรอบเคี้ยวสู้ฟันสุดๆถือว่าเป็นวัตถุดิบที่ให้ปริมาณคุ้มค่าอีกจาน เมนูต่อไปเคยได้ยินชื่อเสียงมานานแต่ไม่เคยลองทานนั่นก็คือ "ลูกชิ้นปลาน้ำแตก" เสิร์ฟมาที่ละ 5 ลูกราคา 45 บาท เป็นผลิตภัณฑ์ของนักแสดงชื่อดังอย่าง "ดีเจบุ๊คโกะ" เป็นลูกชิ้นปลาบดเนื้อเด้งเนียนละเอียดเคี้ยวกรอบสู้ฟันสอดไส้ตรงกลางด้วยปลาสับกับน้ำซุปมีกลิ่นหอมน้ำมันงากัดแล้วสาดแตกกระจายในปากสมกับชื่อที่ตั้งมากครับ

ผักอื่นๆในชุดมีให้ทานแค่นิดหน่อยเลยสั่งมาเพิ่มเติมอีกทั้ง "ผักปวยเล้ง" ราคา 30 บาท "ผักบุ้งจีน" ราคา 20 บาท "ผักกวางตุ้งฮ่องกง" ราคา 30 บาท "คื่นฉ่าย" ราคา 30 บาท "ข้าวโพดอ่อน" ราคา 20 บาท "เห็ดเข็มทอง" ราคา 20 บาท "ผักกาดขาว" ราคา 20 บาท ส่วน "วุ้นเส้น" ราคา 20 บาท ให้ปริมาณเทียบกับราคาถือว่าโอเคครับ

จานสุดท้ายเป็น "เกี๊ยวเสฉวน" เมนูเด็ดของทางร้านราคา 45 บาท ให้มา 5 ตัว เป็นเกี๊ยวแป้งสดทำเองสอดไส้ด้วยหมูสับผสมผักกาดขาวรสชาติหวานฉ่ำน้ำเนื้อกับผัก แนะนำว่าต้มให้แป้งด้านนอกสุกใสทานพร้อมกับน้ำซุปหมาล่าเข้ากันได้ดีสุดๆครับ ส่วนน้ำจิ้มทางร้านจะยกมาให้เป็นถ้วยเล็กๆแบบนี้ (อนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นซุ้มให้มาตักเอง) รวมทั้งหมด 11 รายการผสมกันได้ตามใจทั้ง ซีอิ๊วขาว/ซีอิ๊วดำ/ซอสงา/น้ำพริกเผาจีน/ซอสเปรี้ยว/น้ำจิ้มสุกี้/กระเทียมสับ/พริกสด/ต้นหอม/ผักชี/มะนาวออกมาเป็นน้ำจิ้มสูตรเสฉวน หากผสมไม่เป็นหรือรู้สึกงงก็สามารถขอให้น้องพนักงานปรุงให้ก็จะได้รสชาติแบบเดียวกันทุกถ้วย (จะเพิ่มหวาน-เค็ม-ลดเปรี้ยวไม่ใส่อะไรก็สั่งได้ตามใจ)

วัตถุดิบทุกอย่างมาครบก็เปิดเตาแก๊สรอน้ำซุปเดือดแล้วนำวัตถุดิบที่สั่งมาจุ่มลงไป ด้วยความที่หมาล่าของทางร้านรสชาติเค็มกำลังดี-เผ็ดร้อน-หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรแบบเข้มข้นจึงซึมเข้าไปด้านในเนื้อสัตว์ได้ง่ายแบบไม่ต้องทานกับน้ำจิ้มก็อร่อยได้ความเป็นเสฉวนแบบเต็มๆคำ ส่วนซีฟู๊ดต่างๆแนะนำว่าแค่ลวกพอสุกไม่งั้นเนื้อจะหดหายไปค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว อีกข้างที่เป็นน้ำซุปใสรสหวานกลมกล่อมเราใส่ผักลงไปลวกเอาไว้ทานสลับกันเพื่อแก้ความเผ็ดของหมาล่าทำให้ทานได้เรื่อยๆไม่มีสะดุด เข้าใจเลยว่าทำไมเมื่อก่อนทางร้านต้องเก็บค่าน้ำซุปเพิ่มเมื่อสั่งหมาล่าเพราะเขาใส่พริกแห้งผัดกับน้ำมันกับเครื่องเทศต่างๆแบบจัดเต็มไม่มีหวง ตอนนี้ไม่คิดเงินเพิ่มแล้วถือว่าคุ้มมากครับ

ชาบูที่ดีนอกจากน้ำซุปจะอร่อยเด็ดแล้วก็ต้องมีน้ำจิ้มที่รสชาติโดนใจ "ภัตตาคารทองฟู" เสิร์ฟให้ทานคู่กันถึง 4 สูตรก็คือ 1.น้ำจิ้มตำรับเสฉวน ที่เราขอให้น้องพนักงานช่วยปรุงมีความหวานมันอมเปรี้ยวกลมกล่อมหอมกระเทียม/พริกสด/ต้นหอมและผักชีสดชื่น โดยรวมมีความอร่อยนัวๆช่วยลดความเผ็ดร้อนของหมาล่าลงทำให้ทานง่ายมากยิ่งขึ้น 2.น้ำจิ้มสุกี้กวางตุ้งสูตรทำเองของทางร้าน รสชาติหวานกลิ่นซอสพริก-มะเขือเทศค่อนข้างเด่น ผสมกับงาขาว-น้ำมันงากลมกล่อมเหมาะกับทานเป็นน้ำจิ้มเด็ก แนะนำให้ปรุงรสชาติเพิ่มด้วยการใส่พริกกระเทียมสับและบีบมะนาวลงไปอีกหน่อยอร่อยเด็ดตามแบบฉบับที่คนไทยทั่วไปชอบ 3.น้ำจิ้มเสฉวน มันก็คือจิ๊กโฉ่วปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน ตั้งต้นด้วยซอสเปรี้ยวผสมซีอิ๊วใส่กระเทียมเจียว-พริกสดและผักชี โดยรวมมีความคล้ายน้ำจิ้มพอนสึของญี่ปุ่นแต่มีความเป็นจีนมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นการเปิดประสบการณ์น้ำจิ้มชาบูสูตรใหม่ที่ไม่เหมือนร้านไหนแนะนำว่าต้องลองครับ 4.น้ำจิ้มซีฟู๊ด สูตรพิเศษของร้านนี้คือการเอาพริก-กระเทียมไปย่างก่อนเอามาตำและปรุงรสให้เปรี้ยวเค็มอมหวานนิดๆจุดเด่นจึงอยู่ที่กลิ่นย่าง แรกๆอาจจะรู้สึกไม่คุ้นสักหน่อยแต่พอทานไปเรื่อยๆก็อร่อยไปอีกแบบครับผม

******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *******
ชื่อสินค้า:   ภัตตาคารทองฟู (ท่าพระ)
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่