สวัสดีครับ วันนี้จะมาพูดเกี่ยวกับ "สิ่งที่ผู้คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับออร์โธด็อกซ์" ซึ่งแอดเอามา 5 อย่าง เหตุผลที่ทำเรื่องนี้ก็เพราะว่าส่วนใหญ่มีคนถามแอดมา (เจอประสบการณ์ตรงก็มี) ก็เลยถือโอกาสบอกเล่าอธิบายให้เข้าใจเลยละกัน 55555555
ปล.ขออภัยเรื่องภาพที่ไม่ค่อยชัดครับ -/\-
1. คริสเตียนออร์โธด็อกซ์มีความเชื่อคล้ายกับ "ชาวยิว.."

อันนี้ถือเป็นประสบการณ์ตรงของแอดเลยครับ ซึ่งมักมีคนเข้าใจผิดคิดว่าออร์โธด็อกซ์เนี่ยเป็น 'ยิวออร์โธด็อกซ์ (Orthodox Judaism)' ซึ่งจริง ๆ แล้วระหว่างออร์โธด็อกซ์กับยิวออร์โธด็อกซ์ไม่มีอะไร #เหมือนกัน เลยครับทั้งในเรื่องที่ชาวออร์โธด็อกซ์เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า, เป็นบุตรของพระเจ้า และเป็นพระเมสสิยาห์ ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ชาวยิวปฏิเสธทั้งสิ้นครับ
#สรุป คริสเตียนออร์โธด็อกซ์ไม่ได้เชื่อแบบชาวยิวจ้า
2. สภาพสตรีคลุมผมตลอดเวลาเหมือนชาวมุสลิม

ในเรื่องประเด็นนี้มีทั้งถูกและไม่ถูกนิดหน่อย บางคนยังเข้าใจผิดว่าสตรีชาวออร์โธด็อกซ์นั้นคลุมผมตลอดเวลาซึ่งจริง ๆ แล้วจะคลุมเฉพาะในโบสถ์หรือในเขตอารามนักพรตเท่านั้นครับ ถ้าจะพูดกันจริง ๆ การคลุมผมนี้ถือว่าเป็นแค่ธรรมเนียมไม่ใช่กฎของพระศาสนจักรแต่อย่างใดจึงทำให้ปัจจุบันธรรมเนียมนี้เริ่ม ๆ หายไปจะเห็นได้ก็ที่รัสเซีย เซอร์เบีย หรือจอร์เจียครับ
#แล้วคลุมคล้ายชาวมุสลิมไหม? เรื่องนี้อยู่ที่ตัวผู้คลุมครับ อย่างในภาพจะเป็นกลุ่มสตรีที่ถือจารีตดั้งเดิมของทางรัสเซีย (Old Rite) การคลุมผมจะเป็นในลักษณะค่อนข้างคล้ายฮิญาปหน่อย ๆ 55555555
3. นักบวชออร์โธด็อกซ์จะไว้หนวดเคราทุกคน

เรื่องการไว้หนวดเคราของนักบวชออร์โธด็อกซ์นั้นถือเป็นคำตอบเบสิคมาก ๆ เวลามีคนถามเกี่ยวกับความแตกต่างของออร์โธด็อกซ์ ซึ่งร้อยละ 90 จะมักเปรียบเทียบว่านักบวชออร์โธด็อกซ์นั้นจะไว้หนวดเครากัน จริง ๆ เรื่องการไว้หนวดเคราถือเป็นแค่ธรรมเนียมเท่านั้นครับไม่มีกฎว่าต้องไว้เสมอ นักบวชสามารถเลือกได้เองว่าจะไว้ หรือโกนทิ้ง แต่นักบวชออร์โธด็อกซ์ 99.99% ก็เลือกที่จะไว้
4. ชาวคริสเตียนออร์โธด็อกซ์ไม่รับประทานสิ่งที่ถูกห้ามไว้ในยุคพันธสัญญาเดิม

เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิดมาก ซึ่งแอดเชื่อว่าชาวคริสต์หลาย ๆ คนก็อาจเคยถูกถามจากเพื่อนบ้านว่า "เป็นคริสต์กินหมูไหม?" ก็ขอตอบเลยว่า "กินจ้า"
= ทำไมกินได้ละ! =
อ้างอิงจากหนังสือในพันธสัญญาเดิม เลวีนิติ 11:4-8, เฉลยธรรมบัญญัติ 14:3-8 และ อิสยาห์ 65:2-5 เป็นต้น จะเห็นได้ว่ามีการห้ามกินอาหารหรือสัตว์บางชนิด กฎนี้ถูกใช้มาเรื่อย ๆ จนถือเป็นเรื่องดราม่ายิ่งใหญ่ในยุคของอัครสาวก เพราะในยุคนั้นมีชาวยิวมากมายเชื่อในพระคริสต์แต่ยังถือในบัญญัติเดิมจึงทำให้ชาวยิวกลุ่มนั้นไปต่อว่ากลุ่มคนต่างชาติที่ไม่ได้ถือบัญญัติของพวกเขา เหล่าอัครสาวกจึงจัดสภาขึ้น (เทียบ กิจการ 15:1-35) ในสภาครั้งนี้อัครสาวกแทบทุกคนได้มาร่วมตัวกันประชุม ซึ่งประเด็นในการประชุมก็มีเรื่องอาหารการกินเช่นกัน ซึ่งก็ถือว่าชาวคริสเตียนออร์โธด็อกซ์ส่วนใหญ่จะถือข้อความจากสภาครั้งนี้
ตามคำของนักบุญยากอบ "เพราะฉะนั้นตามความเห็นของข้าพเจ้า อย่าให้เราเพิ่มความยุ่งยากแก่คนต่างชาติที่กลับมาหาพระเจ้า แต่ให้เขียนจดหมายถึงพวกเขาว่า ให้งดเว้นเสียจากสิ่งที่เป็นมลทินเนื่องด้วยรูปเคารพ จากการล่วงประเวณี จากการกินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และจากการกินเลือด" จากคำพูดของนักบุญยากอบนั้นก็ถือเป็นบทสรุปในเรื่องนี้ครับ
= แล้วยังมีชาวออร์โธด็อกซ์ที่ถือบัญญัตินี้ไหม? =
ต้องบอกก่อนนะครับในเรื่องเนี่ยทางพระศาสนจักรไม่ได้มีกฎข้อห้ามในการถือบัญญัติข้อนี้ หากใครจะถือศาสนจักรก็ไม่ขัดขวางครับ แอดเชื่อว่าในปัจจุบันก็มีคนธรรมดาถือบัญญัตินี้ครับแต่คงน้อย แต่ก็มีคนกลุ่มพิเศษที่ละเว้นจากการกินเนื้อสัวต์ใหญ่ หรืออื่น ๆ นั้นก็คือเหล่านักพรตครับ นักพรตบางคนก็อาจเป็นวีแกนเลยทีเดียว
5. สุภาพบุรุษต้อง "สุหนัต..."

ฮ่า ๆๆ อันนี้ถือเป็นเรื่องที่อาจจะดูสยิวสำหรับคนที่กำลังจะเป็นคริสเตียนออร์โธด็อกซ์หน่อย ๆ ครับ ซึ่งก็เคยมีคนถามแอดมาเหมือนกันแล้วถ้าหากย้อนไปดูภาพแรกในเรื่องที่มีคนคิดว่าชาวออร์โธด็อกซ์นั้นมีความเชื่อคล้ายชาวยิว ก็ไม่แปลกที่จะมีคนคิดงี้ด้วย
แอดขอยืนยันเลยว่าการที่จะมาเป็นคริสเตียนออร์โธด็อกซ์นั้นไม่ต้องมีการสุหนัตใด ๆ ทั้งสิ้น อาจจะมีก็ตามกลุ่มคนที่มีวัฒนธรรมนี้อย่างเช่นชาวยิวที่เป็นออร์โธด็อกซ์ หรือชาวออร์โธด็อกซ์แถบตะวันออกกลางครับ
แอดขอจบด้วยคำพูดหล่อ ๆ ของนักบุญเปาโลที่พูดไว้ในจดหมายของท่านที่ส่งถึงชาวกาลาเทียว่า "เพราะว่าในพระเยซูคริสต์นั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัตไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ความเชื่อซึ่งแสดงออกเป็นการกระทำด้วยความรักนั้นสำคัญ ท่านกำลังก้าวหน้า"
CR. :
https://www.facebook.com/peeptheorthodox/posts/946814412116925
5 สิ่งที่ผู้คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "ออร์โธด็อกซ์" #knowtheorthodox
ปล.ขออภัยเรื่องภาพที่ไม่ค่อยชัดครับ -/\-
1. คริสเตียนออร์โธด็อกซ์มีความเชื่อคล้ายกับ "ชาวยิว.."
อันนี้ถือเป็นประสบการณ์ตรงของแอดเลยครับ ซึ่งมักมีคนเข้าใจผิดคิดว่าออร์โธด็อกซ์เนี่ยเป็น 'ยิวออร์โธด็อกซ์ (Orthodox Judaism)' ซึ่งจริง ๆ แล้วระหว่างออร์โธด็อกซ์กับยิวออร์โธด็อกซ์ไม่มีอะไร #เหมือนกัน เลยครับทั้งในเรื่องที่ชาวออร์โธด็อกซ์เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า, เป็นบุตรของพระเจ้า และเป็นพระเมสสิยาห์ ซึ่งในเรื่องเหล่านี้ชาวยิวปฏิเสธทั้งสิ้นครับ
#สรุป คริสเตียนออร์โธด็อกซ์ไม่ได้เชื่อแบบชาวยิวจ้า
2. สภาพสตรีคลุมผมตลอดเวลาเหมือนชาวมุสลิม
ในเรื่องประเด็นนี้มีทั้งถูกและไม่ถูกนิดหน่อย บางคนยังเข้าใจผิดว่าสตรีชาวออร์โธด็อกซ์นั้นคลุมผมตลอดเวลาซึ่งจริง ๆ แล้วจะคลุมเฉพาะในโบสถ์หรือในเขตอารามนักพรตเท่านั้นครับ ถ้าจะพูดกันจริง ๆ การคลุมผมนี้ถือว่าเป็นแค่ธรรมเนียมไม่ใช่กฎของพระศาสนจักรแต่อย่างใดจึงทำให้ปัจจุบันธรรมเนียมนี้เริ่ม ๆ หายไปจะเห็นได้ก็ที่รัสเซีย เซอร์เบีย หรือจอร์เจียครับ
#แล้วคลุมคล้ายชาวมุสลิมไหม? เรื่องนี้อยู่ที่ตัวผู้คลุมครับ อย่างในภาพจะเป็นกลุ่มสตรีที่ถือจารีตดั้งเดิมของทางรัสเซีย (Old Rite) การคลุมผมจะเป็นในลักษณะค่อนข้างคล้ายฮิญาปหน่อย ๆ 55555555
3. นักบวชออร์โธด็อกซ์จะไว้หนวดเคราทุกคน
เรื่องการไว้หนวดเคราของนักบวชออร์โธด็อกซ์นั้นถือเป็นคำตอบเบสิคมาก ๆ เวลามีคนถามเกี่ยวกับความแตกต่างของออร์โธด็อกซ์ ซึ่งร้อยละ 90 จะมักเปรียบเทียบว่านักบวชออร์โธด็อกซ์นั้นจะไว้หนวดเครากัน จริง ๆ เรื่องการไว้หนวดเคราถือเป็นแค่ธรรมเนียมเท่านั้นครับไม่มีกฎว่าต้องไว้เสมอ นักบวชสามารถเลือกได้เองว่าจะไว้ หรือโกนทิ้ง แต่นักบวชออร์โธด็อกซ์ 99.99% ก็เลือกที่จะไว้
4. ชาวคริสเตียนออร์โธด็อกซ์ไม่รับประทานสิ่งที่ถูกห้ามไว้ในยุคพันธสัญญาเดิม
เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิดมาก ซึ่งแอดเชื่อว่าชาวคริสต์หลาย ๆ คนก็อาจเคยถูกถามจากเพื่อนบ้านว่า "เป็นคริสต์กินหมูไหม?" ก็ขอตอบเลยว่า "กินจ้า"
= ทำไมกินได้ละ! =
อ้างอิงจากหนังสือในพันธสัญญาเดิม เลวีนิติ 11:4-8, เฉลยธรรมบัญญัติ 14:3-8 และ อิสยาห์ 65:2-5 เป็นต้น จะเห็นได้ว่ามีการห้ามกินอาหารหรือสัตว์บางชนิด กฎนี้ถูกใช้มาเรื่อย ๆ จนถือเป็นเรื่องดราม่ายิ่งใหญ่ในยุคของอัครสาวก เพราะในยุคนั้นมีชาวยิวมากมายเชื่อในพระคริสต์แต่ยังถือในบัญญัติเดิมจึงทำให้ชาวยิวกลุ่มนั้นไปต่อว่ากลุ่มคนต่างชาติที่ไม่ได้ถือบัญญัติของพวกเขา เหล่าอัครสาวกจึงจัดสภาขึ้น (เทียบ กิจการ 15:1-35) ในสภาครั้งนี้อัครสาวกแทบทุกคนได้มาร่วมตัวกันประชุม ซึ่งประเด็นในการประชุมก็มีเรื่องอาหารการกินเช่นกัน ซึ่งก็ถือว่าชาวคริสเตียนออร์โธด็อกซ์ส่วนใหญ่จะถือข้อความจากสภาครั้งนี้
ตามคำของนักบุญยากอบ "เพราะฉะนั้นตามความเห็นของข้าพเจ้า อย่าให้เราเพิ่มความยุ่งยากแก่คนต่างชาติที่กลับมาหาพระเจ้า แต่ให้เขียนจดหมายถึงพวกเขาว่า ให้งดเว้นเสียจากสิ่งที่เป็นมลทินเนื่องด้วยรูปเคารพ จากการล่วงประเวณี จากการกินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และจากการกินเลือด" จากคำพูดของนักบุญยากอบนั้นก็ถือเป็นบทสรุปในเรื่องนี้ครับ
= แล้วยังมีชาวออร์โธด็อกซ์ที่ถือบัญญัตินี้ไหม? =
ต้องบอกก่อนนะครับในเรื่องเนี่ยทางพระศาสนจักรไม่ได้มีกฎข้อห้ามในการถือบัญญัติข้อนี้ หากใครจะถือศาสนจักรก็ไม่ขัดขวางครับ แอดเชื่อว่าในปัจจุบันก็มีคนธรรมดาถือบัญญัตินี้ครับแต่คงน้อย แต่ก็มีคนกลุ่มพิเศษที่ละเว้นจากการกินเนื้อสัวต์ใหญ่ หรืออื่น ๆ นั้นก็คือเหล่านักพรตครับ นักพรตบางคนก็อาจเป็นวีแกนเลยทีเดียว
5. สุภาพบุรุษต้อง "สุหนัต..."
ฮ่า ๆๆ อันนี้ถือเป็นเรื่องที่อาจจะดูสยิวสำหรับคนที่กำลังจะเป็นคริสเตียนออร์โธด็อกซ์หน่อย ๆ ครับ ซึ่งก็เคยมีคนถามแอดมาเหมือนกันแล้วถ้าหากย้อนไปดูภาพแรกในเรื่องที่มีคนคิดว่าชาวออร์โธด็อกซ์นั้นมีความเชื่อคล้ายชาวยิว ก็ไม่แปลกที่จะมีคนคิดงี้ด้วย
แอดขอยืนยันเลยว่าการที่จะมาเป็นคริสเตียนออร์โธด็อกซ์นั้นไม่ต้องมีการสุหนัตใด ๆ ทั้งสิ้น อาจจะมีก็ตามกลุ่มคนที่มีวัฒนธรรมนี้อย่างเช่นชาวยิวที่เป็นออร์โธด็อกซ์ หรือชาวออร์โธด็อกซ์แถบตะวันออกกลางครับ
แอดขอจบด้วยคำพูดหล่อ ๆ ของนักบุญเปาโลที่พูดไว้ในจดหมายของท่านที่ส่งถึงชาวกาลาเทียว่า "เพราะว่าในพระเยซูคริสต์นั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัตไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ความเชื่อซึ่งแสดงออกเป็นการกระทำด้วยความรักนั้นสำคัญ ท่านกำลังก้าวหน้า"
CR. : https://www.facebook.com/peeptheorthodox/posts/946814412116925